เฟอร์กี้ซะอย่าง!! ย้อนดูทัพ "ผีแดง" สุดพิการ เปิดรังทุบ บาร์ซ่า ปี 2008
นี่คือทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดประวัติศาสตร์ ที่เชือด บาร์เซโลน่า ได้สำเร็จในรอบตัดเชือก ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
พาทุกคนย้อนกลับไปในการฟาดแข้งศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2008 รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของ บาร์เซโลนา โคตรทีมลูกหนังแห่งลา ลีกา สเปน
ปัญหาการจัดทัพ
ก่อนเกมนี้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือของ "ปีศาจแดง" มีปัญหาในการจัดตัวผู้เล่นลงสนามอย่างมาก จะเรียกว่าพิการเลยก็ว่าได้ เพราะไม่ชื่อของ เวย์น รูนี่ย์ และ เนมานย่า วิดิช คีย์แมนในแนวรุกและรับ แม้กระทั่งเป็นตัวสำรอง
เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้แล้ว "เฟอร์กี้" เลยขอโชว์กึ๋นการจัดทีมซะเลย ป๋าจัดระบบ 4-4-2 เหมือนเดิม แนวรับป๋าแก โยกเอา เวส บราวน์ เข้ามาเล่นเป็นปราการหลังตัวกลางคู่กับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ แล้วถอย โอเว่น ฮากรีฟส์ ไปยืนเป็นแบ็กขวาจำเป็น ทั้งที่ทีมก็มี จอห์น โอเช อยู่ในทีม แต่ป๋าแกก็ไม่เลือก
แดนกลางก็ปรับกันอีกครั้ง ส่ง ไมเคิ่ล คาร์ริค กับ พอล สโคลส์ ไปยืนเป็นคู่กลาง และให้ นานี่ กับ พาร์ค ชี-ซอง ไปยืนเป็นปีกสองข้าง คู่หน้า ท่านเซอร์ ดัน "CR7" คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ตอนนั้นยังเล่นเป็นปีกขวา ไปล่าตาข่ายร่วมกับ คาร์ลอส เตเวซ
ทีมเยือนจัดหนักดาวดังเพียบ
ด้าน "บาร์ซ่า" ยักษ์ใหญ่ของลีกสเปน ที่มี แฟรงค์ ไรจ์การ์ด เป็นกุนซือ ขนซุปตาร์มาแบบเต็มทีม 3 แนวรุก ประกอบด้วย ลิโอเนล เมสซี่, ซามูเอล เอโต้ แต่ทีมขาด โรนัลดินโญ่ ดาวเตะทีมชาติบราซิล เลยขยับเอา อันเดรียส อิเนียสต้า ขึ้นมาเล่นแทน
ส่วนแดนกลาง มี ยาย่า ตูเร่, ชาบี เอร์นานเดซ และ เดโก้ คอยเป็นตัวขับเคลื่อนเกม แนวรับยังมี การ์เลส ปูโยล, จานลูก้า ซามบร็อตตา รวมทั้ง เอริค อบิดัล อีกด้วย
ตั้งรับไว้ก่อนป๋าสอนไว้
จากแท็คติคที่เน้นรับเหนียวแน่น จนทำให้ได้ผลเสมอ 0-0 ในการฟาดแข้งนัดแรก ที่บ้านของ บาร์เซโลนา กลับมาเล่นในนัดนี้ "เฟอร์กี้" รู้ว่าทีมปัญหา และศักยภาพของนักเตะเป็นรองทีมเยือนพอสมควร สุดยอดกุนซืออย่างป๋า เลยใช้แผนเดิมสั่งให้ทีมตั้งรับแน่นไว้ก่อน เรียกว่าจอดรสบัส 2 คัน กันเลยทีเดียว เพราะยังไงก็รู้อยู่แล้วว่าต่อบอลสู้คู่แข่งไม่ได้ และขุนพล "ปีศาจแดง" ก็เล่นได้ตามแผนได้อย่างมีระเบียบ ตัดบอลหนักแดนกลางได้เสมอ นักเตะอย่าง เมสซี่, เอโต้, อินเนียสต้า และ ชาบี ไม่สามารถทำเกมรุกได้ถนัดเลย ได้แต่ครองบอลเหนือกว่าเท่านั้นเอง
สโคลส์ ยิงให้เด็กมันดู
และประตูเดียวที่มาตัดสินผลการแข่งขันของเกมส์นี้ ก็มาการยิงไกลแบบสุดสวย ของ พอล สโคลส์ ที่กดเน้นๆ นอกกรอบเขตโทษ ในนาทีที่ 14 ซึ่งจังหวะยิงลูกนั้นมีนักเตะของ บาร์ซ่า วิ่งเข้ามาขวางทางปืนแล้ว ทว่ามาไม่ทัน กองกลางทีมชาติอังกฤษ ซัดเต็มข้อ ล่อเต็มแข้ง บอลพุ่งเสียบตาข่าย ชนิดที่ เมสซี่ ยังยืนตะลึง และประตูนี้ก็เป็นประตูที่ส่ง แมนฯ ยูไนเต็ด เข้ารอบชิงชนะเลิศ ไปเจอกับ เชลซี นั่นเอง
และนับตั้งแต่นั้นมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ไม่เคยเอาชนะคู่แข่งจากนอกโลกทีมนี้ได้อีกเลย แถมยังแพ้รวดอีกด้วย !!!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ที่สุดของแจ้!! เนวิลล์ เผย รูนี่ย์ ห้าวสุดแม้แต่การ์ดยังคุมไม่อยู่ (ชมคลิป)
สุดโหด!! 11 คนแรก ปีศาจแดง ซีซั่นหน้า หากได้แข้งเป้าหมายครบ
– ดูฟรี! พรีเมียร์ลีก มากกว่า 100 คู่ คลิก ID Station
– ดู พรีเมียร์ลีก online คลิกที่นี่
– สมัครชม พรีเมียร์ลีกทั้งฤดูกาล คลิกที่นี่