สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่หอมหวานอีกครั้งภายใต้การคุมทีมของ ฮันส์-ดีเทอร์ "ฮันซี่" ฟลิค ผู้จัดการทีมชาวเยอรมันที่เข้ามาพลิกโฉม "เจ้าบุญทุ่ม" ให้กลับมาเป็นทีมที่น่าเกรงขามอีกครั้งในปี 2025 นี้ แอ๊ะแอ๋🤪จะพามาทำความรู้จักกับแม่ทัพคนเก่งคนนี้ให้มากขึ้น ตั้งแต่ประวัติส่วนตัว เส้นทางอาชีพ ไปจนถึงแท็กติกที่ทำให้บาร์ซ่ากลับมาทวงความสำเร็จได้อย่างยิ่งใหญ่ ประวัติและเส้นทางก่อนสู่บาร์เซโลน่า ฮันส์-ดีเทอร์ ฟลิค เกิดเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1965 ที่เมืองไฮเดลเบิร์ก ประเทศเยอรมนีตะวันตก ในสมัยเป็นนักเตะ เขาเคยค้าแข้งกับสโมสรชั้นนำอย่างบาเยิร์น มิวนิค และ เอฟซี โคโลญจน์ ในตำแหน่งกองกลาง ก่อนจะแขวนสตั๊ดและเริ่มต้นเส้นทางสายผู้จัดการทีม เส้นทางโค้ชของฟลิคเริ่มต้นกับสโมสรเล็กๆ ก่อนจะสร้างชื่อในฐานะผู้ช่วยของ โยอาคิม เลิฟ ในทีมชาติเยอรมนีชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2014 จุดเปลี่ยนสำคัญในอาชีพการคุมทีมของเขาคือการเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมชั่วคราวของบาเยิร์น มิวนิค ในเดือนพฤศจิกายน 2019 ก่อนจะทำผลงานได้อย่างน่าทึ่ง พาทีมคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ประวัติศาสตร์ในฤดูกาล 2019-2020 (บุนเดสลีกา, เดเอฟเบ-โพคาล และยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก) และต่อเนื่องด้วยการคว้า 6 แชมป์ในปีเดียว ซึ่งเป็นสถิติที่เทียบเท่ากับบาร์เซโลน่ายุค เป๊ป กวาร์ดิโอลา การเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมบาร์เซโลน่า หลังจากแยกทางกับทีมชาติเยอรมนี ฮันซี่ ฟลิค ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของบาร์เซโลน่าอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2024 ด้วยสัญญาจนถึงปี 2026 ท่ามกลางความคาดหวังของแฟนบอล "บาร์ซ่า" ทั่วโลกที่ต้องการเห็นทีมรักกลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้ง และฟลิคก็ไม่ทำให้แฟนบอลต้องผิดหวัง เมื่อเขาสามารถพาทีมคว้า "ทริปเปิ้ลแชมป์ในประเทศ" ได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เข้ามาคุมทีม (2024-2025) ประกอบด้วยแชมป์ ลาลีกา, โกปา เดล เรย์ และซูเปร์โกปา เด เอสปันญา ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงฝีมือการทำทีมที่ยอดเยี่ยมของเขา และจากผลงานอันน่าประทับใจนี้ ทำให้สโมสรได้ขยายสัญญาของเขาออกไปจนถึงปี 2027 แท็กติกและสไตล์การทำทีม สไตล์การทำทีมของ ฮันซี่ ฟลิค เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของ "Gegenpressing" (การเพรสซิ่งแดนบนทันทีที่เสียบอล) ที่ดุดันและมีประสิทธิภาพ เขาเน้นให้ลูกทีมเล่นฟุตบอลในจังหวะที่รวดเร็ว การเคลื่อนที่ที่ชาญฉลาด และการโจมตีในแนวตั้ง (Vertical Attack) ที่เฉียบคม แท็กติกเด่นๆ ของฟลิคที่นำมาปรับใช้กับบาร์เซโลน่า: High Pressing: การสั่งให้ลูกทีมไล่กดดันคู่ต่อสู้ตั้งแต่แดนบน เพื่อบีบให้คู่ต่อสู้เสียบอลและสร้างโอกาสในการเข้าทำอย่างรวดเร็ว Positional Play: การยืนตำแหน่งของผู้เล่นที่มีความยืดหยุ่นและเข้าใจในพื้นที่ ทำให้สามารถสร้างสรรค์เกมรุกได้อย่างหลากหลาย Quick Transitions: การเปลี่ยนจากเกมรับเป็นเกมรุกที่รวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งเป็นอาวุธเด็ดในการเล่นงานคู่ต่อสู้ การพัฒนาศักยภาพนักเตะ: ฟลิคขึ้นชื่อในเรื่องการดึงศักยภาพสูงสุดของนักเตะออกมาใช้ โดยเฉพาะการให้โอกาสและปลุกปั้นนักเตะดาวรุ่งจาก "ลา มาเซีย" ให้ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทีมชุดใหญ่ วิสัยทัศน์และอนาคตกับบาร์เซโลน่า ฮันซี่ ฟลิค ไม่เพียงแต่นำความสำเร็จกลับมาสู่ถิ่นคัมป์นูเท่านั้น แต่เขายังวางรากฐานสำหรับอนาคตที่ยั่งยืนของสโมสร ด้วยการผสมผสานผู้เล่นประสบการณ์สูงเข้ากับแข้งดาวรุ่งพุ่งแรงได้อย่างลงตัว เป้าหมายต่อไปของเขาและบาร์เซโลน่าคือการกลับไปทวงความยิ่งใหญ่ในเวทียุโรปอย่าง ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ให้ได้อีกครั้ง ด้วยความสำเร็จอันท่วมท้นตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เข้ามาคุมทีม ทำให้ชื่อของ ฮันส์-ดีเทอร์ ฟลิค ได้รับการจารึกไว้แล้วในประวัติศาสตร์ของสโมสรบาร์เซโลน่า และเป็นที่รักของเหล่า "กูเลส์" อย่างไม่ต้องสงสัย อนาคตของ "เจ้าบุญทุ่ม" ภายใต้การนำของกุนซือชาวเยอรมันผู้นี้จึงน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง. เครดิตภาพ: TrueID Sports / TrueVisions / ภาพปก : ภาพที่1/ ภาพประกอบ : ภาพที่1/ภาพที่2/ภาพที่3/ภาพที่4/ Tags: Hansi Flick, ฮันซี่ ฟลิค, Barcelona, บาร์เซโลน่า, ผู้จัดการทีม, ล่าสุด, 2025, La Liga, โกปา เดล เรย์, ซูเปร์โกปา, แท็กติก, Gegenpressing, ประวัติ, บาร์ซ่า, บาซ่า, เฟร์มิน โลเปซ , แฟร็งกี เดอ โยง , เปดริ, ลามีน ยามัล , เฟร์รัน ตอร์เรส , ราฟินญ่า, โรนัลด์ อาราอูโฆ , เปา กูบาร์ซิ, มาร์ก มาร์ค-อันเดร แทร์ สเตเกิน, มาร์คัส แรชฟอร์ด, ฌูล กูนเด, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, กาบี, ดานิ โอลโม ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !