คนใหม่มาคนเก่าไปนี่คือสิ่งที่เห็นกันในวงการฟุตบอลที่จะกล่าวถึงไม่ใช่เรื่องของนักเตะแต่เป็นเรื่องของ ผู้จัดการทีม แต่การที่จะได้ผู้จัดการทีมมาแต่ละคนก็มีสิ่งที่จะต้องจ่ายหรือสิ่งที่ล่อใจให้มารับงานในสโมสรนั่นก็คือค่าตัว โดยแต่ละคนก็มีค่าตัวที่เป็นบรรทัดฐานหรือมีตัวเลขในใจอยู่แล้วก่อนที่จะคุยเรื่องการมคุมทีม ว่าแล้วก็จะขอพาไปส่องตัวเลขกับ 4 กุนซือที่ถูกจัดอันดับค่าตัวแพงที่สุดในวงการฟุตบอล ณ เวลานี้กับห้าลีกใหญ่ในยุโรปกันซักหน่อยว่ามีใครกันบ้างและแต่ละคนนั้นรับกันอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่อันดับที่ 4 เจอร์เก้น คล็อปป์ ค่าตัว 1.49 ล้านยูโรต่อเดือน (ประมาณ 55,130,000 ล้านบาท) หงส์แดงลิเวอร์พูล ประสบความสำเร็จอย่างมากกับการทำงานภายใต้ผู้จัดการทีมรายนี้ ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่นำความสำเร็จมาสู่สโมสรเท่านั้น เขายังเป็นเหยี่ยวนักล่าที่เฟ้นหานักเตะที่เชื่อว่าหลายคนแทบจะไม่รู้จักว่าเป็นใครมาจากไหน แต่กลับเฉิดฉายภายใต้การวางแผนของผู้จัดการทีมรายนี้ นับตั้งแต่ปี 2015 ที่เจ้าตัวได้ย่างก้าวเข้าสู่ถิ่นแอนฟิลด์ใช้เวลาเพียง 7 ปี นำพาความรุ่งโรจน์อย่างมากมาสู่โสมสรแห่งนี้และกลายเป็นผู้จัดการทีมคนแรกในประวัติศาสตร์สโมสรที่พาทีมคว้าแชมป์มากที่สุดแชมป์พรีเมียร์ลีก 2019-20แชมเปี้ยนส์ลีกยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2019ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ 2019ลีกคัพ 2022 มีเพียงแชมป์เดียวที่เขานั้นยังไม่เคยได้สัมผัสบนเกาะอังกฤษนั่นก็คือเอฟเอคัพ ซึ่งในฤดูกาลนี้ก็มีโอกาสอยากมากที่จะก้าวไปคว้าแชมป์หลังจากที่ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้ แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราซึ่งสัญญาของ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะหมดลงในปี 2024 โดยเจ้าตัวก็ได้พูดถึงอนาคตเรียบร้อยว่าจะไปจากสโมสรแห่งนี้อย่างแน่นอน แต่ก็ไม่แน่ว่าหากเพิ่มค่าเหนื่อยจากนี้อีกสักหน่อย ก็อาจจะจูงใจให้อยู่จนวางมือเลยก็เป็นได้อันดับที่ 3 อันโตนิโอ คอนเต้ ค่าตัว 1.49 ล้านยูโรต่อเดือน (ประมาณ 55,130,000 ล้านบาท) อันโตนิโอ คอนเต้ ประสบความสำเร็จในฐานะนักเตะ และเป็นที่รู้จักมากที่สุดในช่วงที่ชายคนนี้ทำงานให้กับยูเวนตุส โดบพาม้าลายคว้าแชมป์เซเรีย อา 5 สมัย , ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย หลังจากนั้นหากแฟนบอลจะรู้จักกันมากขึ้นก็คงมาทำงานให้กับ เชลซี ซึ่งก็พาสิงห์บลูคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในปี 2016-2017 ก่อนที่จะย้ายกลับสู่ถิ่นอิตาลีกับอินเตอร์ มิลาน แล้วก็ไม่วายไปพางูใหญ่คว้าแชมป์ลีกและกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งในรอบสิบปี ซึ่งนับว่าเมื่อไปที่ไหนต้องได้แชมป์ที่นั่นก็ไม่ปาน และในตอนนี้ก็ได้กลับสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้งและพา ท๊อตแนม ฮอตสเปอร์ คงเส้นทางของตั๋วUCL ใบสุดท้ายในฤดูกาลนี้ นี่คือชายที่เปลี่ยนทีมไก่เดือยทองกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งในรอบหลายปี ซึ่งไม่แน่ว่านี่อาจจะเป็นคนที่พาไก่เดือยทองก้าวไปคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกก็เป็นได้อันดับที่ 2 เปป กวาร์ดิโอล่า ค่าตัว 1.89 ล้านยูโรต่อเดือน (ประมาณ 69,930,000 ล้านบาท) นี่คือหนึ่งในผู้จัดการทีม ณ เวลานี้ที่ถูกยกย่องให้เป็นผู้จัดการทีมที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ลูกหนัง ผู้จัดการทีมจอมเขี้ยวรายนี้เคยพาสโมสรเจ้าบุญทุ่มบาร์เซโลน่า คว้าแชมป์ลีก 6 สมัย ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย หลังจากที่พาทีมประสบความสำเร็จซึ่งใช้เวลาในการทำงานอยู่ในถิ่นกระทิงดูเพียงสี่ปีก็ได้เวลาโหยหาความสำเร็จใหม่อีกครั้ง ในปี 2013 ก็ได้ย้ายมาคุมบังเหียนให้กับเสือใต้บาเยิร์นมิวนิค และพาคว้าแชมป์บุนเดสลีกาถึง 3 สมัย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้พาทีมประสบความสำเร็จกับรายการUCL แต่เขาเองก็ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดในบุนเดสลีกาไปแล้ว จากนั้นก็มาหาความท้าทายใหม่กับเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านี่คือผู้จัดการทีมที่ทำให้คนทั้งโลกรู้จักแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพราะไม่ใช่เพียงแค่การสร้างนักเตะที่มีชื่อเสียงจนกลายเป็นนักเตะระดับโลก แต่ยังนำความสำเร็จมาสู่สโมสรแห่งนี้อย่างมากมาย โดยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมา 3 สมัยในช่วง 5 ปี ที่เข้าเป็นผู้จัดการทีมซึ่งไม่มีผู้จัดการทีมคนไหนทำได้มาก่อน แต่สิ่งที่ยังเป็นแผลในใจของเจ้าตัวก็คงเป็นเรื่องที่เจ้าตัวนั้นยังไม่พาสโมสรแห่งนี้คว้าแชมป์ UCL หลังจากที่อกหักในรอบชิงชนะเลิศที่พ่ายให้กับเชลซีเมื่อปีที่แล้ว มาฤดูกาลนี้ยังมีโอกาสแก้ตัวอีกครั้งและไม่แน่ว่านี่อาจจะเป็นปีของเขาก็เป็นได้อันดับที่ 1 ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ ค่าตัว 3.33 ล้านยูโรต่อเดือน (ประมาณ 123,210,000 ล้านบาท) ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลในห้าลีกยุโรปที่ได้รับค่าตัวสูงที่สุดในปัจจุบัน ในตอนที่เขาเป็นนักเตะก็เป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมและลงเล่นให้กับสโมสรต่างๆ กว่า 500 นัด เขาคว้าแชมป์ลีกในอิตาลีและสเปน รวมทั้งยูฟ่าคัพกับอินเตอร์มิลานในปี 1998 ซึ่งก่อนที่จะมาเป็นผู้จัดการทีมตราหมีในปัจจุบันก็เคยผ่านงานเป็นผู้จัดการมาหลายทีมด้วยกัน โดย ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการทีม ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ เมื่อปี2011 และเป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในห้าลีกใหญ่ของยุโรปกับสโมสรเดียว ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ พาทีมตราหมีคว้าแชมป์ลาลีกา 2 สมัย ซึ่งไม่มีใครคาดคิดว่าจะแย่งแชมป์จากสองยักษ์ใหญ่แห่งสเปนอย่างบาร์เซโลน่าและเรอัล มาดริด อีกทั้งยังคว้าแชมป์ยูฟ่ายูโรปาลีก 2 สมัย และสามารถเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ถึงสองครั้งแต่ก็ยังไม่สามารถค้วาแชมป์แห่งยูโปรได้สักที ซึ่งในฤดูกาลนี้ตัวเขาเองก็บังอยู่ในเส้นทางของการคว้าแชมป์รายการที่ใฝ่ฝันเช่นเดียวกับ เปป กวาร์ดิโอล่า และนั่นคือ 4 ผู้จัดการทีมที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลก ของวงการฟุตบอลในฤดูกาล 2021 – 2022 นี้ ซึ่งไม่แน่ว่าหลังจากจบฤดูกาลนี้อาจจะได้เห็นหน้าว่าที่ผู้จัดการทีมคนใหม่ที่อาจจะได้รับค่าตัวแพงเพิ่งอีกรายก็เป็นไปได้หลังจากจบฤดูกาลนี้ ข่าวที่เกี่ยวข้องจัดอันดับ 8 ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ยุคพรีเมียร์ลีก ผลงานแย่ที่สุดถึงดีที่สุดส่อง 3 ปัจจัย ที่อาจปลี่ยนใจ "เจอร์เกน คล็อปป์" ต่อสัญญากับ ลิเวอร์พูลถูกใจไหม?? จัดอันดับ 5 นักเตะแมนยูผลงานดีที่สุดประจำปี 2021ปิดดีลด่วน !! จัดอันดับ 10 แข้งพรีเมียร์ลีกค่าตัวพุ่งก่อนตลาดนักเตะเปิดจับตาดู 5 ดาวรุ่งลิเวอร์พูลฟอร์มแจ่ม ฤดูกาล 2021-2022 เครดิตภาพปก twitter.com/lfc :: ภาพที่ 1 , twitter.com/mancity :: ภาพที่ 2 , twitter.com/championsleague :: ภาพที่ 3 เครดิตภาพประกอบ twitter.com/lfc :: ภาพที่ 1 , twitter.com/spursofficial :: ภาพที่ 2 , twitter.com/mancity :: ภาพที่ 3 , ภาพที่ 4 , twitter.com/championsleague :: ภาพที่ 5 , twitter.com/atletienglish :: ภาพที่ 6 ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี