เกมนี้ไม่ใช่แค่เกมธรรมดาในฤดูกาลปกติของ NBA แต่มันคือการกลับมาของ ลูก้า ดอนซิช สู่ ดัลลัส เมืองที่เขาเคยเป็นทั้งไอคอน ความหวัง และผู้นำแฟรนไชส์ ก่อนจะถูกเทรดไป Los Angeles Lakers เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2025 การกลับมาครั้งนี้เต็มไปด้วยอารมณ์ ทั้งเสียงปรบมือ ทั้งความเงียบ และแม้กระทั่งน้ำตาของเจ้าตัวในช่วงพิธีเปิดเกม แต่ในสนาม เขาไม่ปล่อยให้อารมณ์มาขวางทาง เขาตอบกลับด้วยฟอร์มระดับเทพ พาเลเกอส์บุกชนะไปอย่างงดงามด้วยสกอร์ 112-97 มุมมองต่อเกม แม้จะเป็นแค่เกมหนึ่งในฤดูกาลปกติของ NBA แต่ Lakers vs Mavericks ในวันที่ 10 เมษายน 2025 กลับเต็มไปด้วยความหมาย ทั้งในแง่กีฬา อารมณ์ และบทพิสูจน์ที่ชัดเจนถึงทิศทางของทั้งสองแฟรนไชส์ นี่คือครั้งแรกที่ ลูก้า ดอนซิช กลับมาเหยียบสนามในดัลลัสในฐานะ “ผู้มาเยือน” หลังการเทรดที่ช็อกวงการในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผู้คนอาจคาดหวังว่าเขาจะลังเลหรือสะเทือนใจเมื่อเจออดีตเพื่อนร่วมทีมและแฟนๆ ที่เคยรักเขา แต่เขากลับตอบสนองด้วย ฟอร์มการเล่นระดับ MVP 45 คะแนน จากการยิงแม่นเกือบ 60% นั่นไม่ใช่แค่เกมที่ดี แต่มันคือ “คำตอบ” ว่าเขาพร้อมจะเดินหน้ากับบทใหม่ในชีวิตนักบาส วิเคราะห์เกมตามควอเตอร์ ควอเตอร์ 1: Mavericks ออกตัวดีกว่า (30-26) ตรงกันข้ามกับที่หลายคนคาดไว้ว่า Lakers จะออกมาร้อนแรงตั้งแต่ต้นด้วยอารมณ์เกมการกลับบ้านของลูก้า ดอนซิช กลับกลายเป็นว่า Dallas Mavericks เป็นฝ่ายคุมจังหวะเกมในช่วงต้น และ ขึ้นนำ Lakers (30-26) เมื่อจบควอเตอร์แรก แมฟเวอริกส์ ใช้เกมเร็วเล่นงานเลเกอร์สอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะ นาจิ มาร์แชลล์ และพี. เจ. วอชิงตัน ที่ขยับหาช่องได้ดี วิ่งเข้าทำใน transition และทำแต้มได้ต่อเนื่อง ขณะที่ เลเกอส์ ยังดูเหมือนจะยังไม่เข้าจังหวะ โดยเฉพาะในเชิงเกมรับที่ยังเปิดพื้นที่ให้แมฟเวอริกส์ขยับบอลได้สะดวก อีกหนึ่งจุดสำคัญคือ เลอบรอนกับดอนซิชยังไม่กดเกมเต็มที่ในควอเตอร์นี้ และดูเหมือนว่าจะเน้นอ่านเกม ปล่อยให้เพื่อนร่วมทีมเป็นผู้ทดสอบแนวรับแมฟเวอริกส์ก่อน และนี่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ Dallas มีโอกาสบุกมากขึ้นจากการเทิร์นโอเวอร์ และจังหวะที่ Lakers เสียสมดุลเกม ควอเตอร์ 2: เกมทีมของเลเกอส์เริ่มเข้าที่ (34-27) ควอเตอร์ที่สองเป็นช่วงเวลาที่ เลเกอร์สโชว์ความลึกของทีม เมื่อผู้เล่นอย่าง รุย ฮาชิมูระ, รีฟส์ และ แวนเดอร์บิลต์ เข้ามาช่วยเสริมการทำแต้ม ด้านดอนซิชก็ยังคงเล่นได้อย่างร้อนแรง โดยจบครึ่งแรกด้วย 31 คะแนน ส่วนเลอบรอนยังคงคุมจังหวะเกมอย่างเก๋า แม้แมฟเวอริกส์จะพยายามเร่งเกมโดยใช้ พี. เจ. วอชิงตัน และจอช กรีน แต่การขาด playmaker อย่างดอนซิช ทำให้เกมรุกติดๆ ขัดๆ เลเกอร์สจบครึ่งแรกนำ (60-57) ควอเตอร์ 3: แมฟเวอริกส์เริ่มตอบโต้ (23-19) หลังพักครึ่ง แมฟเวอริกส์กลับมาพร้อมพลังและจังหวะที่กระชับขึ้น โดยเฉพาะ นาจิ มาร์แชลล์ ที่ทำแต้มติดต่อกันและดึงความสนใจของแนวรับเลเกอร์สไปได้ระดับหนึ่ง แม้เกมจะดุดันขึ้น และเลเกอร์สมีเทิร์นโอเวอร์บ้างในช่วงต้นควอเตอร์ แต่การที่ดอนซิชและเลอบรอนคอยผลัดกันคุมเกม ทำให้แมฟเวอริกส์ไม่สามารถตีเสมอได้ เลเกอร์สยังคงนำ (83-76) เมื่อจบควอเตอร์สาม ควอเตอร์ 4: ปิดเกมด้วยประสบการณ์ (29-21) ควอเตอร์สุดท้าย เลเกอส์โชว์ให้เห็นถึง “ความเป็นทีมใหญ่” การคุมจังหวะเกมของเลอบรอน, การหาช่องยิงของดอนซิช และการช่วยป้องกันของผู้เล่นอย่างแวนเดอร์บิลต์และแอนโธนี เดวิส ทำให้แมฟเวอริกส์หมดทางสู้ ในช่วง 5 นาทีสุดท้าย สกอร์ขยับเป็นสองหลัก และแมฟเวอริกส์เริ่มพักตัวจริง ส่งผลให้ เลเกอร์สคว้าชัยชนะ (112-97) อย่างไร้ข้อกังขา ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Lakers ชนะ ฟอร์มระดับ MVP ของลูก้า ดอนซิช การทำแต้ม 45 คะแนน จากการยิงแม่นยำทั้งระยะกลางและสามแต้ม สร้างความแตกต่างชัดเจน เขาคือแกนหลักของเกมรุก และยังดึงตัวประกบช่วยให้เพื่อนมีพื้นที่เล่น เลอบรอน เจมส์ ผู้นำที่สมบูรณ์แบบ เลอบรอนทำ 27 คะแนน 7 รีบาวด์ และ 3 แอสซิสต์ พร้อมคุมจังหวะเกมแบบมีวุฒิภาวะ ทั้งยังมีการ์ดจ่ายที่มั่นคง ไม่เสียบอลง่าย การเล่นเป็นทีมของเลเกอส์ Bench player อย่างรุย ฮาชิมูระ และแวนเดอร์บิลต์ ช่วยทีมอย่างชัดเจนทั้งในด้านพลังงาน ความแข็งแกร่ง และการป้องกัน แผนรับที่มีวินัย เลเกอร์สตัด passing lane ได้ดี ไม่ปล่อยให้แมฟเวอริกส์วิ่งได้ง่าย และเน้น press ที่มีคุณภาพในช่วงต้นเกม ประสบการณ์และความนิ่ง การที่เลเกอร์สมีผู้เล่นเก๋าหลายคนช่วยให้พวกเขาควบคุมอารมณ์เกมได้ตลอด ไม่เร่งเกิน ไม่ชะลอเกิน 5 ผู้เล่นตัวหลักทั้งสองทีม Dallas Mavericks: Naji Marshall 23 คะแนน, 4 รีบาวด์, 8 แอสซิสต์ Anthony Davis 13 คะเเนน, 11 รีบาวด์, 6 แอสซิสต์ Pj Washington 14 คะแนน, 5 รีบาวด์, 3 แอสซิสต์ Klay Thompson 6 คะเเนน, 2 รีบาวด์, 1แอสซิสต์ Dereck Lively Ii 6 คะแนน Los Angeles Lakers: Austin Reaves 11 คะแนน, 4 รีบาวด์, 4 แอสซิสต์ Luka Doncic 45 คะแนน, 8 รีบาวด์, 6 แอสซิสต์ Rui Hachimura 15 คะแนน, 2 รีบาวด์, 2 แอสซิสต์ Lebron James 27 คะแนน, 7 รีบาวด์, 3 แอสซิสต์ Jaxson Hayes 3 คะเเนน, 5 รีบาวด์ เกมนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่า Lakers หลังเทรด ลูก้า ดอนซิช กลายเป็นทีมที่มีศักยภาพลุ้นแชมป์แบบจริงจัง พวกเขามีทั้ง “ผู้นำที่เป็นตำนาน” อย่างเลอบรอน และ “ซูเปอร์สตาร์ในวัยพีค” อย่างดอนซิช ที่เข้าขาร่วมกันได้อย่างลงตัว ขณะที่ Mavericks กำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟู และอาจต้องหาทิศทางใหม่หลังการเสียผู้นำหลักอย่างดอนซิชไปชัยชนะ (112-97) ไม่ได้แค่เป็นตัวเลข แต่มันคือข้อความที่ Lakers ส่งถึงทั้งลีก พวกเขามาเพื่อแชมป์ ภาพปก 1/2 โดย DallasMavericks/LosAngelesLakers ภาพประกอบ 1/2/3/4/5/6/7/8/9/10 โดย nba/lakers/dallasmavs ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !