การวิ่งขึ้นเนินหรือเจอสนามวิ่งที่มีภูมิประเทศเป็นเขา การวิ่งขึ้นและต้องต่อสู้กับความชันเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่นักวิ่งหน้าใหม่ไม่คุ้นชิน เจอทางชันเข้าไปอาจจะหอบและลิ้นห้อยได้ นั่นอาจจะเพราะคุ้นเคนกับการซ้อมและวิ่งในทางเรียบมาตลอด แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไปเพราะวันนี้จะมีเทคนิคสำหรับการวิ่งขึ้นเนินเขาที่สามารถลองเอาไปปรับใช้ได้ครับ 6 เคล็ดลับสำหรับการวิ่งขึ้นเนิน อย่างแรกเลยต้องทำความเข้าใจก่อนว่าเราไม่ได้วิ่งเพื่อพิชิตยอดเขา (ส่วนใหญ่จะอัดแรงรีบวิ่งขึ้นเนิน) การวิ่งขึ้นเนินเขาควรจะวิ่งด้วยระดับความเร็วและวิ่งตามกำลังตามปกติ ซึ่งก็อาจจะมีอัตราการก้าวที่ช้าลง ก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลก เพราะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเสียพลังงานในการเร่งขึ้นเนินแล้วไปจบด้วยการเหนื่อยหอบบนยอดเขา ในขณะวิ่งขึ้นเนิน ควรจะพยายามรักษาลักษณะท่าวิ่งที่ดีเอาไว้ คือวิ่งแล้วงอแขนทำมุม 90 องศา และแกว่งแขวนตรงไปด้านหน้า-หลังสม่ำเสมอ (ไม่ควรแกว่งไปด้านข้าง) การวิ่งควรวิ่งหลังตรง สามารถโน้มไปข้างหน้าไปเล็กน้อย แต่ต้องไม่โน้มไปจนหลังค่อม พยายามรักษาการแกว่งแขนให้อยู่ในระดับต่ำและแกว่งระยะที่สั้นที่สุด ซึ่งการควบคุมการแกว่งให้อยู่ในระดับต่ำจะทำให้การก้าวเท้าสั้นและไม่สูงจากพื้นมาก ทำให้การก้าวทำได้เร็วขึ้น เมื่อขึ้นถึงปลายทางหรือยอดเนินแล้ว สามารถวิ่งด้วยการก้าวเท้าปกติ สังเกตได้เลยว่าถ้าเราได้มีการวิ่งขึ้นเนินที่ถูกต้อง จะสามารถวิ่งแซงคนอื่นๆ ได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญที่ต้องเน้นย้ำคือการวิ่งโดยโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย ประกอบกับการก้าวเท้าสั้นและเร็ว (อย่าพยายามลองวิ่งแบบโน้มตัวไปข้างหลัง เพราะจะเหมือนกับการวิ่งแบบฝืนธรรมชาติ) สังเกตว่าจะโน้มมากน้อยสามารถดูได้จากระดับของไหล่ที่โน้มมาข้างหน้า ระวังเรื่องของการควบคุมก้าวที่ยาวเกินไป รวมทั้งการก้าวแบบกระโดดซึ่งจะทำให้เกิดแรงกระแทกของขามากเกินไป จากเคล็ดลับง่ายๆ เหล่านี้ หากต้องการเสริมความแข็งแกร่ง อาจจะต้องมีการฝึกฝนการวิ่งขึ้นทางชันหรือเนินเขาซ้ำ ทำได้โดยซ้อมวิ่งในทางขึ้นเนินเขาระยะ 100 ถึง 200 เมตร ซ้อมวิ่งขึ้นด้วยความเร็วปกติและขาลงอาจจะวิ่งหรือเดินเพื่อฟื้นตัว ทำซ้ำประมาณ 3 รอบสำหรับนักวิ่งหน้าใหม่ ก็จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ และมั่นใจได้เลยว่าถ้าเจอเนินครั้งต่อไป วิ่งแบบสบายๆ แน่นอน ขอบคุณข้อมูล : Verywellfit