ควันหลงหลังเกม อาร์เซนอล บุกเฉือน เรอัลมาดริด 2-1 หลังจากในนัดแรก อาร์เซนอล เก็บชัยเหนือ เรอัลมาดริด ไปก่อน 3-0 และทำให้นัดสองนี้ อาร์เซนอล กุมความได้เปรียบและเก็บชัยชนะไปบุกเฉือน เรอัลมาดริด ถึงถิ่น 2-1 เมื่อเช้าวันที่ 17 เมษายน 2568 ที่พึ่งผ่านมา ดูบอลสดพรีเมียร์ลีก กดสมัครแพ็กเกจ TrueVisions Now ผ่าน TrueID คลิกเลย! **เสียงนกหวีดที่บอบบางและจุดโทษดราม่า** -บรรยากาศคึกคักในสนามต้อนรับผู้เล่นทั้งสองฝั่งก้าวลงสู่สนาม ขณะที่กองเชียร์ชุดขาวส่งเสียงเชียร์ภายใต้หลังคาโดมเบอร์นาบิว พยายามอย่างยิ่งที่จะปลุกชีวิต คืนชีพให้กับขุนพลเจ้าถิ่นได้ผลการแข่งขันที่พลิกกลับมาให้ผ่านเข้ารอบต่อไปได้ -แม้ว่าฝั่งผู้มาเยือนจะมีแต้มต่อถึงสามประตูอยู่ในมือ แต่ก็ไม่ได้คิดที่จะตั้งรับเพื่อรักษาผลการแข่งขัน และแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะกระฉวกประตูเจ้าถิ่นให้ได้ โดย บูกาโย่ ซาก้า ได้โอกาสยิงหลุดกรอบไปก่อน และอีกครั้งในระยะประมาณ 20 หลา ไปติดเซฟของ กูร์กตัวส์ ออกไป -จากนั้น VAR ก็ได้มอบโชคลาภลอยมาให้พลพรรคปืนใหญ่ โดยจับภาพตอนลูกเตะมุมได้ว่า ราอูล อัสเซนซิโอ ดึง มิเกล เมริโน่ ล้มลงไปในเส้นกรอบและมีการให้จุดโทษ ซาก้า จับลูกมาตั้งจุด แต่ลูกยิงแบบปาเนนก้าของเขาไม่เนียนพอที่จะผ่านมือ กูร์กตัวส์ ไปได้ ทำให้แฟนบอลเจ้าบ้านมีความหวังขึ้นมาอีกมากมาย -แต่แล้วก็มีดราม่าจุดโทษอีกครั้งในช่วงกลางครึ่งแรก ลูกครอสของ ลูคัส บาสเกซ ถูก อัสเซนซิโอ โหม่งเช็ดไปทาง คีเลียน เอ็มบัปเป้ ซึ่งล้มลงโดยมี ดีแคลน ไรซ์ แอบอิงชิดแนบอยู่ข้างหลัง แม้ดูเหมือนเป็นการล้มที่เปราะบาง แต่ผู้ตัดสิน ฟรองซัวส์ เลอเท็กซิเยร์ ชี้ไปที่จุดโทษทันที สร้างความไม่พอใจให้กับชายชุดดำทั้งหลาย เดชะบุญโชคดีที่ VAR สเตฟานี ฟราปปาร์ต ขี่ม้าขาวเรียกผู้ตัดสินหลักในสนามไปมองจ้องจอ คิดวิเคราะห์อยู่เกือบๆห้านาที ก่อนกลับคำตัดสิน ยกเลิกจุดโทษไปโดยให้เหตุว่า เอ็มบัปเป้ ล้ำหน้าไปก่อน -หลังจากที่ชี้ไปที่จุดโทษและดราม่าไป2ครั้งคราแล้ว เสียงนกหวีดที่บอบบางก็ดังขึ้นบ่อยครั้งจากปาก เลอเท็กซิเยร์ ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายก็ผลัดกันเหนี่ยว ผลัดกันล้มเบาะแบะ และโดยแม้ว่าส่วนตัวจะเป็นเด็กปืนโต แต่ก็กลับกุมขมับก่ายผากแทนกองเชียร์ชุดขาวในบางจังหวะเช่นกัน ก่อนเกมจะจบครึ่งแรกไปแบบไร้สกอร์ 0-0 **111 วินาที เฮมาเฮกลับไม่โกงในสกอร์ 1-1 ** -ประตูแรก 1-0 เกิดขึ้นในนาทีที่ 64 โดยผู้มาเยือนได้โอกาสส่งเสียงเฮได้ก่อน จากจังหวะการต่อบอลที่สวยงามของ ซาก้า, โอเดการ์ด, ไรซ์ และ เมริโน่ ก่อนจะแทงทะลุช่องอย่างเนียนตาให้กับ ซาก้า ชิพบอลข้ามตัว กูร์กตัวส์ เข้าสู่ก้นตาข่ายได้สำเร็จ เป็นประตูที่ 5 ของเขาจากการลงเล่น 7 นัดในแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลนี้ -สิ้นเสียงเฮเพียง 111 วินาทีเท่านั้น เจ้าของฉายาโรลสลอย์แห่งลอนดอน วิลเลียม ซาลิบา ซึ่งทำได้ดีมาในหลายๆจังหวะก่อนหน้า แต่ในจังหวะนี้เขากลับไม่เห็น เขารับบอลจาก ราย่า และกำลังจะพลิกบอลแต่ไม่เห็นกองหน้าชุดขาวคนขยัน วินิซิอุส จูเนียร์ แย่งฉกบอลไปยิงเข้าประตู และเสียงเฮเจ้าถิ่นก็ดังขึ้นสะท้อนหลังคาโดมเบอร์นาบิวอย่างที่ตั้งใจไว้ ทำให้สถานการณ์เจ้าบ้านกลับไปตามหลังสามลูกเหมือนเดิม **มาร์ติเนลลี่ ร้อยแรงม้า** -หลังจาก 1-1 รูปเกมก็กลับมาแลกกันสนุก โดย โอเดการ์ด เกือบได้ยิงทีมเก่า เมื่อเขายิงปั่นโค้งหลุดกรอบไป และเช่นเดียวกะนกลับเจ้าบ้านที่ บราฮิม ดิอาซ กับ เอนดริก ก็พลาดโอกาสดีๆ ไปเช่นกัน -เกมเปิดแลกกันอยู่สักพักและอาร์เซนอลได้โอกาสจากการโต้กลับเร็ว เมริโน่ ทำแอสซิสต์ที่สองของเกม ส่งให้ มาร์ติเนลลี่ หลุดเดี่ยวจากกลางสนาม วิ่งวัดความเร็วร้อยแรงม้าควบหนีกองหลังชุดขาวยิงผ่านมือ กูร์กตัวส์ เข้าไปเป็นประตู 2-1 เฉือนคว้าชัยในช่วงทดเจ็บและดับฝันชุดขาวในการคว้าถ้วยนี้เป็นสมัยที่ 16 ไว้ก่อน -จากผลการแข่งขันนี้ ส่งผลให้ อาร์เซนอล ย้ำแค้น เรอัลมาดริด เก็บชัยชนะไปกลับสกอร์รวม 5-1 เข้าสู่รอบรองชนะเลิศแชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งที่สามในประวัติศาสตร์ โดยในนัดต่อไปจะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของแชมป์ลีกฝรั่งเศสในช่วงปลายเดือนนี้เลย เครดิตภาพ. รูปปกบทความจาก FB UEFA Champions League รูป1 จาก FB RealMadrid FC รูป2 จาก FB UEFA Champions League รูป3 จาก FB Arsenal รูป4 จาก FB Arsenal ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !