วันนี้เป็นวันที่ยิ้มไม่ออกของเหล่าสาวกเดอะกันเนอร์ส หลังจากเจออิทธิฤทธิ์บอลเปลี่ยนโค้ชจากเอฟเวอร์ตัน สั่งสอนคากูดิสัน พาร์คไป 1-0 จากการทำประตูของเจมส์ ทราคอฟสกี้ กองหลังของเอฟเวอร์ตันในช่วงครึ่งเวลาหลัง ทำให้ตอนนี้อาร์เซนอลยังคงมี 50 แต้มนำเป็นจ่าฝูงเหมือนเดิม ในขณะที่เอฟเวอร์ตันนั้นรอดจากโซนตกชั้นมาได้ชั่วคราว มีอยู่ 18 คะแนนในตอนนี้ ในวันที่น่ายินดีของเอฟเวอร์ตัน ในวันที่น่าผิดหวังของอาร์เซนอล มีประเด็นอะไรบ้าง มาดูกัน1.บอลเปลี่ยนโค้ช น่ากลัวเสมอ เมื่อมามองภาพรวมของนัดนี้ ต้องขอชื่นชมเอฟเวอร์ตัน ในการคุมทีมของ ฌอน ไดซ์ ที่วางแผนการเล่นและแทคติคมารับมือเกมบุกของอาร์เซนอลได้ดีมากๆ การเล่นที่ดุดัน มีแบบแผนมากขึ้นกว่าในตอนช่วงแฟรงค์ แลมพาร์ดคุมทีม ด้วยแผนบอลไดเร็ค เน้นผลการแข่งขัน บวกกับแผนการเล่นเกมรับที่รัดกุมและปิดตายการบุกที่หลากหลายของอาร์เซนอลนั้น พวกเขาแสดงให้เห็นเป็นที่เรียบร้อยแล้วในวันนี้ ถึงแม้พวกเขาจะมี % การครองบอลที่น้อยกว่าอาร์เซนอลอย่างมากก็ตาม แต่จังหวะการบุกเข้าทำในกรอบเขตโทษฝั่งตรงข้าม เอฟเวอร์ตันทำได้เหนือกว่าอาร์เซนอลอย่างมาก และเป็นที่มาของชัยชนะในวันนี้ 2.วันที่ทีมพลังวัยรุ่นแผลงฤทธิ์ไม่ได้หลังจากสร้างตำนานความร้อนแรงในลีกมาได้ยาวนานถึงนัดที่ 22 สุดท้ายพวกเขาก็พ่ายแพ้ให้กับพลังบอลเปลี่ยนโค้ช ซึ่งวันนี้เป็นวันที่แย่มากๆของลูกทีมอาร์เตต้า นักเตะหลายๆคนไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีเหมือนก่อนหน้านี้ เห็นได้ชัดจากการเสียบอลของโทมัส ปาร์เตย์ในหลายๆจังหวะช่วงครึ่งแรก และการที่สมาธิของเขาไม่ค่อยจดจ่อในเกม ในการส่งบอล ในการจับจังหวะต่างๆ เบน ไวท์ ที่ก่อนหน้านี้ก็ดูเสียฟอร์มไปหลังจากเจอ มาร์คัส แรชฟอร์ดสอนมวยจนเขาเสียใบเหลืองแบบไม่น่าเสียไป จนมาถึงวันนี้ เขาก็ยังดูไม่ค่อยกลับมาเข้าที่เข้าทาง มาร์ติเนลลี่ ที่วันนี้โดนปิดตายจาก เซมุส โคลแมน แบ็คจอมเก๋าของเอฟเวอร์ตัน และกองหลังของเอฟเวอร์ตันมาช่วยซ้อนไม่ให้เขากระชากตามสไตล์ที่เขาถนัดได้ มาร์ติน โอเดการ์ด ที่ไม่สามารถเล่นบอลเกมกลางได้เหมือนเก่า หลังจากเจอแกนกลางของเอฟเวอร์ตันคอยเบียดคอยซ้อนในหลายๆจังหวะ จนเขาเสียบอลง่ายเกินไป เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียร์ ที่ไม่สามารถสร้างโอกาสยิงได้มากเท่าที่ควร จังหวะที่ควรได้ลุ้นก็กลับยิงนกตกปลาไปแบบเสียของ แม้แต่ วิลเลี่ยม ซาลิบา ที่ก่อนหน้านี้แข็งแกร่งคุมโซนเกมรับได้ดี วันนี้ก็แอบมีบางจังหวะที่หลุดแบบน่าเกลียดให้เห็น วันนี้แสดงให้เห็นแล้วว่า นักเตะหลายๆคนเริ่มออกอาการเล่นไม่ออก เมื่อเจอทีมที่ประกบปิดตายนักเตะแบบเอฟเวอร์ตันที่ทำได้ในวันนี้ ในนัดหน้า ที่จะเปิดบ้านเจอเบรนท์ฟอร์ด มิเกล อาร์เตต้า คงต้องอบรมและติวลูกทีมอย่างหนักหน่วง นำบทเรียนต่างๆในนัดนี้ไปปรับแก้ในนัดถัดไป 3. ความหวังที่ปลายอุโมงค์ที่มีชื่อว่า ฌอน ไดซ์หลังจากที่ต้องจมอยู่โซนหนีตกชั้นมาพักใหญ่ วันที่เอฟเวอร์ตันประกาศแต่งตั้งกุนซือคนใหม่มารับงานหนีตกชั้นหลังจากนี้ กลายเป็น ฌอน ไดซ์ อดีตกุนซือมากประสบการณ์ของเบิร์นลีย์ หลายๆคนก็คงคิดกันไว้แล้วว่า กุนซือคนนี้คงเอาเข้ามาเพื่อแก้ไขสถานการณ์หนีตกชั้นอย่างแน่นอน แต่ก็ไม่นึกว่าจะสามารถยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้กับอาร์เซนอลได้ทันที พอมามองแผนการเล่นของเขาในนัดนี้ ก็เห็นชัดแล้วว่า ไม่เน้นสวยงาม แต่เน้นผลสกอร์ เพราะตอนนี้สถานการณ์ทีมไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะเล่นอะไรสวยงามได้ทุกนัดทุกครั้ง พวกเขาต้องคำนึงถึงทีมที่เกาะกลุ่มอยู่ใกล้โซนตกชั้น เมื่อมามองดูเกมในเดือนนี้ 3 นัด จริงๆก็บอกว่าทุกนัดเป็นเกมยากของเอฟเวอร์ตันก็ได้ นัดหน้าพวกเขาต้องไปเยือนลิเวอร์พูล ที่กำลังตามหาชัยชนะอยู่ นัดที่สองเปิดบ้านพบ ลีดส์ ยูไนเต็ดเพื่อนร่วมโซนหนีตกชั้น และนัดที่สามเจอกับแอสตัน วิลล่า มาดูกันว่า เอฟเวอร์ตันในเวอร์ชั่น ฌอน ไดซ์ จะแผลงฤทธิ์จนสามารถพาทีมออกจากโซนหนีตกชั้นได้หรือไม่ 4. สะดุดได้ แต่อย่าเป๋นานhttps://twitter.com/Arsenal/status/1621896885060378625อาร์เซนอลมักจะมีช่วงเวลาที่ร้อนแรง และแผ่วเอง สลับกันไปมาแบบนี้ ตั้งแต่ยุคอาร์แซน เวนเกอร์แล้ว เกมไหนที่ไม่น่าแพ้ ดันแพ้ เกมไหนที่ควรเน้น ดันไม่เน้น ความไม่นิ่งของทีมนี่แหละ ที่เป็นข้อเสียร้ายแรงของอาร์เซนอลที่ยังไม่สามารถแก้ไขให้เป็นรูปธรรมได้เลย ก็ได้แต่หวังว่าความพ่ายแพ้ครั้งนี้ จะทำให้นักเตะอาร์เซนอลตระหนักและเข้าใจถึงรสชาติของผู้แพ้บ้าง เพื่อไม่ให้ตัวเองเหลิงไปกับชัยชนะจนทำให้เกิดความประมาทในการเล่น หรือดูถูกคู่แข่ง จนไม่ยอมพัฒนาตัวเองเลย ในมุมมอง คนที่ควรพัฒนาการเล่นที่สุดคือ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ เพราะช่วงหลังๆมานี้ เขาไม่สามารถสร้างสรรค์เกมบุกให้เร้าใจหรือร้อนแรงแบบตอนช่วงแรกๆได้เลย เมื่อมามองดูเกมต่อเกม สังเกตได้ชัดเลยว่า คู่แข่งรู้วิธีหยุดเขา คู่แข่งอ่านการเล่นของเขาออก ซึ่งเขาต้องพัฒนาการบุกให้หลากหลาย หลากสไตล์มากขึ้น ไม่ยึดติดแต่วิธีเดิมๆ ซึ่งแนวรุกหลายๆคนควรปรับปรุงการเล่นของตัวเองบ้าง เพราะไม่งั้นคุณก็จะต้องยึดติดกับสไตล์เดิมๆ แล้วก็โดนปิดตายแบบเดิมๆ พอเล่นไม่ออก ก็เสียความมั่นใจอีก ซาก้าก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วนะมาร์ติเนลลี่ ความหลากหลาย ความเข้าใจกันกับเพื่อนร่วมทีมในจังหวะการชิ่งบอลส่งต่อกัน คือสิ่งสำคัญในเกมบุก หวังว่า มิเกล อาร์เตต้าและสตาฟโค้ช จะพยายามติวให้นักเตะที่มีปัญหาเหล่านี้ได้พัฒนาฝีเท้าให้สมกับที่ไว้ใจให้ลงสนามนะ ขอขอบคุณภาพประกอบบทความจากภาพที่ 1 จาก Twitter Dwight McNeilภาพที่ 2 จาก Twitter Evertonภาพที่ 3 จาก Twitter Evertonภาพที่ 4 จาก Twitter Alexander Iwobiภาพที่ 5 จาก Twitter Arsenalภาพปกประกอบบทความ จาก Twitter Arsenal Community คอบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์