จากศึก เอฟเอ คัพ รอบ 4 ของคืนวันศุกร์ที่ 27 เวลา 03.00 เป็นการพบกันของ 2 ทีมลุ้นแชมป์ในพรีเมียร์ลีก คืออันดับที่ 2 ในลีกอย่าง เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดสนาม เอติฮัด สเตเดียม เพื่อรับการมาเยือนของทีมอันดับ 1 ในลีก ไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซนอล ซึ่งสถิติการพบกัน 5 ครั้งหลังสุด ทางแมนซิตี้ข่มยับด้วยการชนะรวดทั้ง 5 นัด แต่ผลงานล่าสุดของ อาร์เซน่อล คือการชนะ แมนยู แบบสุดมันส์ 3 - 2 น่าจะเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่นักเตะของไอ้ปืนใหญ่อยู่พอสมควรรายชื่อผู้เล่น 11 ตัวจริงทาง เรือใบสีฟ้า ของ เปป กวาร์ดิโอลา มาในระบบ 3-2-4-1 ผู้รักษาประตูใช้มือสองอย่าง สเตฟาน ออร์เทก้า เซ็นเตอร์ใช้ จอห์น สโตนส์, มานูเอล อาคานจี, นาธาน อาเก้ แดนกลางเป็น โรดริ คู่กับ ริโก ลูวิส ถัดมาแดนบนเป็น เควิน เดอบรอยน์ กับ อิลคาย กุนโดกัน ทางด้านซ้ายเป็น แจ็ค กรีริช ทางขวา ริยาด มาห์เรซ หน้าเป้าใช้จอมถล่มประตูอย่าง เออร์ลิง ฮาแลนด์ส่วน อาร์เซนอล ของ มิเกล อาร์เตต้า มาในระบบ 4-3-3 ผู้รักษาประตูใช้มือสองอย่าง แมตต์ เทอร์เนอร์ แบ็คซ้าย คีแรน เทียร์นีย์ แบ็คขวา โทมิยาซุ คู่เซ็นเตอร์ใช้ ร็อบ โฮลดิง คู่กับ กาบรีเอล แดนกลางมี ฟาบิโอ วิเอรา, โธมัส พาร์เตย์ และ กรานิต ชาก้า ส่วน 3 ตัวรุกใช้เจ้าหนู บูกาโย ซากา, เลอันโดร ทรอสซาร์ด และ เอ็ดดี เอ็นเคเทียห์ ฮีโร่ในเกมที่เจอ แมนยู ยืนเป็นหน้าตัวเป้าเริ่มครึ่งเวลาแรก มาเพียง 3 นาที แมนซิตี้ ได้ลุ้นขึ้นนำก่อนจากจังหวะที่ แมตต์ เทอร์เนอร์ ผู้รักษาประตูของ อาร์เซนอล ออกบอลพลาดไปเข้าทางผู้เล่นเจ้าบ้าน สุดท้ายจบด้วย โรดริ ได้ลองซัดไกล แค่บอลเหินข้ามคามออกไปอย่างน่าเสียดาย ถัดมาในนาทีที่ 5 เป็นฝั่งทีมเยือนได้ลุ้นบ้าง จากจังหวะที่ เลอันโดร ทรอสซาร์ด ใช้ความสามารถเฉพาะตัวโยกหลอกผู้เล่นของ แมนซิตี้ ก่อนที่จะเปิดหักกลับมาให้ โทมิยาซุ ได้วิ่งมากดเต็มข้อ แต่ ออร์เทก้า สามารถเซฟเอาไว้ได้ จากนั้นในนาทีที่ 9 มีเรื่องให้แฟนๆ ไอ้ปืนใหญ่ ได้นั่งเท้าจิกพื้น จากจังหวะที่ ร็อบ โฮลดิง จับบอลพลาดแล้วดันไปเข้าทาง เออร์ลิง ฮาแลนด์ แต่ต้องชมทาง แมตต์ เทอร์เนอร์ ที่ออกมาตัดบอลได้ทัน บอลยังลอยโด่งอยู่กับที่ไม่ไปไหนให้ ฮาแลนด์ ได้ลองจักรยานอากาศ แต่บอลลอยโด่งไม่ค่อยมีน้ำหนักทำให้ โทมิยาซุ มาตัดไว้ได้ทัน ต่อมานาทีที่ 21 ทรอสซาร์ด รับบอลมาจาก ฟาบิโอ วิเอรา ก่อนจะสับหลอก 1 จังหวะ โยกเข้าซ้ายแล้วลองเหนี่ยวไก แต่ก็ติดเซฟของ ออร์เทก้า เช่นเคย ถัดมาเพียง 4 นาที แมนซิตี้ ขึ้นเกมมาทางฝั่งขวาโดย มาห์เรซ ก่อนที่จะเปิดไปติดผู้เล่น อาร์เซนอล แต่บอลไปเข้าทาง โรดริ โหม่งชงให้ ลูวิส ก่อนจะได้ย้อนมาให้ เควิน เดอบรอยน์ ได้ลองปั่นด้วยซ้าย แต่บอลโค้งเฉียดเสาสองออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย ต่อมานาทีที่ 33 เป็นทีของทีมเยือนได้บุกบ้าง จาก ทรอสซาร์ด เก็บบอลได้ก่อนที่จะเลี้ยงพาบอลตะลุยมาทางด้านซ้าย แล้วเปิดยัดเข้าไปให้ เอ็ดดี เอ็นเคเทียห์ วิ่งมาชาร์จแต่บอลหลุดกรอบออกไป จบครึ่งแรก ยังทำอะไรกันไม่ได้ จบที่ 0 - 0เริ่มครึ่งเวลาหลัง นาทีที่ 59 อาร์เซนอล ได้ลุ้นประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ทีมเยือนเปิดฟรีคิกจากกลางสนามเข้าไปพื้นที่กรอบกรอบโทษก่อน แมนซิตี้ ก่อนที่ แอมริก ลาปอร์ต พยายามโหม่งสกัดแต่ทำได้ไม่ดีนัก บอลย้อมมาเข้าทาง ฟาบิโอ วิเอรา ได้ลองซัดด้วยซ้าย แต่ดูเหมือนจังหวะบอลโดนเท้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ทำให้หลุดกรอบออกไปแบบน่าเสียดาย ถัดมานาทีที่ 64 เจ้าบ้านขึ้นนำได้สำเร็จ จากจังหวะที่ตัวสำรองอย่าง ฆูเลียน อัลบาเรซ ลองซัดไกล บอลโดนโคนเสาเด้งออกมาเข้าทาง แจ็ค กรีริช ก่อนที่เจ้าตัวจะเลี้ยงวนไปมาแล้วไหลให้ นาธาน อาเก้ ที่วิ่งสอดขึ้นมาได้วางเท้าขวา แปบอลเลียดเข้าไปแบบนิ่มๆ ส่งให้ แมนซิตี้ ขึ้นนำ อาร์เซนอล ไปก่อน 1-0 จากนั้นต่างฝ่ายยังหาจังหวะจบแบบจังๆ กันไม่ค่อยได้ จนมานาทีที่ 81 ฆูเลียน อัลบาเรซ ได้ลองยิงไกลอีกครั้ง แต่ แมตต์ เทอร์เนอร์ ก็รับไว้ได้สบายๆ สุดท้ายจบเกม แมนซิตี เปิดบ้านเฉือน อาร์เซน่อล ไป 1 - 0 เข้ารอบ 5 ของ เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จจากเกมนี้ อาร์เซนอล โรลเตชั่นนักเตะถึง 6 ตำแหน่ง แต่ถือว่าไม่เป็นรองทางเจ้าบ้านมากนัก โดยจากสถิติการครองบอล แมนซิตี้ 53.6% - อาร์เซนอล 46.4% ซึ่งถือว่ายังทำได้ดีในการเจอกับทีมอย่าง แมนซิตี้ ส่วนเรื่องจังหวะในการจบสกอร์ของเท่าสองทีมนั้นมีไม่มากนัก แต่จะหนักไปที่ช่วงชิงจังหวะกันในแดนกลางซะมากกว่า โดย แมนซิตี้ มีโอกาส 8 ครั้ง เข้ากรอบ 3 เปลี่ยนเป็นประตูได้ 1 ลูก ทาง อาร์เซนอล มีโอกาส 5 ครั้ง เข้ากรอบ 2 ครั้ง ถือว่าไม่ต่างกันมาก แต่ที่ต่างกันคือ ความผิดพลาดส่วนบุคคลของทางทีมเยือน และจังหวะสุดท้าย โดยเฉพาะลูกยิงของ ฟาบิโอ วิเอรา ในช่วงต้นครึ่งหลัง ที่ดูรีบยิงเกินไป ทั้งๆ ที่ไม่มีนักเตะของ แมนซิตี้ อยู่ใกล้ๆ เลย ซึ่งมองว่าน่าจะทำได้ดีกว่านี้ แต่โดยรวมแล้วถือว่าลูกทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ทำได้ดีในแบบที่ควรจะเป็นแล้ว เครดิตรูปภาพ :ขอบคุณรูป ภาพปก จาก Twitter : Manchester Cityขอบคุณรูป ภาพที่ 1 จาก Twitter : Manchester Cityขอบคุณรูป ภาพที่ 2 จาก Twitter : Arsenalขอบคุณรูป ภาพที่ 3 จาก Twitter : Manchester Cityขอบคุณรูป ภาพที่ 4 จาก Twitter : Manchester Cityขอบคุณรูป ภาพที่ 5 จาก Twitter : Arsenalส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !