'อลีสซง'แจกโชค 2 ต่อ! ซิตี้ โหดจัดบุกไล่ยำ หงส์แดง ดับสนิทคารัง 4-1 (ชมคลิปไฮไลท์)
ทีมแชมป์เก่า อาการยังคงย่ำแย่อย่างหนัก และน่าเป็นห่วงแบบสุดๆ หลังพ่ายคาถิ่นแอนฟิลด์ 3 นัดรวดในลีก โดยจุดเปลี่ยนของเกมนี้เกิดขึ้น เมื่อ อลีสซง เบ็คเกอร์ เปิดบอลพลาด 2 จังหวะซ้อน ทำให้เสีย 2 ประตู ในช่วงเวลาห่างกันเพียง 3 นาที ช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกถล่ม ลิเวอร์พูล ไปแบบขาดลอย 4-1 เก็บชัยชนะในลีกเป็นนัดที่ 10 ติดต่อกันได้สำเร็จ พร้อมนำเป็นจ่าฝูงต่อไป
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2020/21 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564 "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดสนาม แอนฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้
นาที 24 เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดบอลจากกราบขวาเข้าเขตโทษให้ ซาดิโอ มาเน่ ได้โขกเต็มๆ แต่บอลลอยข้ามคานออกหลังไป
จากนั้น นาที 29 โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ได้จังหวะยิงด้วยขวาแบบไม่จับ บอลเกือบจะมุดใต้คานอยู่แล้ว แต่ เอแดร์ซอน พุ่งปัดบอลออกหลังไปได้
NO GOAL!! นาที 37 ทีมเยือนได้ลูกโทษ จากจังหวะที่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กระชากบอลเข้าเขตโทษ แล้ว ฟาบินโญ่ ทำฟาวล์ ทว่า อิลคาย กุนโดกัน กลับยิงโด่งข้ามคานไปแบบน่าผิดหวัง ทำให้ ซิตี้ พลาดได้ประตูขึ้นนำ
นาที 45 ซาดิโอ มาเน่ ได้โขกลูกเปิดมุม แต่บอลลอยไปเข้ามือ เอแดร์ซอน
ทำให้จบครึ่งเวลาแรก ทั้ง 2 ทีมยังทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกันอยู่ที่ 0-0
GOAL!! ทว่า ครึ่งหลัง นาที 49 เรือใบสีฟ้า มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ลากเลื้อยเข้าเขตโทษ ก่อนจ่ายเข้ากลางให้ ฟิล โฟเด้น ได้ยิงเน้นๆ แม้ อลีสซง เบ็คเกอร์ จะปัดบอลไว้ได้ แต่บอลกลับกระดอนไปเข้าทาง อิลคาย กุนโดกัน ได้ซ้ำแบบจ่อๆ บอลพุ่งตุงตาข่าย ส่งให้ ซิตี้ ออกนำ 1-0
ต่อมา นาที 55 เคอร์ติส โจนส์ ลองยิงด้วยซ้ายจากหน้าเขตโทษ แต่บอลลอยโด่งข้ามคานออกไป
นาที 58 โจนส์ ได้โอกาสยิงในเขตโทษบ้าง ทว่าคราวนี้ไปแฉลบแนวรับซิตี้ ทำให้บอลหลุดเสาไกลออกไปนิดเดียว
GOAL!! แต่แล้ว นาที 63 เจ้าถิ่นมาได้ลูกโทษบ้าง เมื่อ รูเบน ดิอาส เหนี่ยวแขน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ล้มลงในเขตโทษ ก่อนที่ ซาลาห์ จะลุกขึ้นมาสังหารจุดโทษ เข้าประตูไปแบบไม่พลาด ทำให้หงส์แดงตามตีเสมอเป็น 1-1
นาที 69 แบร์นาโด้ ซิลวา วิ่งเข้าซัดบอลที่หลุดออกมาหน้าเขตโทษ แต่บอลก็ยังไม่ตรงกรอบ
NO GOAL!! จากนั้น นาที 71 ฟิล โฟเด้น เปิดบอลเข้าเขตโทษ จอห์น สโตนส์ ส่งบอลเข้าประตูไป แต่ไลน์แมนยกธงเป็นลูกล้ำหน้า ทำให้ซิตี้ไม่ได้ประตู
GOAL!! แต่ต่อมา นาที 73 เรือใบสีฟ้า ก็ได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งจนได้ อลีสซง เบ็คเกอร์ เปิดบอลพลาด ฟิล โฟเด้น ตัดบอลได้ ก่อนจะกระชากบอลเข้าเขตโทษ แล้วจ่ายเข้ากลางให้ อิลคาย กุนโดกัน แปจากระยะเผาขน บอลพุ่งเช็ดคานล่างเข้าประตูไป ซิตี้ ขึ้นนำอีกครั้งที่ 2-1
GOAL!! นาที 76 เรื่องเหลือเชื่อก็เกิดขึ้น เมื่อ อลีสซง เบ็คเกอร์ ส่งบอลพลาดอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้ไปเข้าทาง แบร์นาโด้ ซิลวา ก่อนที่เขาจะยกบอลข้ามหัว อลีสซง ไปเสาสอง ให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ล้มตัวพุ่งโหม่ง จากระยะเพียงหลาเดียวเข้าประตูไปอย่างง่ายดาย ทีมเยือน หนีห่างไปเป็น 3-1
GOAL!! นาที 83 ประตูที่ 4 ของ ซิตี้ ก็มาจนได้ ฟิล โฟเด้น เลี้ยงหักเข้ากลาง แล้วซัดด้วยซ้ายแบบเต็มข้อ บอลพุ่งแรงแสกหน้า อลีสซง เบ็คเกอร์ พุ่งเข้าประตูชนิดตาข่ายแทบขาด เรือใบ นำ 4-1
ทำให้จบเกมการแข่งขัน เป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่บุกถล่ม ลิเวอร์พูล ไปแบบขาดลอย 4-1 เก็บ 3 คะแนน ทำให้มีเพิ่มเป็น 50 แต้ม จาก 22 นัด ยังคงรั้งจ่าฝูง โดยนำหน้า แมนยู รองจ่าฝูง 5 แต้ม อีกทั้งยังลงแข่งน้อยกว่า 1 นัด ขณะที่ หงส์แดง ยังหยุดที่ 40 แต้ม จาก 23 นัด รั้งอันดับ 4 ของตารางตามเดิม
คลิปไฮไลท์ พรีเมียร์ : ลิเวอร์พูล - แมนฯ ซิตี้
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนาม
ลิเวอร์พูล : อลีสซง เบ็คเกอร์ (GK), เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, เคอร์ติส โจนส์, ติอาโก้ อัลคันทาร่า, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : เอแดร์ซอน โมราเอส (GK), ชูเอา คันเซโล่, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, โรดรี้, อิลคาย กุนโดกัน, แบร์นาโด้ ซิลวา, ริยาด มาห์เรซ, ฟิล โฟเด้น, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
>> พรีวิว พรีเมียร์ลีก : เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด VS เชลซี พร้อมลิ้งก์ดูบอลสด
>> มี‘เคน’-มีเฮ!! สเปอร์ส คืนฟอร์ม เปิดรังถลุง เวสต์บรอมวิช 2-0 (ชมคลิปไฮไลท์)
ดูสดฟรี!! ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ทุกสัปดาห์ พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม ต้อง App TrueID เท่านั้น
รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ >> คลิกที่นี่
เก็งไม่มีพลาด! ฟันธงคู่ไหนเด็ด! เจาะลึกก่อนเกมพรีเมียร์ลีก สมัครทาง SMS พิมพ์ R1 ส่งมาที่ 4238066 หรือคลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างนี้ ใช้ฟรี 7 วัน!!!!