4 ยักษ์พรีเมียร์ลีก ทีมไหนจะคว้าแชมป์ FA CUP 2020 หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 เริ่มดีขึ้น ฟุตบอลในหลายๆลีกเริ่มกลับมาฟาดแข้งกันต่อ ซึ่งฟุตบอลอังกฤษที่คนไทยติดตามกันมากที่สุด ไม่ต้องตามลุ้นแชมป์กันไปอีกรายการแล้ว นั่นก็คือพรีเมียร์ลีกที่ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ไปตามคาด อย่างไรก็ตามยังเหลือแชมป์อีกหนึ่งรายการที่ต้องตามลุ้นกันต่อ สำหรับถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดอย่าง เอฟ.เอ.คัพ และสถานการณ์ล่าสุดได้ 4 ทีมเข้าไปในรอบรองชนะเลิศเรียบร้อย ซึ่งน่าแปลกก็คือ ทั้ง 4 ทีม เป็นแชมป์เก่า เอฟ.เอ. คัพ ใน 4 ปีหลังสุดด้วย โดยเมื่อปีที่แล้วทีมแชมป์ก็คือ แมนฯซิตี้ ที่ต้อนเอาชนะ วัตฟอร์ด ไปแบบสบายๆ 6 : 0 ส่วนในปี 2017-18 แชมป์ก็คือ เชลซี ที่เฉือน แมนฯยูไนเต็ด 1 : 0 ขณะที่ปี 2016-17 อาร์เซนอล เชือด เชลซี 2 : 1 คว้าแชมป์ได้สำเร็จและยังยึดสถิติแชมป์เอฟ.เอ.คัพ มากที่สุด 13 สมัยอีกด้วย และย้อนไปในปี 2015-16 แชมป์ก็คือ แมนฯยูไนเต็ด ที่เอาชนะ คริสตัล พาเลซ ไปได้ 2 : 1 มาในปี 2019-20 เหมือนกับเอาแชมป์ 4 ปีหลังสุดเข้ามาหาแชมป์เหนือแชมป์ เลยทีเดียว และผลประกบคู่ในรอบรองชนะเลิศออกมาแล้วปรากฏว่าเป็นทาง แมนฯยูไนเต็ด พบกับ เชลซี อาร์เซนอล พบกับ แมนฯซิตี้ เรียกว่าเป็นปีที่น่าสนใจอีกปีของศึกเอฟ.เอ.คัพ เมื่อมี 4 ทีมใหญ่หลุดเข้ามาฟาดฟันกันในรอบรองชนะเลิศ ส่วนตามหน้าเสื่อ ตามฟอร์มในปัจจุบัน เชื่อว่าหลายคนคงต้องยกให้ แมนฯซิตี้ น่าจะมีภาษีดีที่สุดในการจะคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน และหากว่า แมนฯซิตี้ คว้าแชมป์ได้ ก็จะกลายเป็น ดับเบิ้ลแชมป์บอลถ้วยครั้งแรกของพวกเขาอีกด้วย อย่างไรก็ตามคงไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ว่าฟอร์ม โดยรวมของ แมนฯซิตี้ จะยังคงน่ากลัว แต่ก็ไม่ใช่จะแพ้ไม่ได้ เพราะในพรีเมียร์ลีกก็เพิ่งจะแพ้ให้กับ เชลซี ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ โดยไม่ต้องสนใจผลการแข่งขันที่จะต้องเจอกันในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้แต่อย่างไร แต่ถึงกระนั้นหากให้ฟันธงผลการแข่งขันในรอบรองระหว่าง แมนฯซิตี้ กับ อาร์เซนอล โอกาศน่าจะเป็นทางฝั่ง แมนฯซิตี้ มากกว่าชัดเจน ขณะที่อีกคู่หนึ่ง แมนฯยูไนเต็ด กับ เชลซี ต้องบอกว่าสูสี ออกฝั่งไหนก็ได้ แต่หากอิงกับสถิติในฤดูกาลนี้พบกันมา 3 ครั้ง ในพรีเมียร์ลีก 2 นัด เชลซี แพ้แบบเกมศูนย์ โดนยิงไปถึง 6 ประตูเลยทีเดียว แม้รูปเกมอาจจะไม่ได้แพ้ขาดขนาดนั้น แต่ว่าเรื่องของทีเด็ดทีขาดสู้ แมนฯยูไนเต็ดไม่ได้ ส่วนใน คาราบาวคัพ ได้เล่นในบ้าน แต่ก็ยังแพ้ไปอีก 2 : 1 ดังนั้นการมาเจอกันอีกครั้งในรอบรองชนะเลิศ เอฟ.เอ.คัพ ต้องดูว่า แฟรงค์ แลมพาร์ด จะปลุกเร้าลูกทีมให้มีความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะ แมนฯยูไนเต็ด ได้ขนาดไหน หรือว่า เชลซี ยุค แลมพาร์ด จะกลายเป็นทีมที่แพ้ทาง แมนฯยูไนเต็ด แต่หากว่าให้ฟันธง โอกาศน่าจะเป็นทาง ฝั่ง แมนฯยูไนเต็ด ที่หาก โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ไม่จัดตัวผู้เล่นแบบคิดมากเกินไป น่าจะเบียดชนะ เชลซี ไปได้อีกครั้ง และถ้าเป็นเช่นนั้น ดาร์บี้แมตช์เมืองแมนเชสเตอร์ ก็จะเกิดขึ้นอีกครั้งในนัดชิงชนะเลิศ เอฟ.เอ.คัพ 2019-2020 ซึ่งหากว่ากันตามฟอร์มการเล่น ตัวนักเตะรวมถึงตัวกุนซือผู้วางแผนอยู่ที่ข้างสนาม ต้องบอกว่าโอกาสที่ แมนฯซิตี้ จะคว้าดับเบิ้ลแชมป์บอลถ้วยเป็นครั้งแรก มีมากกว่าโอกาสที่ แมนฯยูไนเต็ด จะทำสถิติแชมป์เอฟ.เอ.คัพ มากที่สุดขึ้นไปทาบ อาร์เซนอล อยู่พอสมควรทีเดียว สถิติแชมป์เอฟ.เอ.คัพ ของทั้ง 4 ทีม ในรอบรองชนะเลิศปี 2019-2020 อาร์เซน่อล 13 สมัย แมนฯยู 12 สมัย เชลซี 8 สมัย แมน ซิตี้ 6 สมัย ขอบคุณภาพประกอบจาก sport.trueid.net ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4