หากคุณเพิ่งสนใจหรือเตรียมตัวดู MotoGP ครั้งแรก บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักเบื้องต้นเกี่ยวกับโลกการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชั้นนำ เพื่อให้การชมสนุกและเข้าใจมากขึ้น โดยจะครอบคลุมตั้งแต่กติกา พิกัดรถ ทีม-นักขี่ชื่อดัง ไปจนถึงเทคนิคดูการแข่งขันให้ไม่พลาดเสี้ยววินาทีสำคัญ เข้าใจ “คลาส” ของ MotoGP MotoGP (พิกัด 1000 ซีซี) ระดับสูงสุดของรายการ ใช้รถต้นแบบจากผู้ผลิต (Factory) อย่างฮอนด้า ยามาฮ่า ดูคาติ และบีเอ็มดับเบิลยู เครื่องยนต์ความจุ 990–1000 ซีซี กำลังม้า 240–260 แรงม้า ความเร็วสูงสุดราว 350 กม./ชม. แข่งขันจบในรอบสนาม 18–20 รอบ (ขึ้นกับระยะทางแต่ละสนาม) Moto2 (พิกัด 765 ซีซี) ใช้เครื่อง Triumph 765 ซีซี เดียวกันทุกทีม แต่งระบบช่วงล่างและคาร์บอนไฟเบอร์ได้ตามสังกัด มุ่งเน้นตัดสิน “ฝีมือคนขับ” เป็นหลัก เพราะพละกำลังเครื่องใกล้เคียงกัน Moto3 (พิกัด 250 ซีซี) คลาสเปิดตัวสำหรับดาวรุ่ง ใช้เครื่องสูบเดียว 250 ซีซี ม้าไม่เกิน 60 แรงม้า เข้าปะทะกันอย่างดุเดือด มีการ “กรุ๊ปกริ๊ด” กระหน่ำสปีดกันเป็นกองทัพ ความเร็วสูงสุดราว 240 กม./ชม. ทีมและนักขี่สำคัญที่ควรรู้จัก ทีมโรงงาน (Factory Teams) Repsol Honda Team: ฮอนด้าแดง-ส้ม ต้นแบบทีมที่คว้าแชมป์หลายสมัย ชื่อชั้นแน่นอน Monster Energy Yamaha MotoGP: ยามาฮ่าสีน้ำเงิน-ดำ มีนักขี่อย่าง ฟาบิโอ ควาร์ตาราโร (Fabio Quartararo) เจ้าของแชมป์โลก 2021 Ducati Lenovo Team: ดูคาติแดง ปัจจุบันครองความเร็วบนตรงยาวและโค้งคมจิก ดาเนียล เปตรุชชี่ (Danilo Petrucci) มีทีมแข่งย่อยอย่าง Pramac Ducati ทีมสังกัดอิสระ (Satellite Teams) รับเครื่องยนต์จากโรงงาน แต่ใช้สเปกไม่เต็ม มักมีชื่อทีมอย่าง RNF Aprilia, GasGas Tech3, LCR Honda SBK แม้เครื่องไม่แรงเท่าโรงงาน บางครั้งนักขี่ดาวรุ่งสร้างเซอร์ไพรส์ได้ เช่น มาเวอริก บีญาเลส (Maverick Viñales) เคยถูกทีมฤดูกาลใหม่ดึงจากยามาฮ่าเข้า Aprilia นักขี่ดาวรุ่งห้ามพลาด ฟาบิโอ ดิจันติโอโด้ (Fabio Di Giannantonio) ทีม Gresini Racing, มาเรียโน ดิ อัสซ่า (Marco Bezzecchi) ทีม VR46 Ducati Forward, Pedro Acosta (Moto2 แชมป์โลก 2021 เตรียมก้าวสู่ MotoGP ในปี 2023) กฎ-กติกาพื้นฐานที่ต้องรู้ คะแนนสะสม จบอันดับ 1–15 รับคะแนนตามลำดับ (25, 20, 16, 13, 11… จน 1 คะแนน) แข่งขันทั้งหมด 20–22 สนามต่อฤดูกาล ใครสะสมคะแนนสูงสุดท้ายฤดูกาลคว้าแชมป์โลก กติกาควอลิฟาย (Qualifying) แบ่ง Q1–Q2: ช่วงเวลาแตะแฟลกสีเหลือง นักขับที่มีคะแนนรอบฝึกซ้อมรวมต่ำสุด 10 คนนั่ง Q2 เลย ส่วนอันดับ 11–30 ต้องวิ่ง Q1 เพื่อลุ้น 2 ตำแหน่งท้าย Q2 ตำแหน่งกริด (Grid) จะเรียงจากผล Q2 เริ่มสตาร์ทโดยนักขี่กริด 1 ไปจนกริด 22 การเปลี่ยนยางและยุทธวิธี ยางหน้าช่วงต้นมี Soft, Medium, Hard และยางหลังแบ่งเป็น Soft, Medium, Hard สำหรับถนนแห้ง (Dry) ยาง Wet เฉพาะสนามชื้น น้ำบนพื้นเกิด นักขี่และทีมต้องวางแผนเลือกยางให้เหมาะสมกับอุณหภูมิสนาม และคาดอายุการใช้งานให้พอดีตลอด 20 รอบสนาม ธงบอกสัญญาณ ธงเขียว: เริ่มหรือสตาร์ท ธงเหลืองสั่น: โซนอันตรายให้ลดความเร็ว คือการเตือนว่าบนสนามมีเหตุ, ธงเหลืองนิ่ง: อุบัติเหตุ, ห้ามการแซงในโซนธง ธงแดง: หยุดการแข่งขันชั่วคราว (เช่น ฝนตกหนัก, อุบัติเหตุรุนแรง) ธงน้ำเงิน: เตือนให้รถที่ตามมาเร็วแซงออกไปได้ ธงดำ-ขาว-ส้ม: เตือนนักขี่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม (เช่น แซงผิดกติกา) ธงออเรนจ์กับจุดดำ: เตือนให้เช็คล้อ/เครื่องยนต์ บางทีมอาจขับไปสังเกตสภาพรถแล้วค่อยกลับสู่พิท สนามไฮไลต์และจังหวะสำคัญที่คนดูไม่ควรพลาด Circuit de Catalunya (บาร์เซโลนา, สเปน) โค้งที่ 3–4 เป็นจุดแซงสำคัญก่อนขึ้น Blind Turn 10 โอบโค้งกลับไปเหนือถนนหลัก จังหวะรอบควอลิฟายที่นักขี่ลุ้นทำเวลาต่ำสุดก่อนธงเหลืองจะมากวน Autodromo Internazionale del Mugello (เมืองมูเจลโล, อิตาลี) สนามล้วนโค้ง “ไหล” รวดเดียวเกือบ 7 กิโลเมตร ความเร็วสูงสุดเกือบ 350 กม./ชม. จังหวะแซงบนทางตรงยาว 1.141 กม. ก่อนเข้าโค้งแรก เป็นช่วงเวลาที่แฟน MotoGP ชอบฉลองหลังกดชัตเตอร์ได้คม Circuit of the Americas (เท็กซัส, สหรัฐฯ) มีทางขึ้นเนินสูงชัน (Turn 1) และโค้งยากติดต่อกัน (Turn 4–5–6) ทำให้ได้ “ซิกเนเจอร์” วิ่งสปรินท์ขึ้นเนิน แล้วเบรกแรงลงล่าง Sepang International Circuit (กัวลาลัมเปอร์, มาเลเซีย) อากาศร้อนอบอ้าว จึงมักมีโอกาสฝนกระหน่ำกลางแข่งขัน ช่วงปี 2015–2017 หลายครั้งทีมต้องเปลี่ยนยาง Wet กลาง Race สนามนี้นักขี่ต้องวางแผนใช้ยางหลังให้พอดีกับระยะ 20 รอบสนาม ไม่งั้นยางจะสึกเร็วจนน็อกเอาต์กลางทาง เทคนิคดู MotoGP ให้สนุกและเข้าใจมากขึ้น(จากเทคนิคส่วนตัว) ติดตามไลฟ์สกอร์และกราฟฟิกในหน้าจอ ระบบกราฟฟิก Live Timing ของช่องที่ฉาย จะบอก “ความเร็วสูงสุด,” “Gap,” “Lap Time” แบบเรียลไทม์ ช่วยให้รู้จังหวะเมื่อใดควรหูฟังคอมเมนต์ว่าเกิดอะไรขึ้น สังเกตสีสัญลักษณ์บนกราฟ: เหลือง = เหตุการณ์รอบฝึกซ้อม/Race, แดง = เร็วที่สุด, น้ำเงิน = ช้า พยายามรู้ชื่อ “นักขี่ดาวดัง” และ “สังกัดทีม” ชื่อ: มาร์ค มาร์เกซ (Marc Márquez), ฟาบิโอ ควาร์ตาราโร (Fabio Quartararo), ฟรังโก โมบีเดลลี่ (Franco Morbidelli), โยฮันน์ ซาร์โก้ (Johann Zarco) ทีม: Repsol Honda, Monster Energy Yamaha, Pramac Ducati, Aprilia Racing พอรู้ชื่อ-ทีมจะรู้ทันทีว่าใครเป็น “คู่แข่งสายแซง,” ใครเน้นลากยาวเปิดท้าย Straight Speed ตัดสินใจแก้เกมเวลา Race ดูคลิปรีเพลย์ไฮไลต์แต่ละสนาม หลังจบ Race มักมีคลิปรวบรวมจังหวะแซงเด็ด ๆ การล้ม รถชน หรือฉากต่อสู้อย่างดุเดือด แต่ละสนามมีสไตล์ต่างกัน เช่น มูเจลโลเป็นทางตรงยาว ส่วน VM Testing (Catalunya) เน้นโค้ง Technical ติดตามข่าวสารก่อน–หลัง Race ช่องทางอย่าง MotoGP.com, Social Media ของแต่ละทีม, Podcast บทวิเคราะห์หลัง Race จะช่วยให้เข้าใจเหตุผลเบื้องหลังแต่ละการตัดสินใจของทีม นักขี่ และผู้ผลิต รู้จัก “เหตุการณ์พิเศษ” เช่น FP/QT ติดธงแดง, Rider Clash, หรือกรณีตรวจวัดน้ำหนักรถยนต์ล้ำกติกา สรุป การจะดู MotoGP ให้สนุกไม่ใช่แค่กดเปิดช่องแล้วดูเสียงคำรามของรถ แต่ต้องเข้าใจกติกา พื้นฐานคลาสต่าง ๆ ทีม–นักขี่ที่ต้องสอดส่อง สนามไฮไลต์ที่ควรจับตา รวมถึงเทคนิคดูแบบมือโปร การเตรียมตัวล่วงหน้าเล็กน้อย จะช่วยให้คุณเชียร์ได้มันส์กว่าที่เคย ลุ้นทุกเสี้ยววินาทีที่นักขี่ผาดโผน ทั้งโค้ง 200 กม./ชม. หรือการแซงหัวใจหยุดเต้นบนทางตรง รูปหน้าปก : รูปที่1 รูปที่2 รูปภาพที่1 : จากเฟสบุ๊ค MotoGP รูปภาพที่2 : จากเฟสบุ๊ค MotoGP รูปภาพที่3 : จากเฟสบุ๊ค MotoGP รูปภาพที่4 : จากเฟสบุ๊ค MotoGP ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !