รีเซต
มอยส์ยิ้มกริ่ม! 5 ประเด็นร้อน หลังลิเวอร์พูลปีกหัก บุกแพ้เวสต์แฮม

มอยส์ยิ้มกริ่ม! 5 ประเด็นร้อน หลังลิเวอร์พูลปีกหัก บุกแพ้เวสต์แฮม

มอยส์ยิ้มกริ่ม! 5 ประเด็นร้อน หลังลิเวอร์พูลปีกหัก บุกแพ้เวสต์แฮม
Zvo
8 พฤศจิกายน 2564 ( 03:39 )
2.5K

ลิเวอร์พูล ร่วงลงมาอยู่อันดับ 4 ของตารางแล้วหลังจากบุกพ่ายให้กับ เวสต์แฮม 3-2 ที่ ลอนดอน สเตเดี้ยม โดยเกมนี้ต้องยกความดีความชอบให้ขุนค้อนของ เดวิด มอยส์ ที่แนวรับช่วยกันดี ส่วนแนวรุกเด็ดขาดมาก เจอร์เก้น คล็อปป์ คงต้องเก็บความพ่ายแพ้นี้ไว้เป็นบทเรียน เราพาทุกท่านมาเจาะลึกประเด็นน่าสนใจที่เกิดขึ้นในเกมนี้กัน

1.ขุนค้อนเจ๋งจริง

การที่ เวสต์แฮม บินมาสูงขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องฟลุ๊คแต่อย่างใด นี่เป็นอีกครั้งที่ "ขุนค้อน" โชว์ให้เห็นว่าพวกเขายกระดับตัวเองขึ้นมาต่อกรกับทีมใหญ่ได้แบบสบายๆ ฤดูกาลนี้พวกเขาเขี่ยทั้ง แมนฯยูไนเต็ด และ แมนฯซิตี้ ตกรอบ คาราบาว คัพ มาแล้ว มากไปกว่านั้นยังชนะทั้ง สเปอร์ส, เลสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ด้วย 

เกมนี้ขุนค้อนอาจจะใช้โชคเล็กน้อยกับประตูขึ้นนำ แต่สิ่งที่ต้องชมเลยคือการเล่นเกมรับที่เหนียวแน่นบวกกับการเปลี่ยนบอลจากรับเป็นรุกได้แบบเนียนตา พวกเขาสามารถลดความอันตรายของ ซาลาห์ หน้าเขตโทษได้ โดยคู่กลาง เดแคลน ไรซ์ และ โธมัส ซูเซ็ก ช่วยกันตัดเกมรุกหงส์แดงได้ดีมาก ขณะที่ตัวรุกอย่าง จาร์รอด โบเวนส์, ซาอิด เบนราห์มา, ปาโบล ฟอร์นัลส์ รวมถึง มิคาอิล อันโตนิโอ เล่นเกมโต้กลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ลิเวอร์พูล ควรต้องทำได้ดีกว่านี้หากหวังจะเป็นแชมป์แ ต่ความพ่ายแพ้เกมนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์มากนักเพราะ เวสต์แฮม ของ เดวิด มอยส์ นั้นแข็งแกร่งและมีคุณภาพจริงๆ

2.ไม่ใช่วันของอลีสซง

ลูกเซ็ตพีซเป็นของถนัดในการทำประตูของ เวสต์แฮม อยู่แล้วและ ลิเวอร์พูล ก็เป็นอีกทีมที่ไม่สามารถหยุดมันได้ ทีมเยือนเสียประตูจากการเปิดเตะมุมของ ปาโบล ฟอร์นัลส์ ตั้งแต่นาทีที่ 4 ของเกม ประตูนี้น่าจะเป็นที่ถกเถียงกันว่าฟาวล์หรือไม่ จึงมีการใช้เวลาเช็กวีเออาร์นานพอสมควร

ผู้ตัดสินดูเหมือนจะโฟกัสที่ แองเจโล อ็อกบอนน่า ซึ่งกระโดดแย่งบอลกับ อลีสซง แต่ปัญหาจริงๆอาจจะอยู่ที่ มิคาอิล อันโตนิโอ ที่พยายามบังเหลี่ยมไม่ให้ อลีสซง ได้ขึ้นไปคว้าบอลง่ายๆซึ่งนี่น่าจะเป็นแท็คติกที่เจ้าบ้านวางมาไว้แล้ว สุดท้ายผู้ตัดสินมองว่าไม่เป็นการฟาวล์จังหวะนี้จึงกลายเป็น อลีสซง ที่ชกบอลเข้าประตูตัวเอง

ส่วนประตูที่สองนั้นแนวรับคงต้องรับผิดชอบเป็นส่วนใหญ่เพราะควรต้องตัดฟาวล์ โบเวนส์ ก่อนที่เขาจะได้จ่ายให้ ฟอร์นัลส์ หลุดเดี่ยวทว่า อลีสซง ก็อาจจะมีส่วนผิดที่ต้องเซฟได้ดีกว่านี้ เขาพยายามใช้มือซ้ายปัดบอลแล้วแต่เอาไม่อยู่ บอลจึงปลิ้นเข้าประตู คงพูดได้ว่ามันไม่ใช่วันที่ดีของ อลีสซง แต่ผู้รักษาประตูน้อยคนที่จะไม่มีเกมแบบนี้เกิดขึ้นในซีซั่น

3.ฟรีคิกมาซะที

แม้ว่า ลิเวอร์พูล จะเป็นทีมที่ได้ประตูจากลูกเซ็ตพีซมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ แต่ประตูที่มาจากการยิงฟรีคิกโดยตรงนั้น เราไม่ได้เห็นกันมานานแล้ว ชื่นชมจริงๆว่าลูกยิงของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ในเกมนี้เพอร์เฟคและยอดเยี่ยมมากๆ ด้วยระยะหน้าปากประตูตรงนั้น การจะยิงฟรีคิกให้ข้ามกำแพงและมุดเข้าประตูเป็นเรื่องยากมากแต่ เทรนต์ ยิงได้ดีทั้งน้ำหนักและทิศทาง

ครั้งสุดท้ายที่ เทรนต์ ซัดฟรีคิกเป็นประตูต้องย้อนกลับไปในเกมกับ เชลซี เมื่อฤดูกาล 2019/20 และเขาก็มาทำได้อีกครั้งในเกมกับ เวสต์แฮม ซึ่งลูกยิงนี้ทำให้ เทรนต์ เป็นกองหลัง ลิเวอร์พูล ที่มีส่วนร่วมกับประตูในพรีเมียร์ลีกมากที่สุด 45 ลูก (9 ประตู, 36 แอสซิสต์) เทียบเท่ากับสถิติสูงสุดของ ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ เคยทำไว้ 21 ประตู และ 24 แอสซิสต์

4.อีกครั้งที่พลาดโอกาส

การปราชัยต่อ เวสต์แฮม บวกกับการพลาดเสมอ ไบรท์ตัน ทำให้ ลิเวอร์พูล เสียหายหนักชวดโอกาสทองในการขึ้นไล่ตามจ่าฝูง ความจริงบรรดาทีมหัวตารางต่างก็มีเกมที่ตัวเองสะดุดทั้งนั้นอย่างเช่น แมนฯซิตี้ ที่แพ้คาบ้านให้กับ คริสตัล พาเลซ หรือ เชลซี ที่เพิ่งทำสามแต้มหลุดมือกับ เบิร์นลี่ย์ สิ่งนี้โชว์ให้เห็นว่าทีมลุ้นแชมป์ทุกทีมล้วนมีจุดอ่อน

แต่ในวันที่คู่แข่งลุ้นแชมป์พลาดให้แล้ว ลิเวอร์พูล กลับไม่สามารถฉกฉวยโอกาสนั้นไว้ได้มันจึงเป็นเรื่องน่าเจ็บใจสำหรับหงส์แดงและการทำ 5 แต้มหล่นจาก 2 นัดที่ผ่านมาทำให้ ลิเวอร์พูล ตามหลังจ่าฝูง 4 แต้มแล้วแถมโดน เวสต์แฮม แซงขึ้นมาอยู่ที่ 3 ของตารางด้วย 

นี่ยังไม่นับรวมผู้ตามอย่าง อาร์เซน่อล ที่ไล่จี้ ลิเวอร์พูล มาเหลือแค่ 2 คะแนนแล้ว พวกเขาคงต้องนำสิ่งที่ผิดพลาดครั้งนี้กลับไปทบทวนตัวเองช่วงพักเบรกทีมชาติพร้อมกับรวบรวมสมาธิกลับมาในเกมนัดหน้าที่ต้องทำศึกบิ๊กแมตช์กับ อาร์เซน่อล 

5.ชัยชนะฉลองผ่าน 1000 นัด

เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา เดวิด มอยส์ เพิ่งฉลองคุมทีมครบ 1000 นัดในอาชีพกุนซือซึ่งการเสมอกับ เกงค์ 2-2 ทำให้งานฉลองกร่อยลงเล็กน้อย แต่เขาก็มาได้รับของขวัญขนาดใหญ่จากการเอาชนะหงส์แดง” ในวันอาทิตย์

ก่อนหน้านี้ สตีฟ บรูซ เคยคุมทีมแตะหลัก 1000 นัดเช่นกัน ทว่างานปาร์ตี้ต้องจบลงเมื่อ นิวคาสเซิ่ล ปลดเขาออกจากตำแหน่ง อย่างไรก็ตามกับ เดวิด มอยส์ ดูเหมือนหลักไมล์ 1000 นัดนี้จะมีแต่ทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นไปเรื่อยๆ เขาอาจจะไม่ประสบความสำเร็จกับทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด, เรอัล โซเซียดาด และ ซันเดอร์แลนด์ แต่เขายังสามารถคืนชีพกลับมาได้กับ เวสต์แฮม และดูเหมือนว่ามันจะดียิ่งกว่าตอนที่เขาคุม เอฟเวอร์ตัน เสียอีก น่าติดตามมากว่า มอยส์ จะพาขุนค้อนคว้าความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมได้หรือไม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

ดูสดฟรี!! ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ทุกสัปดาห์ พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม ต้อง App TrueID เท่านั้น

รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ >> คลิกที่นี่

อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! bit.ly/2PsYXMG หรือ กด *301*32# โทรออก

หรือ อัพเดทข่าวบอลไทยลีก กด *301*36# โทรออก

ยอดนิยมในตอนนี้