เจ้าหนูเคลาดิโอ เอเชแวร์รี่ (Claudio Echeverri)กลายเป็นนักเตะแมนเชสเตอร์ ซิตี้เป็นที่เรียบร้อยด้วยค่าตัว 22 ล้านปอนด์ พร้อมเซ็นสัญญา 6 ปี แม้ว่าในฤดูกาลที่เหลือของพรีเมียร์ลีก เจ้าหนูรายนี้จะยังไม่สามารถลงเล่นกับทีม U18 ได้ ด้วยเงื่อนไขที่ว่านักเตะจะถูกปล่อยยืมตัวให้ต้นสังกัดเก่าอย่างริเวอร์ เพลทใช้งานจนถึงเดือนธันวาคม 2024หลายคนก็คงสงสัยว่าห้องเครื่องวัยเพียง 17 ปีเคลาดิโอ เอเชแวร์รี่ (Claudio Echeverri)ทำไมถึงได้มาด้วยราคาแพงขนาดนี้ เพราะเอาจริง ๆ เด็กเพียงแค่ 17 ปี ในอคาเดมีที่ได้ลงสนามในชุดU18 ก็มีมากมาย แถมแว่ว ๆ มาว่า นักเตะรายนี้ไม่ได้เป็นความต้องการของเปป กวาดิโอล่าเลยแม้แต่น้อย แถมกว่าจะได้มารับใช้เรือใบนายใหญ่ที่เหลือสัญญาถึงปี 2025 อาจจะไม่อยู่แล้วก็ได้ถ้าอย่างนั้นแมนเชสเตอร์ ซิตี้มีเหตุผลอันใดถึงได้คว้าเด็กวัยเพียง 17 ปี ด้วยราคาถึง 25 ล้านหอร์นขนาดนั้น แล้วมันคุ้มค่าจริงหรือกับผลงานที่ออกมา ในบทความนี้จะพาไปแถลงไขพร้อมกับส่องสถิติต่าง ๆ ของเจ้าหนูเคลาดิโอ เอเชแวร์รี่ (Claudio Echeverri) ว่ามีดีแค่ไหนเรือใบถึงยอมจ่ายขนาดนั้นใครคือเคลาดิโอ เอเชแวร์รี่ (Claudio Echeverri)เคลาดิโอ เอเชแวร์รี่ เกิดในเดือนมกราคม ปี 2006 ในเมืองเรซิสเตนเซีย เมืองหลวงของจังหวัดชาโกทางตะวันออกเฉียงเหนือของอาร์เจนตินา เริ่มต้นกับทีมสมัครเล่นในท้องถิ่นอย่างเดปอร์ติโบ ลูยัน ด้วยฝีเท้าที่เตะตาแมวมอง จึงได้โอกาสทอสอบฝีเท้าในวัยเพียง 10 ขวบ จนได้เข้าสู่รั้วอคาเดมี่ริเวอร์เพลท ในที่สุดและเมื่ออายุเพียง 11 ปี สื่อต่าง ๆ ก็เริ่มเป็นข่าวพาดหัว ในฐานะเด็กที่มีพรสวรรค์ซึ่งควรค่าแก่การจับตามองจุดที่ทำให้หลายสื่อเริ่มจับตามองมากขึ้นคือทัวร์นาเม้นในปี 2017 ในคลารินตั้ง ที่ได้ตั้งข้อสังเกตว่าเอเชแวร์รี่โดดเด่นในการแข่งขันเยาวชนแบบ 7 คน ซึ่งจัดขึ้นในเวนิสกับทีมแอตเลติโก มาดริด, อาแจ็กซ์, ยูเวนตุส และเชลซีในเกมที่เจอกันยูเวนตุสเขายิงไป 4 ประตู และจบทัวร์นาเมนต์ด้วยการทำ 9 ประตูจาก 6 เกม นั่นทำให้เจ้าหนูรายนี้ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก แต่กระนั้นริเวอร์เพลทอคาเดมี่จบอันดับ 3 ในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวจากทัวร์นาเม้นนั่นการเติบโตของห้องเครื่องอนาคตไกลก็ได้เปิดหมายอย่างเป็นทางการ ในเดือนตุลาคม ปี 2022 เขาเปิดตัวให้กับทีมสำรองของริเวอร์เมื่ออายุเพียง 16 ปี และทำประตูใส่ปาโตรนาโต จากนั้นได้เซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรกในไม่กี่สัปดาห์ต่อมา และตั้งแต่นั้นมาก็ได้กลายเป็นขุมกำลังของทีมชุดใหญ่ โดยลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ไปแล้ว 4 นัดจนถึงปัจจุบันสไตล์การเล่นก่อนที่เขาจะมีชื่อเสียงในฟุตบอลโลกรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี มีคำถามเกิดขึ้นว่า เคลาดิโอ เอเชแวร์รี อาจจะเป็นลิโอเนล เมสซี คนต่อไปหรือไม่? โดยผู้ใช้โซเชียลมีเดียตาดีถึงได้เปรียบเทียบหนึ่งในประตูของเขากับแข้งบราซิลที่ชนะการแข่งขันฟุตบอลโลกที่เอาชนะอาเจนติน่าได้ เอเชแวร์รีเป็นกองกลางตัวรุกที่เหมาะที่สุดในฐานะนักเตะหมายเลข 10 ของอาร์เจนติน่าในยุคคลาสสิก ดดยถูกยกเทียบกับอังกานเช่ที่เป็นที่รู้จักในประเทศบ้านเกิดของเขา หรือเรียกอีกอย่างว่าเตรควาร์ติสต้าhttps://twitter.com/i/status/1728067402389168446'เอล ดิอาบลิโต'คือชื่อที่เป็นที่รู้จักในถิ่นริเวอร์ การที่เจ้าหนูเอเชแวร์รีได้ฉายานี้มาครองได้รับไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นทักษะด้านฟุตบอล ที่มีทั้งทักษาะฟุตบอลส่วนตัว การคิดอ่านเกม ความสามารถในการจ่ายบอลในจังหวะสุดท้าย การเอาชนะคู่แข่งในจังหวะเลี้ยงดวลตัวต่อตัว และการเล่นที่เข้ากันได้ดีกับปีกและผู้เล่นหมายเลข 9 นั่นคือทั้งหมดที่ทำให้เจ้าหนูรายนี้ได้ฉายา'เอล ดิอาบลิโต'มาครองทำไมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ถึงต้องการเคลาดิโอ เอเชแวร์รี? เหตุผลเดียวก็คือการวางแผนเพื่ออนาคตของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่กำลังจะเสีบขุมกำลังหลักของทีม ในอีกไม่กี่ฤดูกาลข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นทั้งเออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ที่นับตั้งแต่นักเตะชาวนอร์เวย์เดินทางมาถึงเอทิฮัดจากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยิงไป 71 ประตูและ 14 แอสซิสต์จากการลงเล่น 75 นัดในทุกรายการให้กับทีม แต่การที่ฮาแลนด์ที่ไม่ได้ลงสนามตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคมเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่เท้า ทำให้ฟอร์มเรือใบหายไปเช่นกันนี่ยังไม่นับรวมถึงแข้งมากประสบการณ์อย่างเควิน เดอ บรอยน์ที่มีอาการบาดเจ็บ จนต้องจูนทีมใหม่และผลงานในเดือนที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยสวยงาม เมื่อต้องประจูนทีม และเสียนักเตะตัวหลักไป การวางแผนนักเตะที่มีอายุใช้งานได้ยาว รวมถึงพรสวรรค์ที่มากมาย เป็นหนึ่งในหมากที่สโมสรอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่มีชีค มานซูร์เป็นเจ้าของวางไว้เผื่ออนาคตข้างหน้าถึงสองฤดูกาลเหตุผลที่แม้จะได้มาด้วยเงื่อนไขการปล่อยตัว 25 ล้านยูโรในสัญญาริเวอร์เพลทของเอเชแวร์รี เป็นสถานการณ์ที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ด้วยเหตุผลที่ว่าอย่างน้อย ๆ นักเตะก็ได้เก็บประสบการณ์เพิ่มหนึ่งฤดูการณ์กับทีมเก่า แถมยังไม่ต้องรีบจ่ายตค่าเหนื่อยกับเด็กวัยเพียง 17 ปี หากมองดี ๆ นี่คือเงื่อนไขเดียวกันกับจูเลียน อัลวาเรซ นักเตะชาวอาร์เจนติน่า ซึ่งสองแข้งนี้คือนักเตะที่มาจากริเวอร์เพลทในช่วงตลาดซื้อขายมกราคม 2022 จนตอนนี้กลายเป็นกำลังหลังของทีมหากจะรีบถามตอนนี้ว่าอนาคตของเคลาดิโอ เอเชแวร์รี่ (Claudio Echeverri)จะสดใสไม่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในลีกใหม่อย่างพรีเมียร์ลีก มันอาจจะเร็วเกินไปที่จะตอบคำถามนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่พอจะมั่นใจได้ก็คือเรื่องของฝีเท้า ที่ได้รับความสนใจจากบิ๊กทีมหลาย ๆ ทีม ก่อนที่จะมาลงเอยกับเรือใบสีฟ้า สิ่งนี้น่าจะการันตีความสามารถของเจ้าหนูรายนี้ได้ไม่มากก็น้อย คงต้องมาติดตามกันต่อว่าในปี 2025 จะได้เห็นฝีเท้าของเจ้าหนูเคลาดิโอ เอเชแวร์รี่ บนสนามเอดิฮัสด์สเตเดี้ยมในนัดไหน?ข่าวที่เกี่ยวข้องจับตาการเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้นของ แมนซิตี้ หากคว้าแชมป์ที่ฝันหาสำเร็จแมนซิตี้ อาจพ่าย อาร์เซนอล สถิติที่อาจจะมีไว้ทำลาย ศึกตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีกสรุปประเด็น "แมนซิตี้" กับข้อหาละเมิดกฎการเงิน การต่อสู้ของเรือใบในเวลามรสุมแมนซิตี้ ภาระกิจล่าแชมป์ 3 ฤดูกาลติดต่อกันที่ยากจะทำลายเครดิตภาพปก twitter.com/ManCity :: ภาพที่ 1 , twitter.com/RiverPlate :: ภาพที่ 2เครดิตภาพประกอบ facebook.com/TrueIDSports :: ภาพที่ 1 , twitter.com/Argentina :: ภาพที่ 2 , twitter.com/RiverPlate :: ภาพที่ 3 , ภาพที่ 4 , ภาพที่ 7 , premierleague.com :: ภาพที่ 5 , ภาพที่ 6 ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !