เลสเตอร์ซิตี้ เปิดบ้านเอาชนะน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในเกมพรีเมียร์ลีกมันเดย์ไนท์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา 4-0 ได้ประตูจาก เจมส์ เมดิสัน เหมาคนเดียว 2 ประตู และจาก ฮาร์วีย์ บาร์นส์ และ แพตสัน ดาก้า พาทีมจิ้งจอกสยามขยับขึ้นมาหนึ่งอันดับจากบ๊วยสุดของตารางทำให้ลูกทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กำลังเพิ่มความมั่นใจ และต้องพยายามตะเกียกตะกายกลับสู่โซนปลอดภัยให้จงได้ เลสเตอร์ซิตี้ ก่อนเริ่มฤดูกาลนี้ต้องสูญเสียขุมกำลังหลักของทีมออกไปทั้งแคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตูชุดแชมป์พรีเมียร์ลีกของเลสเตอร์ สู่ ลีกเอิงฝรั่งเศสอย่าง นีซ ด้วยค่าตัว 1 ล้านปอนด์ พร้อมสัญญา 3 ปี ปิดฉากตำนานตลอดการค้าแข้ง 11 ปีเพียงเท่านี้ ซึ่งสร้างความตกตะลึงของแฟนบอลทัพจิ้งจอกสยาม ที่ไม่ได้เห็นยอดหน้าทวารชาวเดนมาร์กจบอาชีพการค้าแข้งให้สโมสร รวมถึงการเสีย เวสลี่ย์ โฟฟาน่า ปราการหลังชาวฝรั่งเศสให้เชลซีด้วยราคา 75 ล้านปอนด์ซึ่งแพงเป็นอันดับสองต่อจาก แฮรี่ แม็คไกวร์ที่รายนั้นย้ายไปแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดด้วยราคา 85 ล้านปอนด์ การเสียนักเตะตัวหลักประกอบกับการเสริมผู้เล่นใหม่เข้ามาดูเหมือนเป็นการทดแทนส่วนที่ขาดไปมากกว่า การวางแผนสร้างทีม ชื่อของ เว้าท์ ฟาส กับค่าตัว 15 ล้านปอนด์จากสต๊าด เดอ แร็งส์ ทีมในลีกเอิงฝรั่งเศส อเล็กซ์ สมิธตี้ส์ จากคาร์ดิฟฟ์ซิตี้ แบบไม่เปิดเผยค่าตัว ซึ่งดูแล้วยังต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ตัวเองพอสมควรกับลีกอังกฤษ และยังไม่สามารถทดแทนการจากไปของ เวสลี่ย์ โฟฟาน่าได้ในเวลาอันสั้น ตัวผู้จัดการทีมก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เขาไม่ได้รับการสนับสนุนในการซื้อขายนักเตะในรอบซัมเมอร์ที่ผ่านมาเท่าที่ควร จนทำให้ผลงานอดีตแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2015 -2016และแชมป์เอฟเอคัพ ผลงานย่ำแย่และจมสู่ทีมท้ายตารางในเวลานี้ ทำให้สถานการณ์ที่ ร็อดเจอร์ส กำลังเผชิญนั้นสุ่มเสี่ยงจะเป็นกุนซือรายต่อไปที่จะถูกปลดก่อนจบฤดูกาลต่อจาก สก็อต ปาร์คเกอร์ โทมัส ทูเคิ่ล และ บรูโน่ ลาส ชัยชนะในเกมล่าสุดคงเป็นการลดความกดดันของตัวกุนซือเองที่ พอจะทำให้เขาได้คุมทีมต่อไป และหวังได้เพียงผลงานต่อจากนี้พวกเขาจะทำได้ดีและอยู่รอดปลอดภัยในพรีเมียร์ลีกอังกฤษต่อไป อ้างอิงภาพประกอบTwitter/ Leicester city/ ปก , ภาพที่ 3 , 4Twitter/Permierleague / ภาพที่ 1Twitter/ Chelsea/ ภาพที่ 2