แพ้ 3 นัดรวดแม้จะแพ้ต่อทีมใหญ่ แต่คนดูกับแฟนบอลเขาไม่จำหรอกครับ เข้าสู่โปรแกรมพรีเมียรลีคสัปดาห์ที่ 6 ของฤดูกาลคราวนี้ เห็นทีพลพรรคเรดอาร์มี่คงมีแต่ต้องชนะสถานเดียว มันยิ่งกว่าการกอบกู้ศรัทธา แต่มันคือการกอบกู้สปิริตในทีมให้กลับคืนมาด้วย เช็คข่าวคร่าวๆ ผมเห็นนักเตะแมนยูที่บาดเจ็บเริ่มกลับคืนมาแล้ว และคราวนี้แหละเราน่าจะได้เห็นแมนยูในเวอร์ชั่นที่ตัวผู้เล่นเต็มๆ ขึ้นมาหน่อย ก่อนหน้านี้ใช้แต่ผู้เล่นชุดเดิมๆ หน้าเดิมๆ แล้วก็แพ้มา 3 นัดรวด ถ้านัดนี้เทน ฮากยังไม่เปลี่ยนอะไร จะเอาสบู่ยี่ห้อไหนมาถูให้แฟนบอลหายตะขิดตะขวงใจได้ล่ะครับ ซึ่งก็เปลี่ยนจริง! แต่เซอร์ไพรต์โคตรๆ! ผมอาจจะไม่ชัวร์เรื่องการบาดเจ็บของผู้เล่นนัดที่เล่นกลางสัปดาห์นัก แต่ผมแอบดีใจที่ไม่เห็น Christian Eriksen ลงเป็นสิบเอ็ดตัวจริง ด้วยอายุอานามแกน่าจะได้พักไปนานแล้ว การปรากฏตัวของเจ้าหนูหัวฟู Hannibal Mejbri ถือว่าน่าลุ้น Scott McTominay ในแดนกลางก็ถือว่าไม่น่าเกลียด น่าจะชดเชยพละกำลังที่ขาดไปของอิริคเซ่นได้ แต่รายของขรัวเฒ่าอย่าง Jonny Evans นี่สิ! แกมายังไง? ผมคิดว่าแมนยูแค่เซ็นต์แกไว้ใช่วงพรีซีซั่นซะอีก ก่อนหน้านี้ผมก็ได้เช็คดูที่โค้ชหน้าคอมต่างๆ เขาพากันวิเคราะห์ก่อนเกมกัน ต่างคนก็ต่างเดากันไปต่างๆนาๆ แต่ที่ตรงกันคือไม่มีใครคิดว่า Jonny Evans จะได้ลงตัวจริงในแมทซ์นี้เลย! แมทซ์นี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง ภารกิจกอบกู้ศรัทธาจากแผง Line up สิบเอ็ดตัวแบบแปลกประหลาด จะทำให้อิริค เทนฮากสง่างาม หรือจะทำให้เขาตกระกำลำบากมากกว่าเดิม เรามาดูกันเลยครับ 1. ต้นเกมแมนยูมาแรงเสมอ แล้วก็แผ่วลงเรื่อยๆ อีกเช่นเคยเป็นแบบนี้มาสามนัดติดแล้วครับคุณผู้อ่าน การออกสตาร์ทแต่ละแมทซ์ของปีศาจแดงประหนึ่งสายฟ้าฟาดจากยูเซน โบลต์ พวกเขาดูกระหายชัยชนะอย่างบ้าคลั่ง Hannibal Mejbri ถูกย้ายตำแหน่งจากตัวรุกฝั่งขวามาเป็นหน้าต่ำ ยืนอยู่หลัง Rasmus Højlund ส่วน Bruno Fernandes ที่เคยอยู่ตรงกลางวันนี้ก็ถูกย้ายไปยืนฝั่งขวาแทน ผมว่าเริ่มเกมมา Hannibal Mejbri ได้บอลเยอะมากนะครับ มีช็อตประสานงานทำชิ่งทำเกมได้วูบวาบ ตอนไม่มีบอลก็ดึงตัวประกบได้ดีเหลือเชื่อ หรือเราจะมองว่าเพราะน้องแกหัวฟูเราเลยเห็นเขาเด่นกว่าคนอื่นก็ไม่รู้ แต่ผมว่าการเปลี่ยนตำแหน่งแบบนี้ก็เป็นอะไรที่เวิร์คอยู่นะครับ คู่แข่งไม่เคยเห็นฟอร์มมาก่อน และกว่าจะปรับตัวจับจังหวะกันได้ Hannibal Mejbri ก็ชิงความโดดเด่นกว่าคนอื่นในช่วงต้นเกมไปไกลแล้ว 2. เบิร์นลีย์เล่นบอลตามช่อง ไม่มีการสาดโด่งวัดใจเลย!ผมกล้าพูดแบบไม่อายเลยครับว่า ตั้งแต่พรีเมียร์ลีคฤดูกาลนี้เริ่มเตะกันมา ผมเพิ่งได้ดูเบิร์นลีย์ของโค้ช Vincent Kompany เป็นครั้งแรก ด้วยความที่เบิร์นลีย์เป็นทีมในโซนหนีตกชั้น นักเตะทุกคนในทีมคือผมไม่รู้จักเลย! ไฮไลท์ก็แทบไม่ได้ดู! รู้แค่ว่ากับสถานการณ์ปัจจุบันเบิร์นลีย์มีอยู่แค่แต้มเดียวจาก 5 นัด พวกเขามีกลุ่มนักเตะหนุ่มที่มีอายุเฉลี่ยน้อยกว่าทุกทีมในพรีเมียร์ลีค นั่นก็คือ 24 ปีกับอีก 97 วัน ส่วนอาร์เซนอลที่ตามมาเป็นอันดับสองจะอยู่ที่ 24 ปีกับอีก 198 วัน เหมือนที่หัวข้อข้างบนบอกล่ะครับ ว่าเบิร์นลีย์ไม่ได้โยนโด่งวัดใจ แล้วใช้ลูกใหญ่ของกองหน้าเข้าตั้นเลย แต่พวกเขาจะใช้การประสานงานในที่แคบๆ ทำชิ่งรับส่งกันสวยงาม เน้นบอลเคาะสั้นๆ ซึ่งคนที่โดดเด่นที่สุดก็น่าจะเป็น Luca Koleosho ผู้ที่ถูกซื้อมาจากเอสปันญ่อลในราคาเพียง 2.6 ล้านปอนด์ เขาผู้นี้ประจำการอยู่ทางริมเส้นฝั่งขวา แล้วก็มีจังหวะให้กระชากลากเลี้อยสร้างโอกาสอยู่หลายที แต่ก็อย่างว่าล่ะครับ ว่าด้วยเรื่องของคุณภาพแล้ว ยังไงซะตัวผู้เล่นเบิร์นลีย์ก็เทียบชั้นแมนยูไม่ได้ "วูบวาบแต่ประสิทธิภาพน้อย" คิอนิยามของพวกเขาในแมทซ์นี้ ยกตัวอย่างก็เช่นในนาทีที่19 Zeki Amdouni ได้กระโดดขึ้นโหม่งลูกเปิดจากริมเส้นแบบโล่งๆ บอลพุ่งเข้ากรอบชัดเจน แต่ด้วยความที่ไม่เฉียบคมเอง André Onana ผู้รักษาประตูแมนยูก็เลยทะยานปัดลูกนี้ออกไปได้ และหลังจากนั้นมาอีกนิดหน่อย เบิร์นลีย์ก็ได้โชว์การทำชิ่งต่อบอล พวกเขาลำเลียงบอลขึ้นไปจากหน้ากรอบเขตโทษตัวเอง พอเห็นช่องและ Zeki Amdouni ก็วิ่งทำทางได้สวย เขาก็เลยได้หลุดเข้าไปล่อเป้าอีกทีเป็นครั้งที่สอง! แต่บอลก็พุ่งไปชนเสาอีก เราจะเห็นว่าการเข้าทำของเบิร์นลีย์นั้นเป็นระบบมาก พวกเขาไม่ได้ใช้พลังงานวิ่งเพลสซิ่ง เพื่อเอาบอลมาบุกด้วยลูกฉาบฉวย ไม่ได้ใช้การโยนยาวแล้วใช้สรีระร่างกายเข้าห้ามหั่นกันในจังหวะ 50/50 แต่พวกเขาใช้ทีมเวิร์คเป็นหลัก นี่คือฟุตบอลสมัยใหม่ขนานแท้ ขาดแค่คุณภาพของนักเตะที่น่าจะดีกว่านี้สักหน่อย ไบรท์ตันก็แสดงให้เห็นมาแล้ว ผมว่าเบิร์นลีย์ของ Vincent Kompany ก็น่าจะทำได้เช่นกัน 3. นั่น Jonny Evans หรือ Paul Scholes เปิดสวยน้ำหนักเป๊ะ จบแบบเวิร์ลคลาส!ก่อนหน้าจังหวะได้ประตูของแมนยู ผมขอพูดถึงจังหวะทำประตูได้ของ Jonny Evans นิดนึงก่อน เพราะนั่นคือความเซอร์ไพรต์แรกของผม น้าแกกระโดดโหม่งลูกเตะมุมลูกนี้ได้สูงกว่าใครเพื่อน แล้วบอลก็กระทบชิ่งกับศีรษะอย่างรุนแรง ชนิดที่ประตูคนไหนก็สะดุ้งรับไม่อยู่ แว๊บแรกผมนึกว่าผมเห็น รุด ฟาน นิสเตลรอย แห่งโอลด์แทรฟฟอร์ดกลับมารียูเนี่ยน เสียดายที่จังหวะนี้โดน VAR ยึดประตูไป "นี่มันประตูของจอนนี อีแวนท์ นับตั้งแต่ปี 2015 เชียวนะโว่ย!" ผมโกรธมากจนต้องเผลออุทานออกมา แต่แล้วในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรก หลังจากสลัดจิตวิญญาณศูนย์หน้าพลังม้าอย่าง รุด ฟาน นิสเตลรอย ทิ้ง หลังเท้าของ Jonny Evans ก็ได้ประดิษฐานความเป็น Paul Scholes ลงไปแทน เขาตักบอลยาวจากแดนหลัง ข้ามหัวผู้เล่นทุกผู้ทุกคนอย่างเย้ยหยันและไม่ยี่หระ ก่อนจะถูกสำเร็จโทษด้วยหลังตรีนอันทรงพลังแบบไม่ต้องจับของ Bruno Fernandes ตูม!!!!! สวยจริงอะไรจริง! สวยทั้งคนเปิดคนยิง นี่คือลูกยิงแบบเวิร์ลคลาสขนานแท้! 4. เริ่มครึ่งหลังมา ต้นเกมแมนยูก็ยังแรงเหมือนเดิมเหมือนแมนยูจะถูกโฉลกกับช่วงต้นเกมมาก ไม่ว่าจะเป็นครึ่งแรกหรือครึ่งหลังถ้าเป็นต้นเกมจะเล่นดีตลอด อย่างแมทซ์นี้เปิดครึ่งหลังมาแป๊บเดียว Rasmus Højlund ก็ได้โอกาสพุ่งเข้าชาร์จบอลแบบจ่อๆ แต่เหมือนแกจะช้าไปครึ่งก้าว บอลเลยพุ่งผ่านหน้าปากประตูไปอย่างน่าเสียดาย ผมว่าคนที่โดดเด่นขึ้นมาในช่วงครึ่งหลังกลับเป็น Diogo Dalot มากกว่า เขาเติมเกมขึ้นมาจากแบ็คขวา และเปิดบอลจากด้านข้างได้ลุ้นอยู่หลายครั้ง มันเหมือนกับว่าฝั่งเบิร์นลีย์จะจับเขาไม่อยู่เอาซะเลย 5. เบิร์นลีย์แก้เกม เปลี่ยน 3 ตัวรวด!รูปเกมเริ่มเฉื่อยบางที Vincent Kompany น่าจะต้องการความแปลกใหม่ ในนาทีที่ 72 เขาเลยจัดแจงเปลี่ยนผู้เล่นเกมรุกทั้ง 3 คนออก Aaron Ramsey , Luca Koleosho และ Zeki Amdouni ถูกถอดออกหมด พลางส่ง Sander Berge , Jacob Bruun Larsen และ Jay Rodríguez ที่มีลักษณะเป็นกองหน้าตัวจบสกอร์แท้ๆลงไป เอาสายจิ๊ดเด็กๆออกแล้วเติมพวกตัวเก๋าๆลงไป งานนี้น่าจะเอาจริง คงไม่มีใครอยากเล่น 6 เกมแล้วมีแค่แต้มเดียวหรอกนะครับ แนวรับแมนยูคงจะจับจังหวะยากขึ้น เพราะคนที่ลงไปใหม่ล้วนเล่นในแบบที่ไม่เหมือนกับ 3 คนแรกที่ลงไปเลย 6. หลับหนักกว่าเดิม บอลเล่นกันอย่างเฉื่อย จังหวะเข้าทำไม่มีเลย!อย่างที่บอกในข้อข้างบนครับ ว่าพอเปลี่ยนตัวจิ๊ดๆออกไอ้ลูกกระชากลากเลื้อย ช็อตใช้ทริคหลอกข้อเท้าแบบหวือหวามันก็หายไปด้วย คนพากย์ก็ไม่ได้เน้นเสียง ในขณะที่ฝั่งแมนยูเองก็ไม่กระตือรือร้นจะทำอะไรแล้ว พวกเขาพอใจกับสกอร์ 1 - 0 และแค่ตั้งรับไปตามจังหวะ ความขาดทุนจึงมาลงที่คนดูอย่างเรา! จริงอยู่ว่าแมทซ์นี้เตะกันตอนตี 2 กว่าจะจบก็ตี 4 แต่บอล UCL ก็เตะเวลานี้เหมือนกัน ทำไมผมถึงไม่เคยหลับเลยสักครั้ง มีแมทซ์นี้ละครับที่ผมดูไปก็สัปหงกไป กลายเป็นดูบอลแบบกึ่งหลับกึ่งตื่น นี่ถ้าเป็นการเล่าเรื่องผีป่านนี้ผมคงเจอผีไปแล้ว ผีชอบออกมาหลอกคนตอนกึ่งจริงกึ่งฝัน แต่ทว่าดูผีแดงเล่นเฉื่อยตุนสกอร์แบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกันนะครับ ผมว่า DNA มันไม่ใช่เอาซะเลย! 7. ซวยจัด! Sergio Reguilón เจ็บแฮมสตริงจะจบเกมอยู่แล้ววว!อย่างที่เรารู้กันว่าแบ็คซ้ายรายนี้ถูกยืมตัวมาเล่นแทน ลุค ชอว์ กับ ไทเรลล์ มาลาเซีย ที่บาดเจ็บ แล้วกับแมทซ์นี้ที่เหมือนจะไม่มีอะไรแล้ว จู่ๆความซวยก็บังเกิด! Sergio Reguilón กุมกล้ามเนื้อโคนขาด้านหลังเดินกะเผลกออกจากสนามไป สองสามนัดที่ผ่านมาผมว่าเขาเล่นได้ดีมาก เติมเกมมันส์สะแด่ว โดยเฉพาะช่วงต้นเกมที่แทบจะเป็นตัวจักรสำคัญเลย แล้วอีหรอบนี้จะแก้ไขกันยังไงครับเนี่ยะ? อิริค เทนฮาก จะเอาใครมาเล่นตรงนี้แทน หรือเขาจะเปลี่ยนไปเล่นแผนหลัง 3 ไม่ต้องมีแบ็คขวาไปเลย เป็นเรื่องที่ต้องติดตามและปวดกบาลกันต่อไปครับ เฮ้อ...! สรุปสุดท้าย แมนยูถือว่าแก้ตัวได้สำเร็จ พวกเขาหยุดเลือดจากปากแผลได้ดี ที่เหลือต่อจากนี้ก็คือการเย็บแผลและใส่ยาฆ่าเชื้อรอพักฟื้น เราในฐานะแฟนบอลไม่ว่าจะเป็นกองเชียร์หรือกองแช่งก็ต้องให้กำลังใจกันต่อไป จุดดีอย่างหนึ่งในแมทซ์นี้คือเราได้เห็น Sofyan Amrabat ลงสนาม แต่จุดเสียคือแมนยูเล่นได้เนือยเกินไป เล่นกันชวนง่วงไม่เร้าใจ คุณผู้อ่านเห็น Amrabat ลงตอนท้ายเกมใช่ไหมครับ? แต่ผมไม่เห็นเขาเลย! ผมหลับไปตั้งแต่นาทีที่ 80 กว่า! สะดุ้งตื่นมาอีกทีก็เป็นภาพของผจก.เขาจับไม้จับมือกันแล้ว การจะปิดไฟนอนก็ควรจะปลาบปลื้มกับการแข่งขัน ไม่ใช่นอนเพราะเล่นกันน่าเบื่อ แมนยูคือยี่ห้อทีมฟุตบอลครับ ไม่ใช่ยี่ห้อของยานอนหลับ.. ชนะ! แต่ไม่ชอบรูปเกมแบบนี้ครับอิริค เทนฮาก เครดิตรูปภาพภาพหน้าปก (1) จาก FB : Manchester United ภาพหน้าปก (2) จาก FB : Manchester United รูปที่ 1 จาก FB : Manchester United รูปที่ 2 จาก FB : Manchester United รูปที่ 3 จาก FB : Manchester United รูปที่ 4 จาก FB : Manchester United รูปที่ 5 จาก FB : Manchester United รูปที่ 6 จาก FB : Manchester United รูปที่ 7 จาก FB : Manchester United รูปที่ 8 จาก FB : Manchester United รูปที่ 9 จาก FB : Manchester United ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !