รีเซต
TRUE TALK : แพ้ชนะไม่เป็นไร เชียร์ด้วยใจไปด้วยกัน "ปราการ เนเวอร์ ดาย" ... by "บก.เก้น"

TRUE TALK : แพ้ชนะไม่เป็นไร เชียร์ด้วยใจไปด้วยกัน "ปราการ เนเวอร์ ดาย" ... by "บก.เก้น"

TRUE TALK : แพ้ชนะไม่เป็นไร เชียร์ด้วยใจไปด้วยกัน "ปราการ เนเวอร์ ดาย" ... by "บก.เก้น"
kentnitipong
13 กันยายน 2560 ( 11:13 )
685

เคยถามตัวเองมั๊ยครับว่าเราดูฟุตบอลไปเพื่ออะไร ? ผมเชื่อว่าคำถามปลายเปิดนี้คงจะได้คำตอบกลับมาอย่างหลากหลายเป็นแน่ แต่แน่นอนว่าคำตอบส่วนใหญ่ก็น่าจะประมาณว่าเชียร์ทีมที่เรารัก คนที่เราชอบ แต่จะมีสักกี่คนที่ยังคงปักหลักเชียร์ทีมในยามที่แพ้ หรือตกต่ำ

True Talk ในวันนี้ จะพาแฟนๆ ทุกท่านไปติดตามชีวิตของแฟนบอลท่านหนึ่ง ที่ไม่ได้ให้คุณค่าของการเชียร์บอลเพียงแค่ในเรื่องของแพ้-ชนะ เท่ากับ “ความสุข” ในการส่งกำลังใจให้กับนักเตะที่ขึ้นชื่อว่าเป็นตัวแทนของ “ทีม” ในสนาม … อานนท์ “บัง” สุขดี ชายผู้ยอมลาออกจากงานประจำที่ทำมากว่า 12 ปี เพื่อมาขับแท็กซี่เพียงเพราะจะได้ตามเชียร์ทีมที่ตนรัก นั่นคือทีม ซุปเปอร์ พาวเวอร์ สมุทรปราการ เอฟซี

 

 

“ทีมเราเตรียมตัวช้า แต่นั่นไม่ใช่ข้ออ้างของพวกเราที่จะไม่เชียร์” ชายผมยาวอารมณ์ดีที่ชื่อว่า อานนท์ สุขดี หรือ “พี่บัง” เปิดฉากการสนทนาท่ามกลางเสียงกลองจากเหล่า “ปราการ เนเวอร์ ดาย” ที่ค่อยๆ โหมเพื่อสร้างบรรยากาศ แม้ว่าจำนวนอาจจะไม่มาก แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญเท่ากับที่พี่บังย้ำกับเราตั้งแต่แรกว่าเหล่า “ปราการ เนเวอร์ ดาย” พร้อมจะอยู่เคียงข้างกับทีมอยู่เสมอ แม้ว่าจะรู้อยู่เต็มอกก็ตามว่าสโมสรกำลังประสบปัญหาหลายๆ อย่างในซีซั่นนี้ จนนำมาซึ่งการเสริมทัพที่ค่อนข้างจะช้า และจำกัดหากเทียบกับเพื่อนร่วมลีกทีมอื่นๆ

“เรายอมรับว่าด้วยข้อจำกัดของทีมหลายๆ อย่าง ทำให้ตัวผู้เล่นที่เราได้มาอาจจะไม่ใช่นักเตะระดับท็อปของลีก แต่จะทำยังไงได้หล่ะ ในเมื่อนักเตะของเรากำลังทำหน้าที่ของตัวเองอยู่ในสนาม เราเองในฐานะกองเชียร์ก็ต้องมืออาชีพพอที่จะสนับสนุน เราซื้อบัตรเข้าไป เราเตรียมกลอง เตรียมธงของเราเอง เอาใจไปไว้ในสนาม และส่งไปให้ทีมอย่างเต็มที่ นี่คือตัวตนของเรา อย่างอื่นค่อยว่ากัน”

ความพ่ายแพ้ต่อทัพ “กูปรีอันตราย” ในเกมล่าสุด ได้ส่งผลให้ ซุปเปอร์ พาวเวอร์ สมุทรปราการ เอฟซี หรือชื่อเดิม “โอสถสภา” นั้นต้องหล่นตกชั้นจากลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 19 ปี หลังโลดแล่นอยู่ในลีกสูงสุดมาตั้งแต่ปี 2541 บวกกับกระแสการย้ายถิ่นฐานของทีมไปอยู่ยังจังหวัดอื่นๆ ทำให้เราอดสงสัยไม่ได้ว่าถ้าเกิดว่า “เดอะ พาวเวอร์” ตัดสินใจไปจากสมุทรปราการ จริงๆ พี่บัง และเหล่า “ปราการ เนเวอร์ ดาย” จะทำอย่างไร

“เอาเข้าจริงๆ พี่คิดว่าผลการแข่งขันนั้นเป็นเรื่องรองไปซะด้วยซ้ำ พวกเราในกลุ่มคุยกันแล้วว่าไม่ว่าทีมจะตกชั้น หรือไม่ตกชั้น มันจะไม่มีผลต่อการเชียร์ของพวกเราเลยแม้แต่น้อย ผมกับพี่ๆ น้องๆ ลูกๆ หลานๆ ก็ยังเปล่งเสียงร้อง ตีกลอง โบกธง ตะโกนให้กำลังใจนักเตะในสนามอยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ขอแค่สโมสรอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน เราซัพพอร์ตเต็มที่ จะ T2, T3 หรือ T4 เราก็เชียร์ ขอแค่ทีมยังอยู่ตรงนี้จริงๆ”

“ในแต่ละนัด เราเชียร์เต็มที่ ใส่เต็มที่จริงๆ เราเชียร์มากกว่า 90 นาทีด้วยซ้ำ พี่เองก็เอาประสบการณ์จากการอยู่ในกลุ่มเชียร์ไทย พาวเวอร์ มาช่วย เราเชียร์กันด้วยใจ อยู่กันแบบพี่แบบน้อง จนเกิดเป็นความผูกพันที่เงินก็ไม่สามารถซื้อได้” พี่บังกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นไม่แพ้กับกลองที่เริ่มจะทวีความดังมากขึ้นเรื่อยๆ

 

 

1 แต้ม จากการลงเตะไป 26 นัด รวมถึงการถูกเจาะตาข่ายไปกว่า 104 ประตู อาจจะเป็นผลงานที่ดูจะทำร้ายจิตใจเหล่าแฟนบอล “ปราการ เนเวอร์ ดาย” จนป่นปี้ไม่มีชิ้นดี และเชื่อว่าถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับแฟนบอลทั่วไป ก็คงไม่มีแฟนบอลคนไหนที่อยากจะกลับเข้าไปเชียร์ทีมอีก แต่ทว่าพี่บังกลับยืนยันว่า นักเตะของทีมนั้นทำหน้าที่ในสนามอย่างเต็มที่แล้ว และตนก็ยังยินดีที่จะเชียร์ และสนับสนุนทีมต่อไปดั่งเช่นที่ทำมาโดยตลอด

“พี่อยากจะย้ำอีกทีว่า ถ้าทีมไม่ย้ายไปไหน พี่ก็ยังจะตามเชียร์ต่อไปแหละ แน่นอนว่าไม่มีใครอยากเห็นทีมแพ้หรอก แต่จะทำยังไงได้หล่ะ มันกลายเป็นความรัก ความผูกพันไปแล้ว”

“กับตัวนักเตะเอง พี่ยอมรับเลยนะว่าบางคนนี่พี่ก็ไม่รู้จักเลย เอาง่ายๆ คือไม่เคยรู้เลยว่าเค้าเป็นใครย้ายมาจากไหน มีผลงานอย่างไรก่อนหน้านี้ แต่พี่เชื่อใจสโมสร พี่ถือว่าเราต่างคนต่างทำหน้าที่กันดีกว่า พี่เองในฐานะแฟนบอล หน้าที่ของพี่คือการสนับสนุนสโมสร เชื่อมั๊ยว่าเคยมีคนมายื่นข้อเสนอให้พี่เข้าสนามฟรี แต่พี่ปฏิเสธไปเพราะพี่ถือว่าพื้นฐานของการสนับสนุนทีมที่ง่ายที่สุดก็คือคุณต้องซื้อตั๋วเข้าชม”

 

 

มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะเริ่มสงสัยว่าเพราะเหตุใดชายคนนี้ถึงยอมทุ่มทั้งแรงกาย แรงใจให้กับทีมที่เขารักได้มากขนาดนี้ โดยเฉพาะถึงขนาดที่ว่า ยอมลาออกจากงานประจำที่ทำมาร่วม 12 ปี เพียงเพื่อต้องการอิสระทางเวลา เพื่อไปติดตามเชียร์ทีมที่ตนรัก จนหลายคนอาจจะมองว่า พี่บัง นั้นบ้าไปแล้ว !!!

“พี่เองยอมลาออกจากการทำงานในโรงพยาบาลเพื่อมาขับแท็กซี่เพียงเพราะอยากสนองความต้องการของตัวเองที่อยากจะดูฟุตบอล อยากจะตามเชียร์ทีม อยากจะเป็นส่วนหนึ่งเพื่อให้กำลังใจทีม มันคือเส้นทางที่พี่เลือกแล้ว และพี่ก็มีความสุขกับมันดี”

“คนเรามีเป้าหมายในชีวิตต่างกัน พี่เชื่อว่าความชอบ ความฝัน ความสุข มันเกิดขึ้นได้ด้วยการลงมือทำ สิ่งที่พี่ตัดสินใจเลือกไปแล้วก็คือ “ฟุตบอล” ทุกวันนี้พี่มีความสุขมากนะที่ได้ออกไปตามเชียร์ทีมรัก ได้เชียร์ทีมชาติไทย ได้เดินทางอยู่ตลอด มันเหมือนกับกำไรชีวิต”

“กับผลงานของทีม (ซุปเปอร์ พาวเวอร์ สมุทรปราการ เอฟซี) พี่รับได้กับความจริงที่เกิดขึ้น พี่ไม่อยากจะไปสนใจกับสถิติแย่ๆ ที่เกิดขึ้นมามากมาย เพราะสิ่งสำคัญที่พี่โฟกัสที่สุดก็คือ ขอแค่คุณทำหน้าที่ของตัวเองในสนามให้เต็มที่ ขอแค่ไม่ถอดใจ สู้เต็มที่ แค่นี้ก็ได้ศรัทธาจากพวกพี่ไปเต็มๆ แล้ว”

“อีกไม่ถึง 10 นัดที่เหลือในไทยลีก1 พี่ และกลุ่ม “ปราการ เนเวอร์ ดาย” จะขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด คุณจะแพ้กี่ลูก จะแพ้กี่นัด เราก็ยังกล้ายืนยันคำเดิมว่าคุณจะได้ยินเสียงเชียร์บวกกับเสียงกลองที่ดังกระหึ่ม พร้อมกับธงที่พร้อมจะโบกเกิน 90 นาทีเหมือนเดิมอย่างแน่นอน”

และนี่คือศรัทธาของ “พี่บัง” และเหล่า “ปราการ เนเวอร์ ดาย”

 

แพ้ชนะไม่เป็นไร เชียร์ด้วยใจไปด้วยกัน…

“ปราการ เนเวอร์ ดาย”

 

ชมสด!! ศึกไทยลีก และคลิปไฮไลท์ พร้อมติดตามข่าวสาร ได้ที่ Trueid App และ เว็บไซต์ Sport.Trueid.net หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @Trueid

ยอดนิยมในตอนนี้