เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นัดชิงคาราบาวคัพ หงส์แดง ลิเวอร์พูล สามารถเอาชนะ สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ไป 1-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ คว้าแชมป์รายการนี้มาครองเป็นสมัยที่ 10 และเป็นถ้วยใบแรกที่คว้ามาได้ในปีนี้ ในจำนวนทั้งหมด 4 ถ้วยที่ ลิเวอร์พลูยังคงอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์หลังจากเมื่อวันที่ 26 มกราคม เจอร์เกน คล็อปป์ ยอดกุนซือชาวเยอรมันวัย 56 ปี ได้ประกาศอำลาตำแหน่งผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลหลังจบฤดูกาลนี้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ลูกทีมเสียกำลังใจแต่อย่างใด กลับเล่นกันแบบ ทุ่มเทถวายชีวิตในทุก ๆ นัด เหมือนอยากบอกให้โลกรู้ว่า ข้าตายยาก ไม่ว่าจะโดนยิงนำไปก่อน โดนกดดันอย่างหนัก หรือ นักเตะตัวหลักบาดเจ็บในหลายตำแหน่ง แต่ตัวผู้เล่นที่มาทดแทน ซึ่งเป็นพวกแข้งดาวรุ่งจากอะคาเดมี่ บางคนแทบยังไม่เคยสัมผัสเกมใหญ่ ๆ เลย ก็เล่นได้ดีจนน่าจับตามองนัดชิงคาราบาว คัพ ครั้งนี้ยิ่งแสดงให้เห็นถึงชัยชนะที่พิเศษ โดยเจอร์เก้น คล็อปป์ ประกาศว่าการที่ลิเวอร์พูลชูถ้วยคาราบาวคัพ หลังจากเอาชนะเชลซี 1-0 ที่เวมบลีย์ ว่าเป็น ถ้วยรางวัลที่พิเศษที่สุดที่ผมเคยได้รับ สิ่งที่เห็นได้ชัดเจน อาจจะว่าด้วยเรื่องของสถานการณ์บีบบังคับด้วยตัวผู้เล่นบาดเจ็บ หรืออะไรก็ต่าง ๆ ก็ตาม แต่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังคงเชื่อมั่นในระบบวิธีการเล่นของทีม จึงกล้าที่จะเปลี่ยนเอาเด็ก ๆ เช่น เจมส์ แม็กคอนเนลล์ (อายุ 19 ปี), บ็อบบี้ คลาร์ก (อายุ 19 ปี) และ เจย์เดน แดนน์ส (อายุ 18 ปี) ลงสนามในเกมนัดชิงแบบนี้ ยังไม่รวมถึง คอเนอร์ แบรดลีย์ (อายุ 20 ปี) ที่เล่นแบบดีเกินเด็กไปแล้วควีวิน เคลเลเฮอร์ นายทวารมือ 2 ของ ลิเวอร์พูล ผู้ได้รับเลือกจากสโมสรให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมของเกมนี้ หลังโชว์ฟอร์มเหนียวเหลือเกิน เซฟลูกยิงของเชลซี ไปถึง 9 ครั้ง ช่วยให้ทีมไม่เสียประตูหลายจังหวะสำคัญ วาตารุ เอ็นโด ตัวเติมเต็มที่มีประโยชน์มาก สามารถทำให้ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ คอยสร้างสรรค์เกมสะดวกมากขึ้น ไม่ต้องพะวงลงมาต่ำ เรียกได้ว่า เอ็ดโดเอาอยู่ สุดท้ายคีย์แมนที่ทำประตูให้ลิเวอร์พูลชนะก็คือ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ซึ่งคว้ารางวัลแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ของ คาราบาว คัพ รอบชิงชนะเลิศไปครองอีกด้วยเกมนี้ทั้งสองทีมเล่นกันได้สนุก ผลัดกันมีโอกาสเข้าทำประตู เรียกได้ว่าคนดูนั่งเกร็ง กัดเล็บกันเพลินเลยทีเดียว หมดเวลา 90 นาที่ ยังเสมอกัน 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไป แล้วชัยชนะในเกมนี้ต้องรอถึงนาที 118 จากจังหวะได้ลูกเตะมุมโดย คอสตาส ซิมิกาส เปิดบอลเข้ามา เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กัปตันทีมลิเวอร์พูล วิ่งโฉบปาดหน้า มิไคโล มูดริค ขึ้นโหม่งที่เสาแรกเข้าไป และเป็นประตูชัยให้ ลิเวอร์พูล ชนะ เชลซี อย่างสนุก 1-0 คว้าแชมป์คาราบาวคัพ ไปครองเป็นสมัยที่ 10 ถ้วยใบแรกนี้ นักเตะทุกคนล้วนตั้งใจร่วมกันเล่นเพื่อชัยชนะ หรืออาจต้องการจะให้เป็นของขวัญชิ้นแรกกับ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็เป็นไปได้ เครดิตรูปภาพ ขอบคุณ Liverpool FCภาพหน้าปกรูปที่ 1รูปที่ 2รูปที่ 3รูปที่ 4รูปที่ 5รูปที่ 6รูปที่ 7 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !