สวัสดีครับ กลับมาตามคำสัญญาที่เคยบอกไว้แล้วนะครับสำหรับบทความ "อีโก้ของคล็อปป์ และความงกของ FSG กำลังทำร้ายลิเวอร์พูล" ซึ่งในในบทความนี้จะเป็นการพูดถึงในพาร์ทของ Fenway Sport Group หรือ FSG หรือกลุ่มทุนเจ้าของทีมลิเวอร์พูล โดยในสำหรับพาร์ทแรกที่พูดถึงไปในภาคแรก ผมพูดถึงความดื้อหรืออีโก้ที่สูงของเยอร์เกน คล็อปป์ใน "อีโก้ของคล็อปป์ และความงกของ FSG กำลังทำร้ายลิเวอร์พูล ภาค 1" ถ้าหากใครอยากย้อนกลับไปอ่าน สามารถจิ้มที่ชื่อบทความก่อนหน้าได้เลยนะครับ ส่วนในพาร์ทนี้ผมจะพูดถึง FSG อย่างไร ไปชมกันเลยครับสำหรับ Fenway Sport Group หรือ FSG ที่นำโดยจอห์น ดับเบิลยู เฮนรี มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน โดยจอห์น เฮนรีเป็นเจ้าของทีมเบสบอลในอเมริกาอย่างบอสตัน เรดส์ ซอกซ์ ซึ่งพวกเขาได้เข้ามาเทคโอเวอร์ลิเวอร์พูลในปี 2010 ต่อจาก 2 ปลิงมะกันอย่าง จอร์จ ยิลเลตต์และทอม ฮิกส์ ที่สร้างหนี้สินมากมายให้กับลิเวอร์พูล โดย ณ เวลานั้น FSG เข้ามาเทคโอเวอร์ทีมหงส์แดงด้วยมูลค่า 300 ล้านปอนด์ ทำให้ลิเวอร์พูลรอดพ้นจาก 2 ปลิงชาวอเมริกันคู่นั้นเสียทีhttps://www.instagram.com/p/j1CQ1bpfOC/?utm_source=ig_web_copy_linkอย่างที่ชื่อบทความในส่วนของ FSG ที่ผมได้บอกไปนะครับว่า "ความงก" ของพวกเขากำลังทำร้ายลิเวอร์พูล เพราะว่าพวกเขาทำทีมลิเวอร์พูลในรูปแบบ "American Style" ถ้าคุณผู้อ่านนึกภาพไม่ออก ให้ลองนึกภาพของทีมอาร์เซนอลครับที่หลักการของพวกเขา คือ "ได้มาเท่าไหร่ ใช้ไปเท่านั้น" ซึ่งลิเวอร์พูลก็ไม่ต่างกัน โดยการบริหารสไตล์นี้อาจจะมีบ้างที่ทุ่มเงินนอกเหนือจากที่หามาได้ ซึ่งในช่วงแรกของ FSG กับลิเวอร์พูลดูจะเป็นแบบนั้น โดยนักเตะคนแรกในยุคของ FSG นั่นก็คือ "คิงหลุยส์" หลุยส์ ซัวเรส เราคงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณอะไรในตัวของกองหน้าชาวอุรุกวัยคนนี้อีกแล้วแหละครับ แต่กับดีลที่มาติดต่อกันเพียง 3 วันให้หลังของดีลซัวเรสนั้นถือว่า "พังพินาศ" สุดๆ สำหรับดีลของ "แอนดี แคร์โรล" ที่ถือว่าเป็นค่าตัวสถิติสโมสรในเวลานั้นเลยที่ 35 ล้านปอนด์ โดยที่ทุกวันนี้ยังคงเป็นที่พูดถึงกันอยู่ในราคาของแคร์โรล โดยผมจะขออนุญาตยกตัวอย่างดีลการซื้อขายที่ล้มเหลวของ FSG มาให้ชมกันครับ เช่น แอนดี แคร์โรล, สจ๊วต ดาวน์นิง, ฟาบิโอ บอรินี, ยาโก อาสปาส, ลาซาร์ มาโควิช, คริสเตียน เบนเตเก และมาริโอ บาโลเตลลี เป็นต้น นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของดีลที่ล้มเหลว พังไม่เป็นท่าในยุค FSG ครับ ความจริงมีเยอะกว่านี้อีกมากครับแต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับ FSG ด้วย เพราะแต่ละตัวที่ผมได้ยกตัวอย่างไปนั่นคือช่วงเริ่มตั้งไข่ของพวกเขากับลิเวอร์พูล จึงไม่แปลกที่จะกว้านซื้อนักเตะแต่ละคนมา เพราะนักเตะที่ย้ายเข้ามาในยุคของ FSG นั้นหลายคนก็กลายเป็นตำนานของทีม อย่าง หลุยส์ ซัวเรส, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันคนปัจจุบันของทีม, เจมส์ มิลเนอร์, อดัม ลัลลานา, เดยัน ลอฟเรน, ซาดิโอ มาเน 3 นักเตะจากเซาแธมป์ตัน, ดิว็อก โอริกี, โรแบร์โต เฟอร์มิโน และโมฮัมเหม็ด ซาลาห์ เป็นต้น กลุ่มนักเตะเหล่านี้ก็มาในยุคที่ FSG บริหารลิเวอร์พูลเข้าที่เข้าทางแล้ว แถมนอกจากการซื้อตัวแล้ว FSG ก็คอยปรับปรุงสนามแอนฟิลด์อยู่ตลอด คอยต่อเติมอัฒจรรย์เพิ่มที่นั่งให้แฟนบอลตลอด รวมไปถึงสร้างสนามซ้อมใหม่ให้กับทีมแทนที่เมลวู้ด โดยสนามซ้อมใหม่มีชื่อว่า "AXA Training Centre" โดยไม่ใช่เพียงสนามซ้อมเท่านั้น เพราะจัดได้ว่าเป็นศูนย์ฝึกที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเลยก็ว่าได้และนอกจากที่จะเซ็นสัญญานักเตะที่พาทีมประสบความสำเร็จมากมายแล้ว ต่อเติมสนามอยู่ตลอด แถมสร้างศูนย์ให้กับทีมอีกด้วย อีกหนึ่งเครดิตที่พวกเขาสามารถเทคได้เลยก็คือการนำพา "เยอร์เกน คล็อปป์" มาสู่ทีมลิเวอร์พูล เพราะคล็อปป์นั้นเสกบันดาลให้ลิเวอร์พูลนั้นกลับมาเป็นยอดทีมได้อีกครั้งหมดในพาร์ทของความดีความชอบของ FSG ไปแล้วครับ ต่อจากนี้ผมจะขอพูดในส่วนของ "ความงก" ของพวกเขาตามที่ได้บอกไปในชื่อบทความ ซึ่งจะว่าไปโดยส่วนใหญ่ ความงกนี้มันมาเกิดขึ้นในช่วงที่ลิเวอร์พูลประสบความสำเร็จแล้วนี่เอง เพราะจะสังเกตได้ว่าช่วงแรกของพวกเขากับลิเวอร์พูลนั้น พวกเขาจัดการซื้อนักเตะตามความต้องการของผู้จัดการทั้งนั้น โดยก่อนหน้าที่คล็อปป์จะเข้ามานั้น พวกเขาเซ็นสัญญาคว้านักเตะภายใต้การคุมของเคนนี ดัลกลิช และเบรเดน ร็อดเจอร์สรวมกัน แตะหลัก 40 คน แต่เกินครึ่งคือล้มเหลว และมีแชมป์ติดมากลับมาเพียงถ้วยลีก คัพ สมัยเดียวในยุคของคิงเคนนีโดยในช่วงแรกของคล็อปป์นั้นก็ดูเหมือนว่าพวกเขาก็ยังทุ่มเงินให้กับทีมอยู่ เพราะมีทั้งการเซ็นคว้าตัวนักเตะหลายๆ คนถือว่าเป็นการทุ่มเงินที่คุ้มค่าสุดๆ เพราะนักเตะเหล่านั้นกลายมาเป็นกลุ่มคนที่นำพาความสำเร็จมาให้กับทีม แต่ แต่ แต่!! แต่ในเมื่อทีมประสบความสำเร็จแล้ว FSG ดันไม่ต่อยอดความสำเร็จให้ทีมซักเท่าไหร่เลยฤดูกาล 2018/2019 ลิเวอร์พูลเถลิงแชมป์ UCL ได้เป็นสมัยที่ 6 โดยใช้นักเตะชุดเดิมกับชุดที่เป็นรองแชมป์รายการนี้ในปีก่อนหน้าเป็น โดยเสริมทัพเพิ่มถึง 4 คน โดยนำอลิซอน เบคเกอร์, ฟาบินโญ, นาบี เกอิตา และเซอร์ดาน ชากิรีเข้ามา แต่กับฤดูกาลต่อมาอย่างฤดูกาล 2019/2020 พวกเขาดันเสริมทัพได้อย่างผิดคาดและไม่เป็นไปตามที่ควรจะเป็น เพราะใน 2 ตลาดซื้อขายพวกเขาเซ็นสัญญาฟรีแค่อาเดรียน นายด่านชาวสเปนที่หมดสัญญากับเวสต์แฮมมาในตลาดซัมเมอร์ และซื้อตัว ทาคุมิ มินามิโนะ จากซัลซ์บวร์ก ทั้งฤดูกาลพวกเขาเซ็นสัญญาคว้านักเตะใหม่เพียง 2 คน โดย 2 คนนี้ก็แทบไม่ได้ส่งผลอิมแพคอะไรต่อทีมเลย แต่คล็อปป์ก็ยังพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีอยู่ดี ลบคำสาปไปได้ซักทีสำหรับลิเวอร์พูลความจริงในช่วงของการพักเบรคหนีโรคระบาดโควิด FSG ก็แสดงความงกให้เห็นมาแล้วครั้งนึง เพราะพวกเขาสั่งพักงานเจ้าหน้าที่ที่ไม่ได้เป็นพนักงานประจำ และไม่ได้เกี่ยวข้องกับฟุตบอล โดยจะให้เจ้าหน้าที่เหล่านี้ไปรับเงินช่วยเหลือจากรัฐแทน (80%) ซึ่งเป็นไปตามคาดที่จะโดนเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากทั่วสารทิศ จนสุดท้ายก็ต้องยกเลิกคำสั่งนี้ไป นี่คือหนึ่งรอยด่างพร้อยของพวกเขาแล้วเข้าสู่ช่วงของฤดูกาล 2020/2021 แฟนบอลต่างมีเสียงเรียกร้องให้ทีมทุ่มเงินเสริมทัพ เพราะอยากให้ต่อยอดความสำเร็จในฤดูกาลที่แล้ว จนสุดท้ายก็ได้มา 2 คนอย่างติอาโก อัลคันทารา, ดิโอโก โจตา และคอสตาส ซิมิคาส (ซึ่งในมุมมองของผมในส่วนของฤดูกาลนี้ (2020/2021) ผมค่อนข้างเข้าใจฝ่ายของ FSG นะ เข้าใจสถานการณ์ของทีม เพราะต้องเจอกับสถานการณ์ของโควิดที่ประสบกันทั่วโลก พวกเขามีเหตุผลที่จะไม่ทุ่มเพียงพอ) ซึ่งจะบอกว่าฤดูกาลนี้ลิเวอร์พูลดวงแตกก็ได้ เพราะเหล่าเซ็นเตอร์ตัวหลักพาเหรดกันเจ็บทั้งหมดเลยทั้งฟาน ไดจ์,โจเอล มาติป และโจ โกเมซ ทำให้ผลงานตกลงมาแต่ก็ยังสามารถประคองตัวจบอันดับ 3 คว้าตั๋วไป UCL ได้อยู่ ซึ่งนี่ก็คือหนึ่งในสิ่งที่แฟนบอลเรียกร้องกันมาตลอด เพราะเป็นห่วงเรื่องแบบนี้ที่นักเตะเกิดเจ็บกันหมด ไม่มีใครทดแทนได้เลย โดยในตลาดซัมเมอร์นอกจากขาเข้าแล้ว พวกเขายังปล่อยเดยัน ลอฟเรน เซ็นเตอร์แบคสำรองชั้นดีออกจากทีม ทำให้ไม่มีเซ็นเตอร์แบคให้ใช้งานเพียงพอ ทำให้ต้องดันดาวรุ่งภายในทีมขึ้นมา ซึ่งก็ต้องมาดิ้นรนลุ้นไป UCL ในช่วงท้ายของซีซั่น (แก้ขัดโดยซื้อเบน เดวีส์ และยืมโอซาน คาบัค)พอขึ้นฤดูกาล 2021/2022 พวกเขาก็จัดการคว้าตัวอิบราฮิมา โคนาเตมาจากไลป์ซิก ถือว่าเป็นการปรับปรุงและเสริมแกร่งในเกมรับ และก็ไปสอยหลุยส์ ดิอาซมาจากปอร์โตในตลาดหน้าหนาว เหมือนฤดูกาล 2019/2020 เป๊ะที่ซื้อมาตลาดละคน แต่ก็ยังดีที่สามารถคว้าดับเบิลแชมป์ฟุตบอลถ้วยในประเทศมาได้สิ่งที่แฟนบอลบ่น และวิจารย์มาตลอดในช่วงหลังคือ ทีมชุดนี้เล่นด้วยกันมานานแล้วก็จริง เข้าขา รู้อกรู้ใจกันแล้วก็จริง แต่มันคือทีมเดิมๆ ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากมายเลย แต่ในทางกลับกันผู้เล่นชุดนี้ก็เริ่มโรยรากันแล้ว บางคนใกล้แตะอายุ 30 แล้ว บางคนก็อยู่ในหลักเลข 3 กันแล้ว แถมบางคนอายุเข้าเลข 3 แล้วแถมยังมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ่อยครั้งอย่างติอาโก ซึ่งไม่คิดที่จะอะไรเปลี่ยนแปลง หรือมีใครขึ้นมาทดแทนเลยหรอ จะรอเด็กจากอคาเดมีอย่างเดียวหรอ เด็กจากอคาเดมีก็สู้ทีมอื่นไม่ได้หรอก แล้วแต่ละปีทีมก็จะปล่อยตัวผู้เล่นออกจากทีมจำนวนมาก แต่ก็เสริมทัพกลับมาแค่ไม่กี่คน ตัวอย่างฤดูกาลนี้เลย ปล่อยนักเตะทั้งแบบขาย ปล่อยยืม และหมดสัญญาไป 11 คน แต่กลับเสริมทัพเพียง 4 คน ปล่อยแนวรุกแดนหน้า 3 คน แต่เสริมมาแค่คนเดียว มันทดแทนได้จริงหรือ?จะบอกว่าก็คล็อปป์ไม่ร้องขอหรอ ผมเชื่อว่าคล็อปป์และทีมงานล้วนแล้วแต่อยากได้นักเตะใหม่ทั้งนั้นแหละ มีแต่เหล่าผู้บริหารนั่นแหละที่ไม่ตอบสนอง จนมีบทสัมภาษณ์นึงที่คล็อปป์ออกมาพูดเชิงประมาณว่าเราต้องขายนักเตะออกไปก่อน ถึงจะมีนักเตะใหม่เข้ามาได้ โอเคแหละ บทความที่แล้วผมก็พูดถึงความดื้อ และอีโก้ของคล็อปป์เหมือนกันในการเสริมทีม แต่ถ้าถึงขั้นออกมาบอกว่าต้องขายก่อนถึงซื้อได้ แสดงว่าคล็อปป์มีคนในใจที่อยากได้มาตลอด แต่ทีมไม่ซัพพอร์ตเรื่องเงินคำถามคือ เงินรางวัลต่างๆ ที่ได้มาจากการคว้าแชมป์ หรือการที่จบอันดับสูงๆ หายไปไหนหมด จะบอกว่าก็เอาไปต่อเติมแอนฟิลด์ ไปสร้างศูนย์ฝึกใหม่ ก็ต้องถามกลับว่ามันจำเป็นขนาดนั้นเลยหรือ ศูนย์ฝึกใหม่ยังพอเข้าใจได้ แต่กับแอนฟิลด์นี่มันจำเป็นขนาดนั้นเลยหรอซึ่งจะเห็นได้ว่าในฤดูกาลไหนที่เจ้าของทีมทุ่มซื้อนักเตะตัวเป้งๆ มาร่วมทีม ทีมจะสามารถคว้าแชมป์ได้ ดูตัวอย่างในฤดูกาล 18/19 ที่ได้ UCL และต่อยอดมาถึง 19/20 ที่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก มันก็ค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้วนะว่าทีมควรเสริมทีมบ้าง เสริมทีมให้เพียงพอกับที่หายไป ใครไม่ใช้หรือเจ็บออดๆ แอดๆ ก็ควรปล่อยทิ้งไป นำเงินมาเล่นแร่แปรธาตุคำถามอีกคำถาม คือ คุณมีผู้จัดการทีมอย่าง "เยอร์เกน คล็อปป์" คุณจะไม่ทุ่มเงินให้เขาหรอ คุณจะไม่ต่อยอดให้เขาหรอ คุณมีโอกาสไดมีโคตรกุนซือขนาดนี้อยู่ในทีม แต่เวลาที่ทีมต้องผลัดใบ ต้องเสริมทีมคุณจะไม่ซัพพอร์ตเขาหรอ ลองคิดภาพว่าถ้าคุณมีคล็อปป์แล้วซัพพอร์ตเงินให้ตลอด เผลอๆ คุณคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมากกว่า 1 สมัยไปแล้ว เพราะแต่ละปีที่จบอันดับที่ 2 ที่แพ้ให้กับแมนซิตี้ของเป๊ป กวาร์ดิโอลา ล้วนแล้วแต่แพ้แค่แต้มเดียวทั้งสิ้น ไม่ลองคิดภาพบ้างล่ะว่าถ้ามีคนเปลี่ยนเกม หรือฮีโร่ที่นอกเหนือจากนักเตะกลุ่มเดิม มายิงประตูสำคัญๆ ในนัดที่ทำแต้มหล่น ป่านนี้ทีมประสบความสำเร็จไปมากกว่านี้แล้วงกอะไรไม่เข้าเรื่อง นี่ยังไม่รวมคดีที่ไปร่วมเป็นทีมที่จะเข้าร่วมซูเปอร์ลีกที่โดนแฟนบอลท้องถิ่นกร่นด่า ไล่ให้ขายทีมจนต้องพับโปรเจคไปแล้วทีนึงนะผมบอกตรงนี้เลยนะว่า ลิเวอร์พูลไม่ใช่ทีมจน ไม่ใช่ทีมไม่มีเงิน ลิเวอร์พูลเป็นทีมมีเงินแต่คุณเลือกที่จะไม่ทุ่ม เลือกเอาแต่ใช้วิธีได้มาเท่าไหร่ใช้เท่านั้น ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ทุ่มเงินก็ยากที่จะตามทีมอื่นทัน นอกเสียจากว่ากุนซือของคุณจะเก่งมากๆ คุณลองยกตัวอย่างทีมที่ไม่ทุ่มเงินแล้วประสบความสำเร็จมาหน่อยสิ แมนซิตี้หรอ เรอัล มาดริดหรอ เปเอสเชหรอ บาเยิร์นหรอ เชลซีหรอ ทีมพวกนี้ล้วนแล้วแต่ทุ่มเงินทั้งนั้น ส่วนทีมไม่ทุ่มเงินล่ะมีทีมไหนประสบความสำเร็จบ้าง นอกจากลิเวอร์พูลแล้วมีทีมไหนอีกบ้าง และที่ลิเวอร์พูลประสบความสำเร็จได้แบบทุกวันนี้ก็เพราะเยอร์เกน คล็อปป์ ผมบอกเลยนะถ้าไม่มีเยอร์เกน คล็อปป์ ลิเวอร์พูลยังไม่มีทางประสบความสำเร็จแบบทุกวันนี้ได้หรอก FSG โชคดีมากนะที่คล็อปป์ยอมรับงานมาคุมลิเวอร์พูลเนียะ คิดอะไรอยู่ที่มีกุนซืออย่างคล็อปป์แต่ไม่ทุ่มเงินต่อยอดความสำเร็จให้กับกุนซือระดับนี้ คิดอะไรอยู่ ถามจริงๆ รอดูวันที่ลิเวอร์พูลไม่มีคล็อปป์ได้เลย เละเทะแน่นอน FSG ไม่พาทีมได้แชมป์ได้มากกว่ายุคของคล็อปป์แน่นอนจบลงไปแล้วนะครับสำหรับซีรีส์บทความ "อีโก้ของคล็อปป์ และความงกของ FSG กำลังทำร้ายลิเวอร์พูล" ส่วนตัวผมไม่ได้คิดว่า 2 บุคคลนี้กำลัง "ทำลาย" หรือพยายามพังลิเวอร์พูลนะครับ เพียงแต่ในมุมมองของแฟนบอลคนนึงกำลังคิดว่าพวกเขากำลังเดินทางผิดจนอาจจะส่งผลเสียต่อลิเวอร์พูล แต่ไม่ได้ส่งผลเสียร้ายแรงอะไรนะครับ แค่เป็นเสียงจากแฟนบอลคนนึงที่เห็นสถานการณ์ไม่ดีของทีม และลองมองดูเหตุผลเข้าไป (ในความคิดเห็นส่วนตัว) และสำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านภาคแรก สามารถเข้าไปได้อ่านได้ที่ "อีโก้ของคล็อปป์ และความงกของ FSG กำลังทำร้ายลิเวอร์พูล ภาค 1" ขอบคุณครับเครดิตรูปภาพขอบคุณรูปภาพจากOfficial Facebook ของลิเวอร์พูลOfficial Twitter ของลิเวอร์พูลOfficial Instagram ของลิเวอร์พูลภาพปก (ภาพ 1, ภาพ 2)ภาพประกอบ 1, ภาพประกอบ 2, ภาพประกอบ 3, ภาพประกอบ 4, ภาพประกอบ 5, ภาพประกอบ 6 Community คอบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์