นับตั้งแต่ที่เราได้รู้จักดาวรุ่งที่ชื่อเทรน อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ประจำการในตำแหน่งฟูลแบ็คในเกมกับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในการไปเยือนที่โอล์ดแท็ฟฟอร์ดในฤดูกาล 2017-2018 และสามารถเก็บ 1 แต้ม ในโรงละครแห่งความฝันได้ ดาวรุ่งหมายเลข 66 ได้ลงสัมผัสเกมใหญ่เป็นครั้งแรกและสามารถเอาตัวรอดในเกมนี้ไปได้ ต้องยอมรับว่า เทรน อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ สามารถพัฒนาตัวเองขึ้นมาได้อย่างยอดเยี่ยมและเป็นกำลังสำคัญให้กับลิเวอร์พูลและทีมชาติอังกฤษ ด้วยสไตล์การเล่นที่มีทีเด็ดจากการวางบอลแบบ แม่นราวจับวางและสามารถทำประตูได้จากลูกนิ่ง และประจำการเสมอตรงมุมธงเพื่อเปิดลูกตั้งเตะเพื่อลุ้นทำประตูให้ทีมอยู่เสมอ เมือเวลาผ่านเข้าสู่ฤดูกาล 2018-2019 เด็กหนุ่มสเกาเซอร์ก็ได้สัมผัส โทฟฟี่แรกของเขากับสโมสรและเป็นระดับยุโรปที่นักเตะหลายๆคนถวิลหาและอยากมีชื่อที่คว้าแชมป์รายการนี้อย่าง ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก โดยโมเมนต์น่าจดจำของเขา คือการฉวยโอกาสครอสบอลจากมุมธงในเกมกับ บาร์เซ่โลน่า ในเกมที่สองของรอบรองชนะเลิศ ทั้งที่เกมแรกออกไปเยือน คัมป์นู พ่ายไปแบบขาดลอย 3-0 แต่สามารถพลิกเกมสุดปาฎิหาริย์ เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ กับท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เป็นเกม All english final game นับเป็นครั้งที่สองต่อจากนัดชิงปี 2008 ที่ ลุซนิกี้ สเตเดี้ยม ทั้งที่ก่อนหน้านี้พลพรรคเรดแมชชีนจะผิดหวังพ่ายให้กับ เรอัล มาดริด ในนัดชิงฤดูกาล 2018 ที่กรุงเคียฟ แต่พวกเขาก็กลับมาอีกครังในฤดูกาลถัดไป และสามารถคว้าแชมป์ได้ในบั่นปลาย เป็นแชมป์ยุโรปสมัยที่ 6 ของสโมสรและมากที่สุดในเกาะอังกฤษ และยังต่อยอดความสำเร็จไปอย่างต่อเนื่อง ฤดูกาล 2019-2020 เป็นการสิ้นสุดระยะเวลาการรอคอยของแชมป์ลีกของสโมสร และ เทรน มีส่วนในความสำเร็จในชุดแชมป์ครั้งนี้ ลงเล่น 38 เกม ทำ 4 ประตู 13 แอสซิสต์ โดยสร้างโอกาส 87 ครั้ง แย่งบอลสำเร็จ 45 ครั้ง ความแม่นยำในการผ่านบอล คิดเป็น 77 % อยู่ในชุดแชมป์ประวัติศาสตร์ของสโมสรและพ่วงสถิตการคว้าแชมป์แบบไม่แพ้ใครในรังเหย้าอีกด้วยด้วยความสำเร็จที่มาแบบรวดเร็วแบบนี้ แต่ตัวเทรน อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เริ่มตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์มากขึ้น นอกจากเรื่องนอกสนามของเจ้าตัวแล้ว ผลงานในสนามเริ่มมีเครื่องหมายคำถาม ว่าเขาชอบเติมเกมรุกมากขึ้นจนดูละเลยในเกมรับจนบางครั้งมีส่วนในการเสียประตูของทีม ในนัดล่าสุดของ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก กับนาโปลี ที่สนามดีเอโก้ อาร์มันโด้ มาราโดนา สเตเดี้ยม แบบขาดลอย 4- 1 เขาจึงตกเป็นเป้าในการวิพากษ์วิจารณ์จากผู้สัดทัดกรณี กูรูชื่อดังหลังเกมส์พ่ายนาโปลีแบบขาดลอยแม้ว่าในฤดูกาลล่าสุด ลงเล่นในเกมลีก 6 นัด ทำ 1 ประตูสุดสวยกับ บอร์นมัธ ด้วยขุมกำลังของทีมที่ประสบปัญหาการบาดเจ็บ และตำแหน่งฝั่งขวาของเขายังไม่มีคู่แข่งเบียดกดดันหรือสลับหมุนเวียนกันเล่นอย่างทางฝั่งซ้าย ที่มีแอนดรูว์ โรเบอสัน ก็มี คอสตาส ซิมิกาส คอยสลับเปลี่ยนหมุนเวียน แม้ทีมเพิ่งจะคว้าตัว คัลวิน แรมซีย์ แต่ก็ยังเร็วเกินไปสำหรับ ดาวรุ่งวัย 18 ปี ช่วงเวลาที่พรีเมียร์ลีกเลื่อนการแข่งขันออกไปแบบนี้ คงมีเวลาให้เจ้าตัวได้พักและ เรียกความมั่นใจกับมาอีกครั้ง เพื่อโอกาสที่จะพาต้นสังกัดคว้าแชมป์และโอกาสลุยฟุตบอลโลก ภายปีนี้ที่กาตาร์ที่ใกล้เข้ามาทุกที อ้างอิงภาพประกอบTwitter/Liverpool / ภาพปก , ปก1 , ภาพที่ 1 , 4 , 5 Twitter/Trent Alexander Arnold / ภาพที่ 2 , 3 , 6Fotmod / สถิติผู้เล่นCommunity คอบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์