สัปดาห์ที่เหมือนเป็นไบโพล่าร์ คืนวันเสาร์ยังนั่งข้อความหาเพื่อน "ขอบคุณเอฟเพื่อนรัก" ที่ยันเสมอปืนใหญ่ อาร์เซนอลไว้ได้ทำให้ช่องว่างตอนนั้นห่าง 11 แต้ม ยิ้มกริ่มกันเลยทีเดียว ณ ห้วงเวลานั้น ดูบอลสดพรีเมียร์ลีก กดสมัครแพ็กเกจ TrueVisions Now ผ่าน TrueID คลิกเลย! ตัดฉับมาคืนวันอาทิตย์ ถึงกลับต้องอุทาน "เฮ้ย อะไรกันเนี้ยยยยย" หลังจากแม็กก้า อเล็กซิส แม็คอลิสเตอร์ ยิงลูกสุดสวยให้ทีมขึ้นก่อน 1-0 แต่ลูกทีมของอาร์เน่อก็พลิกแพ้เจ้าสัวน้อย ฟูแล่ม ไป 3-2 โดย 3 ลูกที่เสีย ล้วนเป็นการผิดพลาดของบรรดาเหล่ากองหลังทั้งสิ้น เกือบลูกแรก โคนาเต้เทิร์น แต่บอลไม่เทิร์นตามเท้ามาด้วย เกือบถูกฉกไปยิง ลูกเสมอ 1-1 อันเดรียส เปเรย์รา เปิดจากขวา บอลเลยหัวโคนาเต้ ไปถึงเคอร์ติส โจนส์ สกัดไปเข้าทาง ไรอัน เซสซิยง ยิงเข้าไป ลูก 2-1 แอนดี้ โรบินสัน โชว์ รับไป หลังจากรับบอลจากฟานไดค์แล้ว กลับเตะตัดเข้ามาตรงกลางหน้าประตู บอลไปเข้าทางอเล็ก อิโวบี พยายามยิงติดโคเนเต้ บอลลอยโด่ง โรบินสันมาโหม่ง ก็ไปเข้าทางอิโวบีได้จังหวะยิงอีกครั้ง บอลพุ่งโดนโรบินสันแฉลบเข้าประตูไป ลูก 3-1 ลูกพี่ใหญ่ ฟานไดค์ พลาดเสียเหลี่ยม มูนิซ แตะบอลพลิกหนีเข้าไปยิงให้ฟูแล่มนำห่าง 3-1 ในครึ่งแรก ก่อนอื่นต้องชมฟูแล่มของมาร์โก้ ซิลวา ด้วยว่าวางแผนมาดี และเล่นได้ตามเกมที่วางไว้ โดยทีมงานเกมรุก ซิลวา เปลี่ยนจากเกมเจออาร์เซนอลหมดทั้ง 4 คนเลย ฟูแล่มไล่เพรส และเก็บความผิดพลาดเป็นประตูได้หมด ต่างกับลิเวอร์พูล ที่ถือว่าเป็นครึ่งแรกที่ฟอร์มต่ำกว่ามาตรฐานอย่างเห็นได้ชัด แม้ครึ่งแรกจะย่ำแย่ แต่ครึ่งหลัง เหล่าตัวสำรองที่ลงมา ก็ทำให้ทีมมีชีวิตชีวาขึ้น บุกกดดันใส่ฟูแล่มได้มากขึ้น ลูก 3-2 ก็มาจากการทำเกมของสองตัวสำรอง คอเนอร์ แบรดลี่ย์ ที่สลัดเดี้ยงกลับมาประจำการแบ็คขวา แอสซิสต์ให้กับ หลุยส์ ดิอาซทำประตู ลิเวอร์พูลเกือบได้ลูกตีเสมออีกหลายครั้ง ทั้งจากอีกสองตัวสำรอง ฮาร์วีย์ เอลเลียต ที่ปั่นไปชนคาน หรือ เฟเดริโก เคียซ่า ที่ยิงติดเซฟแบรนด์ เลโน เอาจริงๆ แพ้นัดนี้ มันก็ไม่ได้สะเทือนการลุ้นแชมป์สักเท่าไหร่นัก นี่มันก็แพ้เกมที่ 2 ในลีก แพ้เกมเยือนเป็นนัดแรกแค่นั้นเอง แต่มันก็ทำให้จิตใจแฟนๆ ที่เคยเห็นภาพความเจ็บปวดจากการโดนปาดแชมป์ตอนท้ายฤดูกาลมาแล้ว ถ้าอย่างในปีที่คลาสสิกก็ฤดูกาล 1988-89 ที่พลาดแชมป์นัดสุดท้าย ด้วยการแพ้อาร์เซนอลในแอนฟิลด์ 2-0 ทั้งๆ ที่เกมนั้น อนุญาตให้แพ้ได้ถึง 1-0 ก็ยังเป็นแชมป์ จนนกหวีดจะเป่าหมดเวลาอยู่แล้ว ในช่วงทดเจ็บ ก็เป็นไมเคิล โธมัส ที่มายิงให้อาร์เซนอลชนะไป 2-0 คว้าแชมป์ลีกคาบ้านแอนฟิลด์กันเลยทีเดียว หรือฤดูกาล 2013-14 ที่ 3 นัดสุดท้าย นัดที่ 36 แพ้เชลซี (เหตุการณ์เจอร์ราร์ด) ทำให้แต้มเท่าซิตี้ นัดที่ 37 เสมอพาเลซ ทำให้โดนแซง 2 แต้ม พลาดแชมป์ไป อะไรพวกนี้ บางทีมันก็ย้อนมาให้ระแวง กลับมาตั้งสติ ๆ อีก 7 นัด มี 21 คะแนนให้เก็บ ลิเวอร์พูลยังนำอยู่ ย้ำว่ายังนำอยู่ 11 แต้ม เท่ากับต้องการชนะอีก 4 จาก 7 นัด และในกรณีที่อาร์เซนอลก็ไม่พลาดชนะด้วย ยังอนุญาตให้แพ้ได้อีกถึง 3 เกม !!! ลิเวอร์พูลก็ยังคว้าแชมป์ได้อยู่ดี ดังนั้นถึงตรงนี้ ก็คือยังอยู่ในหมุดหมายเดิม อีกสามนัดชนะเวสต์แฮม เลสเตอร์ และสเปอร์ ให้ได้ และมีแต้มจากนัดเจอเชลซี เหล่าบรรดาเดอะค็อปก็คงต้องส่งแรงใจเชียร์ให้เหล่าขุนพลหงส์แดงฮึกเหิน เดินหน้าสานต่องานที่อีกนิดก็ใกล้จะเสร็จแล้วให้สำเร็จ และในส่วนอาร์เนอร์ สล็อต ก็น่าจะได้อะไรๆ กลับไปปรับจูนทีมเพื่อให้ทีมกลับแล่นฉิว เหมือนที่เคยได้จุดเปลี่ยนแรกตอนแพ้ต่อฟอเรสต์ช่วงต้นฤดูกาล และนี่่คือความหวังของเหล่าแฟนบอล "Walk on walk on with hope in your heart" ขอขอบคุณกาพประกอบบทความจาก Liverpool FC 📸 ภาพปก ภาพประกอบ ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 โปรแกรม 7 นัดสุดท้ายของลิเวอร์พูล Matchday 32: 12 เมษายน West Ham (H) Matchday 33: 19 เมษายน Leicester (A) Matchday 34: 26 เมษายน Spurs (H) Matchday 35: 3 พฤษภาคม Chelsea (A) Matchday 36: 11 พฤษภาคม Arsenal (H) Matchday 37: 18 พฤษภาคม Brighton (A) Matchday 38: 25 พฤษภาคม Crystal Palace (H) ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !