
เปิดตัว Omega Speedmaster Milano Cortina 2026 นับถอยหลังเข้าสู่โอลิมปิกฤดูหนาว
เมื่อโลกกำลังนับถอยหลังเข้าสู่ มหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว Milano Cortina 2026 ที่จะจัดขึ้นในอีกเพียง 100 วันข้างหน้า แบรนด์นาฬิกาสวิสระดับตำนานอย่าง OMEGA ก็ได้เฉลิมฉลองบทบาทของตนในฐานะ “Official Timekeeper” ด้วยการเปิดตัวผลงานรุ่นพิเศษ Omega Speedmaster Milano Cortina 2026 เรือนเวลาที่ผสานความงามเหนือกาลเวลาของ Speedmaster เข้ากับแรงบันดาลใจจากฤดูหนาว และสัญลักษณ์แห่งการแข่งขันอันยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ
จาก 27 สต็อปวอทช์ สู่เทคโนโลยีจับเวลาที่เปลี่ยนประวัติศาสตร์กีฬาโลก
นับตั้งแต่ปี 1936 ณ เมือง Garmisch-Partenkirchen ประเทศเยอรมนี เรื่องราวแห่งตำนานได้เริ่มต้นขึ้น เมื่อชายคนหนึ่งจาก OMEGA แบกสต็อปวอทช์เพียง 27 เรือน เดินทางข้ามเทือกเขาแอลป์ เพื่อทำหน้าที่จับเวลาในทุกการแข่งขันของโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งนั้น เป็นภารกิจที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยความหมาย และได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่าง OMEGA กับกีฬาโอลิมปิกมาจนถึงทุกวันนี้
เกือบหนึ่งศตวรรษผ่านไป นาฬิกาสวิสแบรนด์นี้ยังคงรักษาคำมั่นแห่งความเที่ยงตรงอย่างไม่เสื่อมคลาย และในปี 2026 ที่จะถึงนี้ OMEGA จะกลับมาทำหน้าที่ Official Timekeeper อีกครั้ง ในการแข่งขันกว่า 116 รายการ จาก 8 ชนิดกีฬา รวมถึงการเปิดตัวของกีฬาน้องใหม่ Ski Mountaineering ที่จะจารึกเป็นหน้าใหม่ในประวัติศาสตร์ของโอลิมปิกฤดูหนาว
ดีไซน์ที่ผสานจิตวิญญาณของหิมะกับเอกลักษณ์ของ Speedmaster
เรือนเวลารุ่น Speedmaster Milano Cortina 2026 มีขนาด 38 มิลลิเมตร หนา 14.75 มิลลิเมตร ตัวเรือนผลิตจากสเตนเลสสตีลขัดเงาเต็มรูปแบบ ให้ความรู้สึกหรูหราและกระทัดรัดตามเทรนด์ของยุคปัจจุบัน
ขอบตัวเรือนทำจาก เซรามิกสีน้ำเงิน (Blue Ceramic Bezel) ประดับด้วย สเกลทาโคมิเตอร์อีนาเมลสีขาว (White Enamel Tachymeter Scale) ที่ยังคงมี “จุดเหนือเลข 90” ซึ่งเป็นลายเซ็นดีไซน์ของ Speedmaster มาตั้งแต่ยุค 60s ตัวนาฬิกายังมีความสามารถกันน้ำได้ถึง 100 เมตร (10 บาร์) ทำให้พร้อมลุยทั้งในหิมะหรือการใช้งานในชีวิตประจำวัน
หน้าปัดคือหัวใจของงานศิลป์เรือนนี้ ฐานสีขาวเคลือบเงา (Varnished White Dial) ถูกเคลือบด้วยฟรอสต์สีน้ำเงินอ่อน (Frosted Blue Transfer) ให้กลิ่นอายฤดูหนาวอันสงบเยือกเย็น พร้อมลวดลาย “finger trace pattern” ที่ได้แรงบันดาลใจจากตัวเลข “26” ในโลโก้อย่างเป็นทางการของ Milano Cortina 2026
ซับไดอัลทั้งสามช่องเคลือบเงาเช่นกัน และตกแต่งด้วยลาย Azurage Finish ที่ให้มิติระยับเหมือนแนวสกีที่เพิ่งถูกเกลาใหม่บนผืนหิมะ ส่วนเข็มวินาทีกลาง (Central Seconds Hand) มีการไล่เฉดสีน้ำเงินแบบ Gradient Blue ให้ความรู้สึกเคลื่อนไหวสอดคล้องกับโลโก้โอลิมปิกปีนี้
บริเวณช่องวันที่ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ใช้ ตัวอักษรดีไซน์พิเศษแบบ Milano Cortina Typography ในสีฟ้าเข้ม แทนตัวเลขมาตรฐานทั่วไป เพิ่มความพิเศษเฉพาะรุ่นให้กับเรือนเวลาแห่งฤดูหนาวนี้
ฝาหลังแห่งเกียรติยศ และกลไกที่เชื่อถือได้
เมื่อพลิกกลับด้านหลัง จะพบฝาหลังสลักตรา Milano Cortina 2026 Medallion อย่างประณีต ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของรุ่นที่ผลิตขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสนี้โดยเฉพาะ
ส่วนภายในคือกลไก Omega Co-Axial Calibre 3330 กลไกอัตโนมัติที่ขึ้นชื่อเรื่องความเที่ยงตรงและความทนทาน ให้พลังงานสำรองถึง 52 ชั่วโมง พร้อมบาลานซ์สปริงซิลิคอน (Silicon Balance Spring) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการต้านสนามแม่เหล็ก ทำให้นาฬิกาทำงานเสถียรในทุกสภาพแวดล้อม แม้ไม่ใช่รุ่น Master Chronometer แต่ถือเป็นกลไกระดับโครงสร้างที่แข็งแกร่ง และผ่านการพิสูจน์แล้วในสนามจริง
รายละเอียดทางเทคนิค
- ตัวเรือน: สเตนเลสสตีลขัดเงาเต็มรูปแบบ
- ขนาด: 38 มม. / หนา 14.75 มม. / ระยะ lug-to-lug 45.2 มม. / ระยะขา 18 มม.
- น้ำหนักรวม: ประมาณ 133 กรัม
- กระจกหน้า: Sapphire Crystal กันรอยขีดข่วน เคลือบกันสะท้อนทั้งสองด้าน
- ขอบตัวเรือน: เซรามิกสีน้ำเงิน พร้อมสเกลอีนาเมลสีขาว
- หน้าปัด: สีขาวฟรอสต์น้ำเงิน พร้อมลายเลข “26” จากโลโก้ Milano Cortina 2026
- กันน้ำ: 100 เมตร (10 บาร์ / 330 ฟุต)
- กลไก: Omega Calibre 3330 (อัตโนมัติ)
- ความถี่: 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง (4 Hz)
- พลังงานสำรอง: 52 ชั่วโมง
- ฟังก์ชัน: ชั่วโมง / นาที / วินาที / โครโนกราฟ / วันที่
- สาย: สเตนเลสสตีลขัดและปัดด้าน พร้อมระบบ Comfort Release
- รับประกัน: 5 ปีเต็ม
- ผลิตในประเทศ: สวิตเซอร์แลนด์ (Swiss Made)

