รีเซต
Look Back! ลิเวอร์พูล ได้ใครหลังขาย หลุยส์ ซัวเรซ

Look Back! ลิเวอร์พูล ได้ใครหลังขาย หลุยส์ ซัวเรซ

Look Back! ลิเวอร์พูล ได้ใครหลังขาย หลุยส์ ซัวเรซ
Supanat
8 มกราคม 2561 ( 18:36 )
8.4K

ลิเวอร์พูลเตรียมรับเงินก้อนใหญ่ถึง 142 ล้านปอนด์หลังขาย ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ให้บาร์เซโลน่า แต่ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยได้เงินก้อนโตจากการขายหลุยส์ ซัวเรซ ให้บาร์ซ่ามาแล้วเช่นกัน

“คูตี้” ย้ายไป อาซูลกราน่า ด้วยค่าตัว 146 ล้านปอนด์ ทำให้เขากลายเป็นนักเตะลิเวอร์พูล คนที่ 2 ในรอบ 3 ปีครึ่งที่ “หงส์แดง” ทำเงินได้มหาศาลจากบาร์เซโลน่า

ย้อนไปไม่กี่เดือนในฤดูกาล 2013/2014 หลัง ซัวเรซ พาลิเวอร์พูลเข้าใกล้ถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกมาที่สุดในประวัติศาตร์ครั้งหนึ่ง เขามีข่าวมเชื่อมโยงว่าอยากย้ายไปเล่นร่วมกัน ลีโอเนล เมสซี่ และเนย์มาร์ ผลสรุปด้วยการที่บาร์ซ่า ยอมจ่ายเงิน 75 ล้านปอนด์ซึ่งเป็นราคานักเตะที่แพงที่สุดอันดับ 3 ดึงดาวยิงชาวอุรุกวัยไปใช้งาน

การสูญเสีย หลุยส์ ซัวเรซ ทำให้ลิเวอร์พูลเสียกำลังหลักไป แต่ด้วยค่าตัวมหาศาลทำให้ แบรนแดน ร็อดเจอร์ส เฮดโค้ชของ ลิเวอร์พูลในตอนนั้น เลือกเซ็นผู้เล่นหน้าใหม่ 9 คนรวมแล้วเป็นเงินกว่า 115 ล้านปอนด์ ส่วนเซ็นมาแล้วใครรุ่งใครร่วง ลองไล่กันไปดูทีละคน

อดัม ลัลลาน่า – 25 ล้านปอนด์ (เซาแธมป์ตัน)
ลงเล่น – 130 นัด

ผู้เล่นที่แพงที่สุดที่ “เรด แมชชีน” เซ็นมาในปี 2014 หลังการขายซัวเรซ ในช่วงที่อยู่กับเซาแธมป์ตัน ลัลลาน่า โชว์ผลงานได้อย่างน่าประทับใจ และคว้ารางวัลทีมยอมเยี่ยมประจำปี ภายใต้การคุมทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่

แต่หลังการย้ายมาในถิ่นเมอร์ซี่ไซด์ ลัลลาน่า พยายามสร้างความแตกต่างให้กับทีมใหม่แห่งนี้ แต่ด้วยฟอร์มการเล่นที่ไม่น่าประทับและอาการบาดเจ็บ ทำให้เขาเปิดตัวกับ “หงส์แดง” ได้ไม่สวยนัก แต่หลังการเข้ามาของ เจอร์เกน คล็อปป์ ลัลลาน่า กลับมาเป็นกำลังหลักให้กับทีมได้อีกครั้ง ยิ่งการขาดหายไปของ คูตินโญ่ จะเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้ตำแหน่งหน้าที่ของกองกลางรายนี้มีความสำคัญมากขึ้น

เดยัน ลอฟเรน – 20 ล้านปอนด์ (เซาแธมป์ตัน)
ลงเล่น – 133 นัด

การเสียถึง 50 ประตูในฤดูกาล 2013/2014 เป็นสัญญาณบอกให้ ร็อดเจอร์ส ต้องปรับปรุงแนวรับ และเขาเลือก ลอฟเรน ในราคา 20 ล้านปอนด์ กองหลังกองหลังชาวโครเอเชีย ยกระดับแผงรับของเซาแธมป์ตัน ในฤดูกาลก่อนหน้านี้ และยังเป็นปีแรกกับฟุตบอลอังกฤษของลอฟเรนด้วย

ลอฟเรน เป็นผู้เล่นอีกคนที่ไม่สามารถสร้างความประทับใจให้กับเหล่าเดอะค็อป ได้ด้วยฟอร์มการเล่น 3 วันดี 4 วันไข้ทำให้เขาถูกนั่งเป็นตัวสำรองบ่อยครั้ง และในฤดูกาลล่าสุด ลอฟเรนต้องต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งตัวจริงยากขึนไปอีก หลังต้นสังกัดเซ็น เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค มาจากสโมสรเดิมของเขา

ลาซาร์ มาร์โควิช – 20 ล้านปอนด์ (เบนฟิก้า)
ลงเล่น – 34 นัด

หนึ่งในผู้เล่นสุดเซอร์ไพรส์ ของร็อดเจอร์ส ด้วยการนำปีกดาวรุ่งชาวเซอร์เบีย ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักนักในวัย 20 ปี เข้าสู่ทีม มาร์โควิช ช่วยเบนฟิก้า คว้า 3 แชมป์ แต่นั่นก็เป็นเพียงฤดูกาลเดียวและฤดูกาลแรกของเขาในโปรตุเกส

ในปีแรกกับลิเวอร์พูล มาร์โควิช ได้รู้จักความโหดร้ายของพรีเมียร์ลีก หลังทำได้เพียง 3 ประตูจาก 34 เกมในปีแรก ก่อนจะโดนปล่อยยืมให้กับ เฟเนร์บาห์เช่, สปอร์ติ้ง ลิสบอน, ฮัลล์ ซิตี้ และกลับมาอยู่กับลิเวอร์พูลในฤดูกาลล่าสุด โดยที่ยังไม่ได้ลงล่นแม้แต่เกมเดียว

มาริโอ บาโลเตลลี่ – 15 ล้านปอนด์ (เอซี มิลาน)
ลงเล่น – 28 นัด

แม้สไตล์การเล่นจะไม่เหมือนกับหลุยส์ ซัวเรซ การบาโลเตลลี่ ยังพอจะการันตีประตูได้ หลังยิงให้มิลานไป 30 ประตูจากการลงเล่น 54 เกม

“การเซ็นสัญญาที่คุ้มค่าที่สุดของเลิเวอร์พูล” คือหนึ่งในเสียงชื่นชมจากการใช้เงินเพียง 15 ล้านปอนด์ดึง “เกรียนโอ้” เข้าสู่ทีม

แต่ผลงานในลีกพิสูจน์แล้วว่าลิเวอร์พูล คิดผิด มาริโอ บาโลเตลลี่ ยิงได้เพียง 4 ประตูตลอดการเล่นในลิเวอร์พูล ก่อนจะโดยปล่อยืมกลับไป เอซี มิลาน และปล่อยฟรีไป นีซ ในปี 2016

อัลเบร์โต้ โมเรโน่ – 12 ล้านปอนด์ (เซบีย่า)
ลงเล่น – 129 นัด

จิ๊กซอว์ ชิ้นสุดท้ายของลิเวอร์พูลในตลาดซื้อขายปีนั้น หลังเจ้าตัวโชว์ฟอร์มโหดกับเซบีย่า ในการมีส่วนพาทีมคว้าแชมป์ยูโรป้า ลีก แบ็คซ้ายวัย 22 ปีในตอนนั้น ถูกลิเวอร์พูลมองเอาไว้ว่าจะมาเป็นกำลังสำคัญในระยะยาวให้กับทีม และโมเรโน่ ก็ทำผลงานได้ดีกับการเริ่มต้นเล่นในอังกฤษ รวมถึงยิงได้ในนักที่ 2 ของตนกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

แต่โมเรโน่ ไม่สามารถรักษาความคงเส้นคงวาของตัวเองเอาไว้ได้ และค่อยๆ หลุดจากการเป็นตัวจริงของลิเวอร์พูล ทั้งยังโดน เจมส์ มิลเนอร์ แบ็คจำเป็นยึดตำแหน่งไปอีก

แต่ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ หลังแบ็คชาวสเปนเรียกความฟิตและฟอร์มกลับเข้าฝั่ง และยึดตัวจริงคืนได้ในซีซั่นนี้

ดิว็อค โอริกี้ – 10 ล้านปอนด์ (ลีลล์)
ลงเล่น – 77 นัด

“ซื้อเพื่ออนาคต” เป็นคำนิยามตอนนั้นสำหรับดีล โอริกี้ หลังโชว์ฟอร์มดีในฟุตบอลโลก 2014 กับเบลเยี่ยม และลิเวอร์พูลปล่อยให้ดาวยิงรายนี้เล่นต่อให้ลีกเอิงต่ออีก 1 ปี

โอริกี้ กลับมาลิเวอร์พูลด้วยการมีชื่อติดทีมยอดแย่ของลีกเอิง และอยู่ในฐานะตัวสำรองของลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมแบรนแดน ร็อดเจอร์ส ก่อนจะให้รับโอกาสมากขึ้นหลังการเข้ามาของคล็อปป์

แต่เขาไม่สามารถเรียกฟอร์มการเล่นที่ดีออกมาได้ ประกอบกับการยิงประตูอันถล่มทลายของ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ทำให้ชื่อโอริกี้ กลับไปนั่งเป็นตัวสำรองอีกครั้ง ก่อนจะโดนปล่อยออกไปให้โวล์ฟสบวร์ก ยืมตัวในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะที่ผ่านมา

เอ็มเร่ ชาน – 10.5 ล้านปอนด์ (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น)
ลงเล่น – 155 นัด

ความมุ่งมั่น ดุดัน และทะลุทะลวงของ ชาน ทำให้เป็นเขาเป็นผู้เล่นที่ได้รับเสียงตอบรับอย่างดียามย้ายเข้ามาเล่นในแอนฟิลด์ ชานปรับตัว จนกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญในทีม “หส์แดง” อย่างรวดเร็ว และเป็นกองกลางตัวหลังในยุดคล็อปป์

แต่สุดท้ายแล้ว ตลอดเกือบ 2 ปีที่เล่นให้กับยอดทีมเมอร์ซี่ไซด์ ชานกลับเลือกที่จะไม่ต่อสัญญากับทีม และน่าจะย้ายออกไปซบ ยูเวนตุส ในหลังจบฤดูกาลนี้

ริคกี้ แลมเบิร์ต – 4 ล้านปอนด์ (เซาแธมป์ตัน)
ลงเล่น – 36 นัด

แฟนหงส์ในวัยเด็ก แลมเบิร์ต ทำตามความฝันของตัวเองด้วยการย้ายมาเล่นในแอนฟิลด์ ตามเพื่อมร่วมทีมอย่าง ลัลลาน่า และลอฟเรน

การย้ายเข้ามาในฐานะตัวสำรอง ทำให้โอกาสของแลมเบิร์ต ค่อนข้างน้อย และยิงได้เพียง 3 ประตู ตลอดซีซั่นเดียวของเขากับลิเวอร์พูล

ฆาเบียร์ มานกีโย่ – ยืมพร้อมออปชั่นซื้อขาด (แอตเลติโก้ มาดริด)
ลงเล่น – 19 นัด

มานกีโย่ ย้ายเข้ามาด้วยความหวัง พร้อมกับลงเล่นย้ายต่อเนื่องในช่วงแรก แต่หลังผ่านการลงเล่น นัดที่ 10 ในกับ “ลิเวอร์พูล” ชื่อของมานกีโย่ หายไปจากสารบบ อย่างสิ้นเชิง

หลังหมดสัญญากลับไป แอตเลติโก้ มาดริด มานกีโย่ถูกส่งยืมต่อให้ มาร์กเซย และซันเดอร์แลนด์ ตามลำดับ ก่อนจะมาลงเอยกับ นิวคาสเซิ่ล ในฤดูกาลล่าสุด

 

ดูบอลสดออนไลน์ผ่านเว็บที่นี่ และติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้