แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง โดยคว้าชัยชนะเหนือฟูแล่ม 4-0 ที่ คราเวน คอทเทจ โดยลูกทีมของ เป๊บ กวาดิโอลา ต้องการเก็บสามแต้มเพื่อสร้างแรงกดดันให้กับอาร์เซน่อล ที่จะลงสนามกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันอาทิตย์ และพวกเขาก็ทำผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ยอสโก้ กวาร์ดิโอ คือคนที่ฉายแววมากที่สุดในเกมนี้ เค้าทำไปสองประตูให้กับทีมในเกมนี้ ส่งผลให้เขามีสถิติที่ยอดเยี่ยมโดยทำ 5 ประตูจาก 7 เกมหลังสุดร่วมทุกรายการ แถมด้วย ฟิล โฟเดน ตัวเต็งรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลจาก EA SPORTS ก็ไม่น้อยหน้า ทำประตูที่ 25 ของตัวเองในฤดูกาลนี้ ช่วยให้เรือใบสีฟ้า ไล่ตามผลต่างประตูกับอาร์เซน่อลเหลือเพียงแค่ 3 ประตูเท่านั้นในช่วงท้ายเกม ฆูเลียน อัลวาเรซ ยิงจุดโทษปิดกล่องหลังจาก อิสซา ดิย็อป ทำฟาว์ลและได้รับใบเหลืองใบที่สองไล่ออกจากสนาม ส่งผลให้ ฟูแล่ม แพ้เป็นนัดที่ 4 ติดต่อกัน ปัจจุบันพวกเขาอยู่ที่อันดับ 13 ด้วย 44 คะแนน หมดลุ้นทุกอย่างแล้วขณะเดียวกัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รู้ดีว่าพวกเขาต้องการชัยชนะอีกเพียงแค่สองนัดเท่านั้น พวกเขาก็จะการันตีแชมป์พรีเมียร์ลีก โดยคู่แข่งนัดต่อไปของพวกเขาคือ ท็อตแหน่ม ฮอตสเปอร์สในวันอังคารนี้และปิดท้ายฤดูกาลด้วยการเจอเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ฟูแล่ม ออกสตาร์ทได้อย่างดี แต่โมเมนตัมของพวกเขาก็ดับลงอย่างรวดเร็วหลังจากเสียประตูให้กับแมนซิตี้ตั้งแต่นาทีที่ 13 ซึ่งเป็นการบุกครั้งแรกที่เป็นชิ้นเป็นอันของเรือใบสีฟ้าโดยมาจากจังหวะที่กวาร์ดิโอล ลากบอลจากด้านซ้าย จ่ายบอลกับ เควิน เดอ บรอยน์ ก่อนจะพาบอลหนี อิสซา ดิย็อป และยิงเข้าประตูไปอย่างสวยงาม มาร์โก ซิลวา ผู้จัดการทีมฟูแล่ม ดูไม่พอใจเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นแมนซิตี้ก็เดินเกมรุกเข้าใส่เจ้าบ้านอย่างต่อเนื่องมีจังหวะที่ ฟิล โฟเดน มีโอกาสยิงไกลใส่ แบรนด์ เลโน่ แต่ยังไม่เข้าเป้าแชมป์เก่าเกือบได้ประตูที่สองช่วงท้ายครึ่งแรก จากจังหวะที่ เดอ บรอยน์ เปิดบอลสุดสวยให้ มานูเอล อาคานจี ที่ว่างอยู่คนเดียวหน้ากรอบเขตโทษ แต่แทนที่จะโหม่ง อาคานจี กลับยิงวอลเลย์ไปชนคานออกไปอย่างน่าเสียดายฟูแล่ม พยายามแก้เกมด้วยการส่ง อดาม่า ตราโอเร ลงสนามในช่วงพักครึ่ง แต่ก็โดนแมนซิตี้ สวนกลับจนเสียประตูอีกครั้ง จุดเริ่มต้นมาจาก เจา ปาลินญ่า เข้าปะทะกับ แบรน่าโด้ ซิลวา บอลกระดอนมาเข้าทาง ฟิล โฟเดน และเขาก็ยิงด้วยเท้าขวาข้างไม่ถนัด ผ่านมือผู้รักษาประตูอย่างแบรนด์ เลโน่เข้าไป แม้จะมีจังหวะ เออร์ลิง ฮาลันด์ ยิงพลาดไปหลังจากได้รับบอลจาก เดอ บรอยน์ แต่สุดท้าย กวาร์ดิโอล ก็มาเป็นคนปิดกล่องได้สำเร็จในนาทีที่ 71 เบรนาโด้ ซิลวา เปิดลูกครอสไปเสาไกล กวาร์ดิโอล โฉบโอกาสโขกบอลด้วยปลายเท้าผ่านเลโน่ เข้าประตูไป จากนั้นมีจังหวะที่เลโน่ ต้องโชว์ฟอร์มเซฟอีกครั้งจากลูกยิงไกลของ เจเรมี่ โดคูอย่างไรก็ตาม ฟูแล่ม ต้องมาเสียประตูที่สี่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ อิสซา ดิย็อป พุ่งเข้าปะทะ อัลวาเรซ จนโดนใบเหลืองใบที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม จากนั้นเป็นทางด้านของ อัลวาเรซ ก็สังหารจุดโทษเข้าไป ปิดกล่องให้แมนซิตี้ เอาชนะไป 4-0 กลับขึ้นไปแซงอาร์เซน่อลเป็นจ่าฝูงชั่วคราวสถิติที่น่าสนใจหลังเกมเควิน เดอ บรอยน์ จากประตูที่เขาแอสซิสให้กวาดิโอล นี่เป็นการแอสซิครั้งที่ 111 ของเดอ บรอยน์ในพรีเมียร์ลีก ทำให้เขามีสถิติเทียบเท่ากับ เชสก์ ฟาเบรกาส ในอันดับสองของแอสซิสตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก เป็นรองเพียงแค่ ไรอัน กิ๊กส์ คนเดียวเท่านั้นที่มีสถิติแอสซิส 162 ครั้ง ในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก เดอ บรอยน์ ไม่ได้มีแค่การแอสซิสเท่านั้น เขายังมีส่วนร่วมกับประตูในเกมส์เยือนทั้งหมด 5 เกมส์หลังสุดในลีกอีกด้วย โดยยิงไป 3 ประตูและแอสซิสอีก 5 ครั้งอีกทั้งยังมีสถิติออกมาว่าแมนซิตี้ชนะในแข่งขันพรีเมียร์ลีก 7 นัดติดต่อกัน โดยชนะทุกนัดด้วยผลต่างอย่างน้อย 2 ประตู ซึ่งเป็นสถิติการชนะติดต่อกันยาวที่สุดร่วมกับอีกครั้ง (เคยมีสถิติชนะ 7 นัดติด โดยชนะทุกนัดด้วยผลต่าง 1 ประตูขึ้นไป ระหว่างเดือนพฤษภาคม ถึง สิงหาคม 2015)ฟูแล่ม แพ้แมนซิตี้ 13 นัดติดต่อกันในพรีเมียร์ลีก - ทีมเดียวที่แพ้ทีมคู่แข่งขันติดต่อกันมากกว่าในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกคือ เอเอฟซี บอร์นมัธ ซึ่งก็แพ้แมนซิตี้เช่นกัน (สถิติปัจจุบันอยู่ที่ 14 นัด)แมนซิตี้ กลับขึ้นสู่อันดับ 1 ของตารางพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง และจะจบวันในฐานะจ่าฝูงเป็นวันที่ 8 ในปี 2024 ซึ่งรวมแล้วพวกเขาจะจบฤดูกาลนี้ในฐานะจ่าฝูงทั้งหมด 72 วัน เป็นอันดับ 3 รองจาก ลิเวอร์พูล (87 วัน) และ อาร์เซน่อล (74 วัน)เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ชนะการแข่งขันทั้งหมด 13 นัดที่เจอกับ มาร์โก ซิลวา ถือเป็นสถิติการชนะผู้จัดการทีมคนใดคนหนึ่งที่ดีที่สุดในอาชีพของเขา ทีมของกวาร์ดิโอลายิงประตูไปทั้งหมด 44 ประตูใน 13 นัดที่เจอกัน และเสียประตูเพียง 8 ลูกเท่านั้นสุดท้ายนี้เราต้องมารอดูกันว่าทีมใดจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกปีนี้ไปครองระหว่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้หรืออาร์เซน่อล แฟน ๆ ทั้ง 2 ทีมตามลุ้นตามเชียร์กันต่อไปบทความแนะนำhttps://intrend.trueid.net/article/%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81-%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%99-%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%AD%E0%B8%95-arne-slot-%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%87%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%87%E0%B8%A9%E0%B9%8C%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%9E%E0%B8%B9%E0%B8%A5-trueidintrend_442315https://intrend.trueid.net/article/%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%95%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B8%AE%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%87%E0%B8%94-%E0%B8%8B%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%9E%E0%B8%B9%E0%B8%A5-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%AD%E0%B8%9B%E0%B8%9B%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%A8%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%99-trueidintrend_443026ขอบคุณภาพประกอบจาก : Premier League / Manchester City ภาพปก 1 / ภาพปก 2 / ภาพปก 3 / ภาพประกอบ 1 / ภาพประกอบ 2 / ภาพประกอบ 3 / ภาพประกอบ 4 / ภาพประกอบ 5 / ภาพประกอบ 6 / ภาพประกอบ 7