กีฬาปาเป้า เป็นกีฬาที่ต้องใช้สมาธิค่อนข้างสูง ในการเล็งและปาลูกดอกเพื่อให้ตรงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้แต่ละครั้ง เราเองเพิ่งเคยเล่นกีฬาปาเป้าแบบจริงจังเมื่อสองปีที่ผ่านมานี้เอง ด้วยเหตุเพราะตอนนั้นที่ทำงาน จัดงานกีฬาสีประจำหน่วยงาน โดยการแข่งขันแบ่งออกเป็น 3 ทีม ประกอบด้วย ทีมสายเหนือ ทีมสายกลาง และทีมสายใต้ (ไม่ขอบอกว่าหน่วยงานไหน ให้ไปสืบกันเอาเอง คิคิ..) ซึ่งแบ่งการแข่งขันออกเป็นหลายประเภทกีฬา หนึ่งในนั้นคือ "ปาเป้า" กีฬาปาเป้า เป็นประเภทเดียวที่มีคนสมัครลงเล่นน้อย อาจเพราะเป็นกีฬาที่ไม่ได้เป็นที่นิยมในคนหมู่มาก พี่เอก หนุ่มโสดลูกหนึ่ง ก็โน้มน้าวให้ลงสมัคร ด้วยการันตีว่า “เดี๋ยวอ้ายสอนเอง” เรากับพี่สาวจึงตัดสินใจลงสมัคร ทั้ง ๆ ที่เล่นไม่เป็นเลย พอกรอกใบสมัครเสร็จปุ๊ป กรรมการก็ให้เวลาไปซ้อม 10 นาที ก่อนจะเริ่มทำการแข่งขัน ค่ะ! อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ 10 นาทีกับการปาเป้าครั้งแรกในชีวิต 3 นาทีแรก หมดไปกับการ หัดจับลูกดอก 5 นาทีต่อมาหัดปาให้มันพุ่งไปข้างหน้า 2 นาทีสุดท้าย วิ่งไปเก็บลูกดอกที่ตกตามพื้น... ไม่เข้าเป้ากันเลยจ้า ก่อนการแข่งขัน โค้ชเอกของเรา ได้บรีฟตามแบบฉบับนักกีฬาทีมชาติว่า “ปายังไงก็ได้ ให้เข้าเป้า ปาให้ลูกดอกปักติดกระดานให้ได้...แค่นั้นพอ” //ฮ่า เรานึกในใจ “เอาว่ะ...มาขนาดนี้แล้ว” เกมแรกๆ สองศรีพี่น้องพากันปาแบบมั่วมาก พอเริ่มเข้ามือ เริ่มรู้ทิศทาง เอ๊ะ! เริ่มสนุกแฮะ มันเหมือนได้แข่งกับตัวเอง มากกว่า แข่งกับคนอื่น มาตอนนี้ โค้ชเอก เห็นพวกเราเริ่มเล่นได้ ก็เริ่มสอนกฎกติกา สอนวิธีการเล่น สอนไปแข่งไปทั้งอย่างนั้นแหละ จริง ๆ แล้วมันคือเกม ปลดแต้ม คือเริ่มนับตั้งแต่ 301, 501 หรือ 1001 แล้วแต่จะกำหนดแต้มเริ่มต้น โดยต้องควรลงท้ายเป็นเลขคี่ เมื่อปาลูกดอกเข้าเป้าที่เลขอะไร แต้มก็จะลดลงเรื่อยๆ ตามจำนวน ทีมไหนเหลือ 0 แต้มก่อน ทีมนั้นเป็นฝ่าย ชนะ ช้าก่อน... ความยากมันอยู่ตรงนี้ ตอนจะจบเกม ต้องปาลูกดอกให้เข้าขอบลวดคู่ขนาด เล็กๆ รอบวงเท่านั้น ซึ่งเรียกว่า “ช่องดับเบิ้ล” จะต้องนับคะแนน x2 จากช่องธรรมดา เช่น หากแต้มเราเหลืออยู่ 12 แต้ม ต้องปาให้เข้าช่องดับเบิ้ลของ 6 เท่านั้น หากบังเอิญปาเข้าไปในช่อง 6 ธรรมดาก็ต้องเปลี่ยนไปปาช่อง 3 ดับเบิ้ลเพื่อจบการแข่งขัน จะแพ้หรือชนะ วัดกันตรงนี้แหละค่ะ บางทีมปาเข้าเป้าจนคะแนนเหลือน้อย แต่ปิดเกมไม่ได้สักที เพราะปาไม่เข้าช่องดับเบิ้ล ง่าย ๆ ก็คือ ใครปาเข้าช่องดับเบิ้ลก่อนคนนั้นชนะ นี่แหละคือเหตุผลที่เราบอกว่า เป็นการแข่งกับตัวเองมากกว่าเป็นการแข่งกับฝ่ายตรงข้าม แรก ๆ ก็จะมึนๆ งงๆ บวกลบเลขไม่ค่อยทัน โค้ชชี้ให้อย่างเดียวเลยจ้ะ ปาช่องนั้น เล็งตรงหัวตัวเลข คนคุมเกมเยอะค่ะ แม้แต่ทีมคู่แข่งยังมาชี้เป้าให้เลยค่ะ “ปาสูงอีกๆ เล็งตรงขอบข้างเลยนะ รีบๆ จบเกม พี่เมื่อยแขนแล้ว” ทีมคู่แข่งพูดแซว ๆ เพราะไม่มีใครปิดเกมได้สักที สุดท้ายแข่งไปแข่งมา ทีมเราปาปิดเกมได้แบบฟลุ๊ก ๆ คว้ารางวัลที่ 3 มาครองจ้า ปลื้มปริ่ม นาทีนี้แข่งเสร็จได้เพื่อนใหม่เพียบ จากการที่เล่นไม่เป็นนี่แหละค่ะ แค่นี้คงบรรลุวัตถุประสงค์ของผู้จัดแล้ว ไม่ชนะไม่เป็นไร เรียนรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ที่สำคัญคือความสามัคคีเพราะทุกคนช่วยกันลุ้น ช่วยกันสอน ช่วยกันเชียร์ ไปตามๆ กัน ฮ่า ต้องขอขอบคุณ กติกาฉบับเต็ม ซึ่งอ้างอิงจากเว็บไซต์ สมาคมกีฬาดาร์ทแห่งประเทศไทย (ชื่อจริง ๆ อย่างเป็นทางการของกีฬาชนิดนี้ค่ะ) ใครสนใจสามารถเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมได้ตามลิ้งก์ด้านล่างเลยค่ะ http://www.datdarts.org/