ในฤดูกาลนี้พรีเมียร์ลีกอังกฤษได้ก้าวผ่านสัปดาห์ที่ 9 มาแล้ว ซึ่งแมตช์ที่เรียกได้ว่าน่าจะเป็นคู่ Big Match ที่ฮือฮาและน่าตื่นตามากที่สุดคงหนีไม่พ้นการแข่งขันของทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ต้องตั้งรับการมาเยือนของทีมปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยผลจบลงที่ทีมเรือใบสีฟ้าเอาชนะทีมปีศาจแดงไปได้ด้วยสกอร์ 6 - 3 โดยเป็นการทำแฮตทริกได้ถึงสองคน คือ เออร์ลิง ฮาแลนด์ และ ฟิล โฟเดน ซึ่งผู้เล่นยอดเยี่ยมในนัดนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือจอมมารบูแห่งนอร์เวย์ ยอดกองหน้าแห่งทีมเรือใบสีฟ้า เออร์ลิง ฮาแลนด์ นั่นเองซึ่งส่งผลให้ฮาแลนด์ทำสถิติเป็นผู้เล่นที่ทำแฮตทริก 3 ครั้ง เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีกอังกฤษ โดยเขาใช้เวลาไปเพียงแค่ 8 นัดเท่านั้น และเป็นการทำแฮตทริกในบ้าน 3 นัดติดต่อกัน ซึ่งอันดับรองลงมาคือ ตำนานนักเตะระดับบัลลงดอร์แห่งเกาะอังกฤษ ไมเคิล โอเวน ที่ทำสถิติไว้ที่ 48 นัด ซึ่งต้องใช้เวลามากกว่าฮาแลนด์ถึง 40 นัด หรือก็คือ มากกว่าหนึ่งฤดูกาล สิ่งที่เขาทำมันน่าทึ่งมาก เหมือนกับว่าเขาไม่ต้องปรับตัวเลย เป๊ป กวาดิโอล่า ถึงกับบอกเลยว่า "สิ่งที่ฮาแลนด์ทำนั้นหลายๆอย่างเขาไม่ได้สอนเลย มันเป็นสิ่งที่ฮาแลนด์ทำเป็นปกติอยู่แล้วเหมือนกับที่เขาเคยทำที่ นอร์เวย์ ออสเตรีย และเยอรมัน" ทำไมนักเตะในวัยเพียงแค่ 22 ปี ที่พึ่งย้ายมาลีกอังกฤษที่ว่ากันว่าเป็นลีกที่ปรับตัวยากมากที่สุดลีกหนึ่ง และย้ายมาพร้อมค่าตัวมหาศาลที่อาจสร้างแรงกดดันให้เขาอย่างมาก ทำไมถึงมีผลงานดีขนาดนี้ เราไปหาคำตอบกันเลย1.พรสววรรค์ทางด้านร่างกายที่ได้รับส่งต่อมาสรีระร่างกายของฮาแลนด์นั้นเรียกได้ว่าเป็นร่างกายของกองหน้าในอุดมคติเลยก็ว่าได้ ด้วยส่วนสูงที่มากถึง 194 เซนติเมตร กับร่างกายที่สมส่วนแข็งแกร่ง เขาเป็นกองหน้าสามารถเบียดให้กองหลังปลิวได้อย่างง่ายดาย ถึงแม้ตัวของเขาจะใหญ่แต่กลับมีความเร็วและความคล่องตัวที่สูงมาก จนเรียกได้ว่าเป็นฝันร้ายของแนวรับเลยทีเดียว ซึ่งพันธุกรรมของเขามันมีส่วนอย่างมากหลายคนคงรู้กันดีอยู่แล้วว่า อัลฟ์-อิงเก้ ฮาแลนด์ พ่อของฮาแลนด์นั้น เคยเป็นนักฟุตบอลที่เคยค้าแข้งในลีกอังกฤษมาก่อนในช่วงยุค 90 ถึงช่วงต้นของยุค 2000 โดยเขาได้ค้าแข้งกับสโมสรชื่อดังหลายทีม เช่น ทีมตำนานเจ้าป่า นอตติ้งแฮม ฟอเรส ทีมยูงทอง ลีดส์ ยูไนเต็ด รวมถึงทีมปัจจุบันของลูกชายอย่าง ทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ซิตี้ ซึ่งฮาแลนด์ผู้พ่อนั้นก็ยังเป็นหนึ่งในตำนานการโดนเปิดปุ่มใส่โดย รอย คีน ตำนานนักเตะของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกด้วย ถึงแม้ชื่อชั้นของเขาอาจจะดูไม่ทอปคลาสมากในลีกอังกฤษ แต่ความนิยมของในบ้านเกิดนั้นเรียกได้ว่า เป็นตำนานของนอร์เวย์เลยก็ว่าได้แต่นอกจากพ่อแล้ว แม่ของเขาก็มีดีกรีที่ไม่ธรรมดา เธอมีนามว่า Gry Marita Braut เป็นนักกรีฑาที่มีชื่อเสียงในช่วงยุค 1990 โดยเธอเคยลงแข่งขัน สัตตกรีฑา ซึ่งเป็นการแข่งขันที่ต้องใช้สมรรถภาพทางร่างกายที่สูงและทักษะที่ขัดเกลามาดีอย่างมากในการแข่ง เพราะเป็นการแข่งที่ประกอบไปด้วย วิ่งข้ามรั้ว 100 ม. กระโดดสูง, ทุ่มน้ำหนัก, วิ่ง 200 เมตร, กระโดดไกล, พุ่งแหลน และ วิ่ง 800 ม. และด้วยความที่เป็นชาวนอร์เวย์ เขาเติบโตมาในดินแดนแสกนดิเนเวียแหล่งผลิตนักกีฬาร่างกายสูงใหญ่มากมาย นั่นทำให้ฮาแลนด์มีร่างกายที่เหมาะกับการเล่นกีฬามาตั้งแต่เด็ก เขาเล่นกีฬามาหลากหลายประเภทในวัยเด็ก ไม่ว่าจะเป็น กรีฑา ฟุตบอล แฮนด์บอล สกีครอสคันทรี เทนนิส โดยเฉพาะแฮนด์บอลที่ผลงานของเขาเข้าตาโค้ชแฮนด์บอลทีมชาตินอร์เวย์ในขณะนั้นอย่างมาก 2. ทัศนคติของผู้ที่ไม่เคยหยุดพัฒนาและความบ้าฟุตบอลแบบเข้าเส้นเออร์ลิง ฮาแลนด์ เป็นนักเตะที่ไม่เคยคิดที่จะหยุดพัฒนาตัวเอง เขาเคยให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า เขาไม่เคยพอใจกับสถิติโดยรวมของเขาเลย เพราะเขายิงได้น้อยกว่าจำนวนนัดที่ลงเล่น หรือแม้แต่นาฬิกาปลุกของเขาก็ยังใช้เสียงเพลงของ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีกในการปลุกให้ตื่นในตอนเช้า สมัยที่เขาเล่นอยู่ซัลซ์บวกที่ออสเตรีย ในทุกคืนเขาจะเข้านอนพร้อมกับลูกฟุตบอลที่เขาได้รับมาจากการทำแฮตทริก ไม่ใช่เพียงแค่ทัศนะคติของเขาเท่านั้น แต่รวมถึงทัศนคติของเป๊ป กวาดิโอล่า นายใหญ่ของทัพเรือใบสีฟ้า ที่ส่งมาถึงเขาอีกด้วย โดยเป๊ปได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวหลังจบเกมปีศาจแดงไว้ในทำนองว่า เขาสั่งให้ฮาแลนด์ยิงให้ได้ 5 ประตู ซึ่งฮาแลนด์ก็ไม่ได้มีท่าทีที่โวยวายหรือไม่เห็นด้วยแต่อย่างใด 3. คุณภาพของทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าคุณภาพนักเตะของแมนซิตี้ มีคุณภาพที่เรียกได้ว่าสูงที่สุดในลีกอังกฤษเลยก็ว่าได้ รวมถึงโค้ชผู้จัดการทีมมากฝีมือและประสบการณ์อย่าง เป๊ป กวาดิโอล่า ผู้ที่สร้างให้ทัพเรือใบสีฟ้าในยุคนี้ให้เล่นกันได้อย่างเป็นระบบและแบบแผนที่ชัดเจน การเข้าทำเกมรุกที่หลากหลาย เล่นสนุกสนาน ไม่น่าเบื่อ และยังคงไว้ซึ่งผลการแข่งขันที่น่าพอใจ ซึ่งแตกต่างอย่างมากกับทีมอย่าง ซัลซ์บวกหรือดอร์ทมุนด์ ที่มีคุณภาพของผู้เล่นและระบบในการเล่นเทียบแมนซิตี้ไม่ได้เลย ในทีมเรือใบสีฟ้ามีนักเตะคุณภาพที่สามารถจ่ายบอลและทำเกมให้ฮาแลนด์เล่นได้ง่ายกว่าสมัยอยู่กับทีมเก่าอย่างมาก ผู้เล่น อาทิเช่น เควิน เดอบรอย แบนาโด้ ซิลวา ฟิล โฟเด้น หรือแม้แต่กองหลังอย่าง เจา คันเซโร่ ล้วนเป็นนักเตะที่มีสกิลในการจ่ายบอลได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการแทงทะลุช่อง การเปิดบอลข้ามแนวรับ การครอสบอลจากด้านข้าง การเปิดลูกเตะมุมที่แม่นยำ ทั้งหมดที่กล่าวมาทำให้ฮาแลนด์เล่นง่ายกว่าสมัยที่เขาอยู่กับดอร์ทมุนด์อย่างมาก ในการเล่นให้กับแมนซิตี้ฮาแลนด์มีการวิ่งขยับตำแหน่งน้อยมากแต่กลับทำประตูได้มากที่สุดในลีก ณ ขณะนี้ นั่นเป็นตัวบ่งชี้แล้วว่าระบบการเล่นและคุณภาพนักเตะของแมนซิตี้ช่วยยกระดับการเล่นของฮาแลนด์ขึ้นไปอีกขั้นอย่างชัดเจนสุดท้ายนี้ ผมเองก็ขอเป็นกำลังใจให้ เออร์ลิง ฮาแลนด์ ถึงแม้จะไม่ได้เชียร์ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าฮาแลนด์เป็นนักเตะที่เก่งมากจริงๆ แต่ในขณะเดียวกัน ฮาแลนด์พึ่งเล่นในอังกฤษไปได้เพียงไม่กี่นัดเท่านั้น อาจจะมีฟอร์มแกว่งเกิดขึ้นในอนาคตก็ได้ หรืออาจมีอาการบาดเจ็บรบกวน แต่ถ้าเขายังรักษาฟอร์มการเล่นระดับนี้ไว้ได้ ดูแลร่างกายดี พฤติกรรมดี บัลลงดอร์ก็คงไม่ไกลเกินเอื้อมสำหรับเขา และอาจส่งผลให้เรือใบสีฟ้าได้แชมป์ยุโรปแชมป์แรกมาครองได้ด้วย ยังไงเรื่องของอนาคตเราก็ต้องตามดูกันต่อไป ท่านผู้อ่านคิดเห็นอย่างไรมาคอมเมนต์พูดคุยกันได้ครับ สวัสดีและขอบคุณที่อ่านกันจนมาถึงบรรทัดนี้ครับ ขอบคุณครับ เครดิตรูปภาพภาพปก ภาพโดย : Manchester City (ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4) ภาพที่ 1 ภาพโดย : Manchester City ภาพที่ 2 ภาพโดย : Manchester Cityภาพที่ 3 ภาพโดย : Manchester Cityภาพที่ 4 ภาพโดย : Manchester CityCommunity คอบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์