EXCLUSIVE : จับเข่าคุย "เฮียรุท" อนุรุทธิ์ นาคาศัย กับรากฐานสำคัญของ ชัยนาท ... by "MAXZIO"
ว่ากันว่า จะทำทีมฟุตบอลให้ประสบความสำเร็จได้ต้องมี แฟนบอล ที่เหนียวแน่น ดังนั้นเราจะเห็นกลุ่มทีมที่ประสบความสำเร็จส่วนมาก จะเป็นทีมประจำจังหวัด มากกว่า ไม่ว่าจะเป็น บุรีรัมย์ เชียงราย หรือชลบุรี
แต่เราก็ปฎิเสธ ไม่ได้ว่าการบริหารทีมที่ดี และ เงินทุน ที่มากพอ ก็เป็นส่วนสำคัญ ในการทำทีมฟุตบอล ด้วยเช่นกัน
มีหลายทีมในอดีต ที่แฟนบอลเข้ามาเชียร์เต็มสนาม แต่ก็ไปไม่รอด เฉกเช่นทีมดังจากแดนใต้ อย่าง สงขลา ที่เคยมีแฟนบอลเข้าชม เกินหลัก 30,000 คนมาแล้ว
เรามีโอกาสได้พูดคุยกับ คนทำทีม ที่อาจเรียกได้ว่าเป็นทีมจังหวัดเล็กๆ ทีมหนึ่ง หากวัดจากเงินทำทีม ซึ่งเขาพูดเองว่า น้อยที่สุดในไทยลีก และอาจจะน้อยกว่า ไทยลีก 2 บางทีมเสียด้วย กับ “ชัยนาท ฮอร์นบิล”
“นกใหญ่” กลายเป็นกลุ่มทีมประจำจังหวัด ที่มีฐานแฟนบอลที่เหนียวแน่น ทีมหนึ่งในไทยลีก และเป็นทีมที่เพรียบพร้อมจะก้าวขึ้นไปเป็น สโมสรฟุตบอลที่ยั่งยืน ทีมหนึ่งในอนาคต ไม่วาจะเป็นตัวสนาม “เขาพลอง สเตเดี้ยม” ที่เป็น ฟุตบอล สเตเดี้ยม เช่นเดียวกับทีมยักษ์ใหญ่, คลับเฮ้าส์ ที่มีอุปกรณ์อำนวนความสะดวก และจำเป็นต่อนักกีฬา ไม่ต่างกับทีมชั้นนำ
หากหันมามองความเป็นจริงว่ากันตามตรง ชัยนาท ก็ดูเหมือนจะไปไม่สุดซักทาง เป็นทีมจังหวัดก็จริง แต่ฐานแฟนบอลอยู่เพียง 2,000-3,000 คนเท่านั้น จากการเป็นจังหวัดเล็กๆ ที่ไม่ได้มีมหาวิทยาลัย หรือแหล่งการทำงาน เช่นหัวเมืองใหญ่ ทำให้คนหนุ่มสาว และวัยทำงาน หนีหายออกไปจากจังหวัดกันหมด รวมถึง เงินทุนที่เรียกได้ว่าเกือบจะไม่พอใช้ ทำให้ “นกใหญ่” ดิ้นรนอยู่ในโซนตกชั้น มาหลายปี
แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้ หัวเรือหลักอย่าง อนุรุทธิ์ นาคาศัย รองประธานสโมสรและผู้จัดการทีม ชัยนาท ฮอร์นบิล ท้อแต่อย่างใด
“การที่เรามีงบประมาณจำกัด เหมือนเป็นกำแพงให้เราก้าวข้าม ปีนี้เรามีงบไม่ถึง ร้อยล้าน ซึ่งผมคิดว่าน้อยที่สุดในไทยลีกแล้ว แต่มันก็ไม่ทำให้ ผมท้อ”
“ไปขอสปอนเซอร์ เขาคำนวนแล้วว่าควรจะให้เราเท่าไหร่ ซึ่งมันก็ไม่ได้มากอะไร ทำให้ผมและทีมต้องมานั่งคิดกันว่า เงินเท่านี้ ทำไงถึงจะสู้เขาได้ ไม่มีทางที่จะไปดึงนักเตะระดับ ซูปเปอร์สตาร์ แบบที่หลายๆ ทีมเขาทำกัน ทำให้เราต้องไปดึงดาวรุ่ง ไปดึงคนที่ฟอร์มดี แต่เงินเดือนไม่สูงนัก หรือถ้าโค้ชชอบ ก็ไปดึงอาจจะได้เงินมากกว่าที่ได้อยู่เล็กน้อย แต่ก็ไม่เยอะมาก นักเตะระดับท็อปๆ มีอย่างมากก็ไม่เกิน 4-5 คน”
“อีกส่วนเราอาศัย ใช้นักเตะต่างชาติ เข้ามาทดแทน ในส่วนที่ทีมเราขาดไป อย่างเช่น ซินาม่า ปงโกลล์ เราเก็บไว้เพราะเราเห็นว่า เขาสามารถเอาประสบการณ์ระดับโลก มาช่วยเราได้ ด้าน เฮนรี่ ดุมเบีย เงินเดือนเขาไม่เยอะ เราดึงมาตอนเขาอยู่ T2 ผมเปรียบเทียบกับนักเตะคนอื่นๆ ในลีก เห็นว่าเขาดีที่สุดกับตำแหน่งปีกที่มีความเร็ว ส่วน ดิยุฟ บีรัม ก็เข้ามาตอบโจทย์ในแดนหน้าได้ บวกเขามีอาการบาดเจ็บติดมา ก็ทำให้เงินเดือนถูกลงไปอีก”
แชมป์ คือเป็นหมายสูงสุดสำหรับทีมฟุตบอล แต่สำหรับการค่อยๆ เติบโตอย่างมั่นคง “เฮียรุท” ยอมรับว่า การก้าวขึ้นไปคว้าโทรฟี่ ซักใบเป็นเรื่องที่ยากอยู่เหมือนกัน
“จริงๆ เราก็มีเป้าหมายอยู่ในใจตลอด เช่นอยากได้บอลถ้วย ซักใบ มาเป็นเกียรติประวัติให้กับทีม แต่เป้าหมายหลัก คืออยากให้ ชัยนาท อยู่ไทยลีก นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หรือขึ้นไปจบเลขตัวเดียวก็พอใจแล้ว การที่จะไปลุ้นถึง ท็อป 5 หรือพื้นที่ แชมเปี้ยนส์ ลีก คงเป็นไปได้ยาก เราต้องมองความเป็นจริงด้วย”
รากฐาน คือสิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่งที่รองประธานสโมสรสนใจ นอกจากมีเครื่องมืออำนวยความสะดวกภายในสโมสนที่ดีแล้ว “ระบบการเล่น” คืออีกสิ่งหนึ่งที่ ชัยนาท ฮอร์นบิล กำลังวางรากฐานจนเริ่มเป็นแบบแผน จากกุนซือชาวเยอรมันนาม เดนนิส อมาโต้
“กับทาง อมาโต้ ผมได้เจอกับเขามานานแล้ว ตั้งแต่เขามาอยู่กับทาง สปอร์ต บาวาเรีย ได้คุยกันในเกมกับ เมืองทอง คุยไปคุยมาแล้วผมรู้สึกว่าเคมีตรงกัน ไอเดียในการทำทีมของ อมาโต้ ดี เขาเติบโตมากับระบบแบบ บาเยิร์น มิวนิค เพราะฉะนั้นเขารู้รูปแบบในการทำอย่างดี เราเลยชวนเขา แต่ อมาโต้ ติดงาน จนได้มาร่วมทีมในปีที่เราเล่นใน T2”
กุนซือหนุ่มชาวเยอรมันรายนี้ เข้าในช่วงที่ “นกใหญ่” ตกต่ำที่สุดช่วงหนึ่ง หลักต้องตกชั้นลงไปเล่นในไทยลีก 2 แต่ก็เป็นการประจวบเหมาะกับการเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ เช่นการวางรากฐานการเล่นให้กับทีม
“ตั้งแต่ อมาโต้ เข้ามา เขาพัฒนาการเล่นของเราไปเยอะมาก เห็นได้ตั้งแต่ ทรงการเล่น ระบบการเล่นแตกต่างจาก ชัยนาท ยุคก่อนๆ อย่างชัดเจน เมื่อก่อน เราใจสู้ เราเล่นแบบดุดัน อาจมีชนะบ้าง แพ้บ้าง แต่ไม่มีความสวยงาม เน้นวิ่งปะทะ ปะทะ และก็ปะทะ”
“ช่วงที่เราได้แชมป์ไทยลีก 2 ระบบเริ่มเข้ามา เราเล่นกันด้วยความสวยงาม มีทีมเวิร์ค สถิติต่างๆ ที่เราสร้างไว้ มันไม่ได้ทำกันง่ายๆ ชนะติดต่อกัน 8 เกม ไม่แพ้ใคร 18 นัดติด เราครองบอลเหนือว่าทุกทีมใน ไทยลีก 2 ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ อมาโต้ สร้างขึ้น”
“ยอมรับว่า นักเตะเราไม่ได้เป็นนักเตะเกรด A หรือ B+ แต่พวกเขาเข้าใจระบบ นักเตะจะเล่นตรงไหนก็ได้ พอยิ่งเล่นความใจก็มากขึ้น สิ่งที่เดนิช สอนลึกไปถึงว่า ทำไมถึงต้องเล่นแบบนี้ มีเหตุผลอะไรถึงต้องไปอยู่บริเวณนั้น ทำไมต้องเลี้ยง ทำไมต้องครอสบอล ลงลึกไปถึงปรัชญาการเล่น ทำให้นักเตะเราเล่นได้หลายตำแหน่ง ลามไปถึงแม้เวลา ชัยนาท ส่งเด็กลง บางคนก็ไม่มีการตื่นสนาม เพราะน้องๆ ซ้อมกับทีมจนเข้าใจหมดแล้ว”
“อย่างที่เห็น ปรัชญาการเล่นของเราคือการครองบอล เหมือนกับทีมชาติเยอรมัน เล่นไม่ต่างกันเลย ซึ่งจะค่อยข้างแตกต่างจากทีมอื่นๆ ที่ถ้าไม่ชัวเราไม่เข้าไปทำประตู”
นอกจากนี้”เฮียรุท” ย้ำชัดเจนว่า ฤดูกาลหน้า ชื่อกุนชือของ ชัยนาท ฮอลบิล ยังคงเป็นชื่อ “เดนนิส อมาโต้” อย่างแน่นอน และเขาจะทุ่มเวลาให้กับได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยอีกด้วย
อีกหนึ่งประเด็นที่ได้พูดคุย กันคือ จำนวนแฟนบอลในสนาม ลดน้อยถอยลงไปอย่างน่าใจหาย ชัยนาท ก็เป็นทีมที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกับทุกทีม
“ปัจจัยหลักที่คนเข้าสนามน้อยลง แน่นอนคือ เศรษฐกิจ การนำเงิน 100 บาทมาจ่ายค่าบัตรมันไม่ใช่เรื่องง่าย เราก็ต้องจัดโปรโมชั่นต่างๆ มาแก้ไข เช่นมาเป็นครอบครัวลดครึ่งราคา แต่พูดกันตรงๆ สำหรับทีมเล็กๆ รายได้จากบัตรเข้าสนามมันไม่พอที่เราจะมาจ่ายค่าต่างๆ ซึ่งผมหาทางดึงคนเข้ามาในสนามให้เยอะขึ้นดีกว่า เพราะเราต้องอย่าลืมว่า คนจะเดินทางมาดูฟุตบอลเนี้ย เขาต้องเสียค่าเดินทาง ค่าน้ำ ค่ากิน อีกหลายร้อยบาท”
“จริงๆ แล้วผลงานก็มีส่วน แต่สำหรับชัยนาทไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่ เพราะแฟนบอลรู้อยู่แล้ว ว่าศัยภาพทีมเราเป็นอย่างไร มีแพ้ มีชนะ มีเสมอ ยิ่งมีตกชั้น 5 ทีมก็ยิ่งได้กำลังมากขึ้น ซึ่งเป็นส่วนที่ยากมากที่จะรักษาแฟนบอลให้เข้าสนามให้ได้ตลอด”
ฐานแฟนบอล ของ “นกใหญ่” ไม่ได้มากมาย แต่ยังมีกลุ่มกองเชียร์ที่เหนียวแน่น และตามเชียร์มาโดดยตลอด ไม่ว่า ชัยนาท จะอยู่ตรงไหนของวงการฟุตบอลไทยก็ตาม ซึ่งการเพิ่มฐานแฟนบอล “เฮียรุท” มองปัญหา และวิธีการแก้ไข ได้อย่างน่าสนใจ คือการเจาะตลาดเด็กนักเรียน ทั่วทั้งจังหวัด
“ค่าเฉลี่ยแฟนบอลถือว่าดีขึ้นครับ แต่ยังไม่น่าพอใจ แต่ก่อนในอดีตค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3,000 คน แต่พอตกชั้นไปแฟนบอลก็ลดลง แม้ว่าจะคว้าแชมป์ลีก 2 มาได้ก็ไม่ได้เพิ่มมามากขึ้นเท่าไหร่ เราอยากได้มากขึ้น แต่แฟนบอลก็บอกว่า ขึ้นอยู่กับผลงานของทีม ผลงานดีมันจะมาเอง ตอนนี้ค่าเฉลี่ยนอยู่ที่ประมาณ 2,000 คนได้”
“เป้าหมายหลักของทีมเราตอนนี้จึงต้องเล็งไปที่เด็กๆ ในจังหวัด ที่อยู่อำเภอต่างๆ เขารู้จักเรา แต่เรายังไม่เคยไปเยี่ยมเยียนพวกเขา ตอนนี้ผมเล็งไปที่ระดับมัธยม พร้อมจัดโปรโมชั่น ให้น้องๆ อายุไม่เกิน 18 ปีเข้าดูฟุตบอลฟรี “
“ปัญหาอีกข้อหนึ่งของเราคือ ภายในจังหวัดชัยนาท การเดินทางค่อยข้างลำบาก และไม่มีมหาวิทยาลัย ใหญ่ๆ ทำให้เด็กๆ พอโตขึ้นก็จะออกไปอยู่จังหวัดอื่นๆ กลุ่มแฟนบอลตรงนี้ของเราจะหายไป ทำให้ผมตรงเล็งไปที่เด็กที่อยู่ในช่วง ประถม-มัธยม”
ชัยนาท ตอนนี้เปรียบเสมือน “นกใหญ่” ที่กำลังเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ในลีกสูงสุดของไทย แต่พวกเขายังต้องหาทางเอาตัวรอดจาก “นรกไทยลีก” แบบที่หลายทีมต้องเผชิญอยู่ในทุกๆ ฤดูกาล
และยิ่งในฤดูกาลนี้ ที่จะมีการตกชั้นถึง 5 ทีม และ ชัยนาท สุ่มเสี่ยง เหลือเกินที่จะตกลงไปเล่นลีกรอง อีกครั้ง ในรอบเพียง 1 ปี
แต่ผมเชื่อเหลือเกินว่า รากฐาน ที่ “เฮียรุท” และทุกๆ คน ทุกๆ ฝ่าย ค่อยๆ ก่อร่างสร้าง ชัยนาท ฮอร์นบิล จะไม่ทำให้ทีมภูธรทีมนี้ ตกลงไปเล่นในลีกล่าง อีกครั้ง และพวกเขาพร้อม ที่จะเผชิญหน้า กับทีมชั้นนำ ดั่งเช่น การบุกไปเอาชนะ บุรีรัมย์ ถึงรังมาแล้ว 1-0
“MAXZIO”
ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูบอลสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก!
ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!
ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports