แม้ว่าปีศาจแดงแมนยูจะเก็บสามแต้มสำคัญจากปราสาทเรือแก้ว แต่ก็ต้องสังเวยด้วยใบแดงของนักเตะห้องเครื่องที่ขาดไม่ได้นาทีนี้อย่างคาเซมิโรทำให้ต้องพลาดลงช่วยทีมสามเกมในพรีเมียร์ลีก ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ขาด คริสเตียน อีริคเซน ที่เจ็บจากเกมเอฟเอคัพพักยาวถึงปลายเดือนเมษายนไปแล้วหนึ่งราย หากจะบอกว่านี่คือบททดสอบผู้จัดการทีม เอริค เทนฮาก ก็คงไม่ผิดอะไรมากนัก เพราะก่อนหน้านี้แดนกลางคือปัญหาใหญ่ปีศาจแดง แม้จะแก้ไขจนเข้าที่ได้ก็มาสลับกันเจ็บหรือนี่จะเป็นเหมือนฟ้ากลั่นแกล้งชายคนนี้หรืออย่างไรกันแน่ แต่สิ่งที่น่าคิดกว่านั้นสามเกมในพรีเมียร์ลีกต่อจากนี้จะแก้ปัญหาอย่างไรกับตำแหน่งสำคัญตรงนี้ เพราะอย่างที่เห็นจากเกมที่เอาชนะคริสตัล พาเลซ 2 – 1 ที่โอลล์ทราฟอร์ด พอไม่มีกองกลางที่ไว้ใจได้ก็รวนจนเกือบโดนตีเสมอ งั้นมาลองเดาใจผู้จัดการทีมรวมถึงส่องขุมกำลังแดนกลางของปีศาจแดงกันหน่อยว่าจะผ่านพ่นวิกฤตนี้ไปได้อย่างไร1. การมาถูกเวลาของ “มาร์เซล ซาบิตเซอร์” ดีลของมาร์เซล ซาบิตเซอร์ที่กูรูบางรายบอกว่านี่คือนักเตะที่ไม่ได้มีคุณภาพมากมายพอที่จะเป็นกำลังของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้ แต่หลังจากที่ลงมาในช่วงเวลากว่าสิบนาทีที่อยู่ในสนาม ก็ถือว่าทำได้ดีเอาเรื่องกับไล่กวดในบางจังหวะถึงหน้ากรอบเขตโทษ รวมถึงการตัดบอล การไล่บอลไม่ให้ฝั่งตรงข้ามสร้างเกมจากแดนหลังขึ้นได้ง่าย นับว่าเป็นการทำงานตามใบสั่งที่ถูกต้องที่สุด นี่น่าจะเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ตอบคำถามหลายคนว่าทำไมต้องไปหานักเตะอายุเกือบสามสิบปีมาร่วมทีมทั้งที่สามารถทุ่มเงินดึงนักเตะที่อายุน้อยกว่านี้มาใช้งานแบบถาวรได้ สิ่งที่มาร์เซล ซาบิตเซอร์มีและช่วยทีมได้ก็คือประสบการณ์ อย่างที่เห็นในเกมล่าสุดความนิ่งการเขาบอลที่ไม่โผงผาง รวมถึงรับความกดดันในช่วงเวลาเป็นตาย ห้องเครื่องรายนี้ก็ทำได้ดีไม่มีที่ติ อีกทั้งการทำตามผู้จัดการทีมสั่งโดยไม่ออกนอกลู่นอกทางให้เห็นตลอดช่วงเวลาที่เข้าอยู่ในสนามนั้น เป็นสิ่งที่ผู้จัดการทีมมีที่ประสบการณ์กับเกมแบบนี้ต้องการ เพราะจะมีประโยชน์ในเรื่องการควบคุมเกมในช่วงเวลาเป็นตายที่จะตัดสินได้ในเสี้ยวนาที หากไม่มีสมาธิไม่มีความนั่ง ไม่ได้ตามที่สั่ง นั่นคือการพลาดสิ่งสำคัญในเกมนั้นอย่างแน่นอน2. แดนกลางที่มีจำกัดและโปรแกรมที่ถี่เอาเรื่อง สิ่งที่เป็นปัญหาต่อมาของเอริค เทนฮากคือโปแกรมที่ถือว่าเยอะพอสมควรในเดือนนี้ ทั้งยูโรปาลีก พรีเมียร์ลีก รวมถึงนัดชิงคาราคัพช่วงปลายเดือน แต่นักเตะแดนกลางกลับมาให้เลือกใช้แบบจำกัด เมื่อเหลียวมองตอนนี้ ก็มี เฟร็ด , มาร์เซล ซาบิตเซอร์ และ สก๊อต แมคโทมิเน่ย์ ที่เป็นตัวหลักสลับหมุนเวียนกันไป แต่หากต่อจากนี้คู่หูที่จะไว้ใจได้ก็คงหนีไม่พ้น เฟร็ด และ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ เพราะคู่หูแม็คเฟร็ดในตำนานคงไม่ได้กลับมาในเร็ววันเป็นแน่ แต่ส่งที่จะต้องมาคิดล่วงหน้าก็คือหากต่อจากนี้สองเกมในพรีเมียร์ลีก คือวันที่ 9 , 12 กุมภาพันธ์ เป็นสองเกมที่เวลาห่างกันเพียงไม่กี่วันสภาพร่างกายนั้นจะไหวหรือไม่ หากไม่มีการปรับเปลี่ยนสลับนักเตะ จริงอยู่ที่ทั้งสองเกมเจอทีมที่สถานการณ์ตอนนี้ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไร แต่ก็ประมาทไม่ได้เพราะ ลีดส์ ยูไนเต็ด เป็นหนึ่งในทีมที่มีเรื่องราวกับปีศาจแดง รวมถึงแดนกลางที่เข้าถึงตัว ฉะนั้นทั้งสองเกมน่าจะสลับคู่หูแมคเฟร็ด หรือไม่ก็น่าจะลองใช้ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ และ สก๊อต แมคโทมิเน่ย์ ลงในเกมกลางสัปดาห์ คงน่าจะพอเซฟพละกำลังในวันที่ 12 ได้ระดับหนึ่ง3. ตัวเลือกดาวรุ่งที่พอจะไว้ใจได้ ในตัวเลือกของดาวรุ่งหากจะสลับสับเปลี่ยนหม่นเวียนกันได้บ้างในกรณีที่ต้องการพักหรือบาดเจ็บขึ้นมาก็มองเห็นแต่เพียง ฟากุนโด เปลิสตริ ที่พอจะเล่นเป็นกองกลางตัวรับได้ แม้ว่าธรรมชาติของเจ้าหนูรายนี้จะเป็นกองกลางตัวรุก แต่หากสุดวิสัยจริง ๆ ก็คงต้องใช้งาน โดยอาจะใช้เป็นตัวไล่บอลในแดนหน้าอาศัยความสดไปกดดันไม่ให้สร้างเกมขึ้นมาได้ง่าย ๆ เหมือนกับ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ได้ถูกสั่งให้ทำในเกมที่เจอกับคริสตัล พาเลซ มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะมองว่าเด็กวัย 21 ปี จะรับแรงกดดันได้ขนาดไหนเมื่อเจอความเขี้ยวของคู่แข่ง คงต้องขอบอกก่อนว่าการที่จะใช้งานห้องเครื่องดาวรุ่งรายนี้ก็คงต้องอยู่ในกรณีที่ทั้ง เฟร็ด , มาร์เซล ซาบิตเซอร์ และ สก๊อต แมคโทมิเน่ย์ ไม่สามารถใช้งานได้สองในสามคนในเวลาเดียวกัน ซึ่งกรณีแบบนี้คงเป็นไปได้ยากพอสมควร แต่หากมันเกิดขึ้นก็คงต้องใช้พลังความสดเข้าไปช่วย4. ใช้เกมรุกขึ้นนำให้เร็วแล้วแก้แดนหลัง 5 นี่คือวิธีที่แก้ปัญหาได้ผลที่สุดแล้วในเวลานี้ เหมือนอย่างที่เกมล่าสุดในช่วงท้ายที่เกือบจะโดนตีเสมอในช่วงสิบนาทีสุดท้าย นี่คือการแก้ไขที่ทันเวลาและไม่ต้องรอนานของเอริค เทนฮากคือคิดให้เร็ว แก้ไขให้ไว แม้ว่าจะขัดอารมณ์ในจังหวะสวนกลับของคู่แข่งที่หลังเปิด แต่มันก็ได้ผลลัพธ์อย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งนั่นจะส่งผลดีต่อทีมมากกว่าที่จะเน้นเกมรุกแบบไม่ลืมหูลืมตา สองเกมที่จะเจอกับลีดส์ ยูไนเต็ดซึ่งเป็นทีมที่เสียประตูมากที่สุดเป็นอันดับห้า ณ ตอนนี้ การใช้รูปแบบบุกตั้งแต่แรกดันเพื่อประตูขึ้นนำเร็วแล้วมาเน้นแพ็คบอลส่งบอลตรงกลางเป็นหลัก รอจังหวะสวนกลับ น่าจะเป็นสูตรสำเร็จที่จะแก้ไขและรอเวลา ความสมบูรณ์ของทีมได้ดีที่สุดกับสถานการณ์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงต้องมาติดตามกันว่าสามแนวรุกที่ยังใช้งานได้อย่าง เฟร็ด , มาร์เซล ซาบิตเซอร์ และ สก๊อต แมคโทมิเน่ย์ จะสามารถรักษาสมดุลแดนกลางได้ดีขนาดไหน แน่นอนว่าเหล่าสาวกปีศาจแดงเองก็คงต้องมานั่งภาวนาว่าอย่าให้มีใครต้องเจ็บเพิ่มในตำแหน่งนี้อีกเลย ไม่งั้นมีหวังได้ใช้นักเตะแผงหลังดันขึ้นมาเล่นเป็นกลางรับเป็นแน่แท้ข่าวที่เกี่ยวข้องส่องสถิติ-วิเคราะห์โอกาสคว้าแชมป์ แมนยู vs นิวคาสเซิล คาราบาวคัพ 2022-2023"นาธาน บิชอป (Nathan Bishop)" ผู้รักษาประตู แมนยู ที่กำลังจะได้รับโอกาสจาก เอริค เทนฮากทำไม "แมนยู" ต้องการตัว เฟเดริโก้ คิเอซ่า เพื่อแก้ปัญหาทัพปีศาจอาร์เซนอล vs แมนยู วิเคราะห์บอล ปืนโตจะจ่าฝูงยาวหรือผีแดงต้องร่วงท๊อปโฟร์วิเคราะห์แผน แมนยู เหตุใดถึงกล้าใช้แผนที่เสี่ยงขนาดนี้?เครดิตภาพปก twitter.com/ManUtd :: ภาพที่ 1 , ภาพที่ 2 , ภาพที่ 3เครดิตภาพปก twitter.com/ManUtd :: ภาพที่ 1 , ภาพที่ 2 , ภาพที่ 3 , ภาพที่ 5 , ภาพที่ 6 , ภาพที่ 7, premierleague.com :: ภาพที่ 4 ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !