พรีวิวศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษนัดที่ 10 " นิวคาสเซิล VS เชลซี " เกมแห่งศักดิ์ศรีชี้ชะตาเส้นทางการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกของเชลซี ● สังเวียน : เซนต์เจมส์พาร์ค ( St James' Park ) ● วันแข่ง : 30 ตุลาคม 2021 (คืนวันเสาร์) ● เวลา : 21.00 น. ( สามทุ่มตรง ) ฟันธงสกอร์ : นิวคาสเซิล 0 - 2 เชลซี คู่นี้คือศึกที่น่าสนใจไม่น้อยเมื่อทั้งคู่กำลังต้องการสามแต้มอย่างยิ่งยวด โดยเฉพาะทางเชลซีที่กำลังอยู่ในเส้นทางขับเคี้ยวแย่งแชมป์ลีกที่พวกเขาจะไม่สามารถพลาดได้แม้แต่นัดเดียวด้วยฟอร์มสุดร้อนรั้งตำแหน่งจ่าฝูงที่ 22 แต้ม ชนะมาสามนัดรวดแถมฟอร์มในเกมเยือนฤดูกาลนี้ยังสามารถเก็บคลีนชีตได้ 3 จาก 4 นัด ( นัดที่เสียเกิดจากการบุกไปเยือนลิเวอร์พูล ) ส่วนทางฝั่งเจ้าบ้านอย่างนิวคาสเซิลที่ในฤดูกาลนี้ฟอร์มเข้าขั้นแย่สุดขีดจนรั้งอันดับที่ 19 ในโซนอันตรายมีเพียง 3 แต้มซึ่งสุ่มเสี่ยงจะตกชั้นสูง ความมั่นใจยังไม่กลับมาเพราะไม่สามารถเอาชนะใครได้เลยแม้แต่นัดเดียว การคว้าอย่างน้อยหนึ่งแต้มในเกมนนี้จึงเป็นโจทย์ใหญ่ที่พวกเขาต้องการ แถมสถานการณ์ตัวกุนซือที่ไม่ชัดเจนว่าจะได้ใครมาคุมทีมทำให้สถานการณ์ภาพรวมดูวิกฤติหนักเข้าไปอีก คาดการณ์ 11 ผู้เล่นตัวจริง ● นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ( ระบบการเล่น 3-5-2 ) , ผู้จัดการทีม : แกรม โจนส์ ( รักษาการชั่วคราว ) ฝั่งเจ้าบ้านไร้ปัญหาผู้เล่นตัวหลักบาดเจ็บ โดยในตำแหน่งผู้รักษาประตู " มาร์ติน ดูบราฟกา " น่าจะกลับมาเฝ้าเสาในฐานะเบอร์หนึ่งอีกครั้งหลังเริ่มกลับมาฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่ได้ราวๆ 2 สัปดาห์แล้ว นอกจากนี้ยังได้ " จอนโจ เชลวีย์ " กลับมาร่วมทีมหลังการถูกแบนไปหนึ่งนัดทำให้อาจมีลุ้นกลับมาเบียดแย้งตัวจริงในแผงแดนกลาง ส่วนตัวสร้างสรรค์เกมยังได้ " โจ วิลลอค " และ " มิเกล อัลมิรอน " กลับมาประจำการอีกครั้ง แต่คาดว่าน่าจะมี 1 คนตกเป็นสำรองเพื่อรอลงมาเปลี่ยนเกมคอยประสานงานกับ 2 ตัวความหวังอย่าง " อัลเลน เซนต์ แมกซิแมง " และ " คัลลัม วิลสัน " -- รายชื่อ -- (ผู้รักษาประตู) ▶ มาร์ติน ดูบราฟกา (กองหลัง) ▶ ฆาบี มานควิโย , จามาล ลาสเซลส์ , เอมิล คราฟธ์ , คีแรน คลาร์ก , แม็ตต์ ริทชี่ (กองกลาง) ▶ จอนโจ เชลวีย์ , ไอแซก เฮย์เดน , มิเกล อัลมิรอน (แนวรุก) ▶ อัลเลน เซนต์ แมกซิแมง , คัลลัม วิลสัน ● เชลซี (ระบบการเล่น 3-4-2-1) , ผู้จัดการทีม : โธมัส ทูเคิล ปัญหาหลักของเชลซีคือกองหน้าตัวหลักอย่าง " ติโม แวร์เนอร์ " และ " โรเมลู ลูกากู " จะหมดสิทธิ์ลงสนามต้องพักรักษาอีกอย่างน้อยหลายสัปดาห์ทำให้ขาดหน้าเป้าธรรมชาติไป แถม " มาเตโอ โควาซิช " ยังได้รับบาดเจ็บเอ็นร้อยหวายในการฝึกซ้อมแต่โชคดีที่ได้ " เอนโกโล กองเต้ " กลับมาฟิตพร้อมลงสนามอีกครั้ง ส่วนในแนวรุกจะหวังพึ่งความสามารถเฉพาะตัวของ " เมสัน เมาท์ " ที่ระเบิดฟอร์มร้อนไปหมาดๆ ผนวกกำลังกับ " แคลลัม ฮัดสัน โอดอย " และ " ไค ฮาแวทซ์ " -- รายชื่อ -- (ผู้รักษาประตู) ▶ เอดัวร์ แมนดี (กองหลัง) ▶ รีซ เจมส์ , เซซาร์ อัซปิลิกูเอตา , ติอาโก้ ซิลวา , อันโตนิโอ รูดิเกอร์ , เบน ชิลเวลล์ (กองกลาง) ▶ เอนโกโล กองเต้, จอร์จินโญ่ (แนวรุก) ▶ เมสัน เมาท์ , แคลลัม ฮัดสัน โอดอย , ไค ฮาแวทซ์ ส่วนสถิติการพบกัน 6 นัดหลังสุดเป็นเชลซีที่ดูดีกว่าชัดเจนชนะไปถึง 5 นัด และเป็นทางนิวคาสเซิลที่ชนะไป 1 นัดเท่านั้น และถึงแม้ว่านิวคาสเซิลจะได้เล่นในบ้านท่ามกลางเสียงเชียร์ที่หนักแน่นของแฟนบอลหลังเปลี่ยนมือเจ้าของทีมใหม่ แต่ทว่าสภาพของนิวคาสเซิลในตอนนี้ต้องบอกว่ายังไม่ดีพอจะต้านเชลซีที่ถึงแม้จะไม่มีหน้าเป้าก็จริง แต่ยังมีอาวุธหนักส่วนอื่นอยู่ครบมือ เป็นไปได้ที่นิวคาสเซิลอาจจะเล่นมีทรงดูวูบวาบในช่วงต้นเกมเพื่อเอาใจแฟนบอล แต่สุดท้ายเมื่อเวลาผ่านไปมากเท่าไหร่ ด้วยศักยภาพทีมที่เข้าขั้นวิกฤติจะกลายเป็นฝ่ายเชลซีที่บุกไล่ต้อนจนเก็บสามแต้มได้แบบสบายๆ ในท้ายที่สุดจนกลายเป็นทีเด็ดพาทัพสิงโตน้ำเงินครามเดินหน้าเข้าสู่เส้นทางลุ้นแชมป์ลีกต่อไปแบบยาวๆ ส่วนทางนิวคาสเซิลก็ต้องกลับไปล่าชัยชนะในนัดต่อไปแทน ลิงก์รับชม >คลิก< ที่มา ** Ref Picture ภาพประกอบ 1 , 3 จาก Newcastle United / 2 , 4 , 5 จาก Chelsea Football Club ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดทุกแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี!