อาการหนัก!! 'อลีสซง'เหวออีก หงส์แพ้ 3 นัดติด โดน'จิ้งจอก'รัวแซงท้ายเกม 3-1 (ชมคลิปไฮไลท์)
ลิเวอร์พูลอุตส่าห์ได้ประตูขึ้นนำก่อนจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก่อนจะโดน เลสเตอร์รัวแซง 3 ลูกรวดท้ายเกม พลิกกลับมาชนะ 3-1 ทำให้ทีมหงส์แดงแพ้เป็นเกมที่ 3 ติดต่อกันแล้ว
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก คู่บิ๊กแมทช์ วันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล บุกไปเยือน “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ โดยเกมนี้ โอซาน คาบัค กองหลังตัวใหม่ที่ถูกยืมตัวจากชาลเก้ ได้ลงประเดิมสนามให้กับ ลิเวอร์พูล เป็นนัดแรก โดยลงยืนเป็นเซตเรอืคู่กับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน
เริ่มเกมไปได้แค่ 2 นาที เลสเตอร์ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะโต้กลับ เจมส์ แมดดิสัน เห็น อลีสซง เบคเกอร์ นายทวารหงส์แดง ออกมาไกลจากหน้าประตูตัวเอง จึงตัดสินใจยิงไกลจากแดนตัวเอง แต่ อลีสซง ยังวิ่งกลับไปรับได้ทัน
นาทีที่ 10 เป็นโอกาสของลิเวอร์พูล เมื่อ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน วางบอลยาวให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษ แต่จับบอลไม่ดี ทำให้โดนแนวรับเลสเตอร์วิ่งตามมาสกัดได้ทัน
นาที 20 ทีมหงส์แดงได้ลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะสวนกลับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แทงบอลให้ ซาลาห์ ทะลุเข้าเขตโทษ แต่จังหวะยิงบอลไปติดปลายมือ แคสเปอร์ ชไมเคิล ผู้รักษาประตูเลสเตอร์ ทำให้บอลแฉลบเปลี่ยนทาง ก่อนที่กองหลังจะตามมาเคลียร์บอลพ้นอันตรายไปได้
หลังจากนั้น รูปเกมสู้กันอย่างสนุก นาที 36 ฮาร์วีย์ บาร์นส์ เปิดบ้านจากกราบซ้ายให้ เจมี่ วาร์ดี้ ได้โขก แต่บอลไปตรงตัว อลีสซง
ถัดมานาที 42 เลสเตอร์เกือบได้เฮเมื่อ เจมส์ แมดดิสัน เปิดบอลไปข้างหน้า โอซาน คาบัค สกัดไม่ดี บอลมาเข้าทาง เจมี่ าร์ดี้ หลุดเข้าไปกดด้วยขวาในเขตโทษ บอลพุ่งชนคานออกหลังไป ทำให้จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0
กลับมาลงสนามครึ่งหลัง ทั้งสองทีมยังเปิดเกมแลกใส่กันเช่นเดิม นาที 57 ลิเวอร์พูลเกือบได้ประตูขึ้นนำเมื่อ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ได้ปั่นฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลา บอลไปแฉลบกำแพงเล็กน้อย ก่อนจะพุ่งย้อยไปชนคาน ชวดได้ประตูอย่างน่าเสียดาย
GOAL!! เกมมาถึงนาที 67 ลิเวอร์พูลยิงขึ้นนำได้สำเร็จจากจังหวะที่ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดบอลเรียดจากกราบขวามาถึง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ได้บอลในเขตโทษ แต่โดนแนวรับเลสเตอร์บังทางเอาไว้ ดาวยิงทีมชาติบราซิลจึงหมุนตัวคลึงบอลคืนหลังมาให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้แปเล่นทาง ส่งบอลพุ่งเข้าเสาไกลเป็นประตู 1-0 ของทีมหงส์แดง
GOAL!! อย่างไรก็ตาม เลสเตอร์มาตามตีเสมอ 1-1 ได้ในนาทีที่ 78 เมื่อได้ลูกฟรีคิกทางฝั่งซ้าย เจมส์ แมดดิสัน รับหน้าที่ปั่นด้วยขวา บอลทะลุผ่านผู้เล่นทั้งสองทีมเข้าประตูไปเลย
GOAL!! ต่อมานาที 81 เลสเตอร์แซงขึ้นนำจากลูกเปิดยาวไปหน้าเขตโทษลิเวอร์พูล อลีสซง เบคเกอร์ วิ่งออกมาพยายามเคลียร์บอล แต่เตะไปติด โอซาน คาบัค ที่วิ่งเข้าหาบอลเช่นกัน ทำให้บอลตกมาเข้าทาง เจมี่ วาร์ดี้ ได้ส้มหล่น พาบอลเข้าไปยิงง่ายๆแซงนำเป็น 2-1
GOAL!! และถัดมาอีก 4 นาที สกอร์ก็ขยับไปเป็น 3-1 จากจังหวะที่ลิเวอร์พูลทำพลาดเสียบอลบริเวณกลางสนาม วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ จ่ายให้ ฮาร์วีย์ บาร์นส์ หลุดเข้าเขตโทษ ก่อนยิงเสียบเสาไกลเข้าไป และเป็นประตูปิดท้ายให้ เลสเตอร์ แซงกลับมาชนะ 3-1 ขณะที่ ลิเวอร์พูล แพ้เป็นเกมที่ 3 ติดต่อกันแล้ว ต่อจากการแพ้ไบรท์ตัน 0-1 และแพ้แมนฯ ซิตี้ 1-4 ในสองนัดก่อนหน้านี้
คลิปไฮไลท์ พรีเมียร์ : เลสเตอร์ - ลิเวอร์พูล
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนาม
เลสเตอร์ ซิตี้ : แคสเปอร์, ชไมเคิ่ล, จอนนี่ อีแวนส์, คากลาร์ โซยุนชู, ดาเนียล อมาร์ตีย์, ริคาร์โด้ เปไรร่า, มาร์ค อัลไบรท์ตัน, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, ยูริ ตีเลอมันส์, ฮาร์วีย์ บาร์นส์, เจมส์ แมดดิสัน , เจมี่ วาร์ดี้
ลิเวอร์พูล : อลีสซง เบคเกอร์, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โอซาน คาบัค, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, เจมส์ มิลเนอร์, เคอร์ติส โจนส์, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
>> พรีวิว พรีเมียร์ลีก : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ VS สเปอร์ส พร้อมลิ้งก์ดูบอลสด
>> เคลียร์คิวรอ!! ตารางถ่ายทอดสด พรีเมียร์ลีก 2020/21 ทุกคู่ พร้อมลิ้งก์ดูบอล
---------------------------------
ดูสดฟรี!! ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ทุกสัปดาห์ พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม ต้อง App TrueID เท่านั้น
รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ >> คลิกที่นี่
เก็งไม่มีพลาด! ฟันธงคู่ไหนเด็ด! เจาะลึกก่อนเกมพรีเมียร์ลีก สมัครทาง SMS พิมพ์ R1 ส่งมาที่ 4238066 หรือคลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างนี้ ใช้ฟรี 7 วัน!!!!