รีเซต
Sports Profile : ประวัติ เอดินสัน คาวานี่ อีกหนึ่งอาวุธลับของทัพปีศาจแดง

Sports Profile : ประวัติ เอดินสัน คาวานี่ อีกหนึ่งอาวุธลับของทัพปีศาจแดง

Sports Profile : ประวัติ เอดินสัน คาวานี่ อีกหนึ่งอาวุธลับของทัพปีศาจแดง
KiTTiSaK
9 พฤษภาคม 2564 ( 22:00 )
5.1K

ข้อมูลและประวัติล่าสุดของ เอดินสัน คาวานี่ หัวหอกจอมเก๋าประสบการณ์สูง ซึ่งเข้ามาเป็นหนึ่งในอีกอาวุธสำคัญในเกมรุกของแมนฯ ยูไนเต็ด


ข้อมูลนักเตะ
 

  • ชื่อเต็ม : เอดินสัน โรแบร์โต้ คาวานี่ โกเมซ
  • เกิด : 14 ก.พ. 1987 ที่เมืองซัลโต้ ประเทศอุรุกวัย
  • อายุ : 33 ปี
  • สัญชาติ : อุรุกวัย
  • ตำแหน่ง : กองหน้า
  • ส่วนสูง : 184 เซนติเมตร

เส้นทางลูกหนัง

คาวานี่เติบโตมาจากทีมเยาวชนของ ดานูบิโอ สโมสรในบ้านเกิด ก่อนจะโชว์ฝีเท้าได้อย่างโดดเด่นในศึกฟุตบอล ยู-20 ชิงแชมป์อเมริกาใต้ ปี 2007 ซึ่ง คาวานี่ พาอุรุกวัยจบอันดับ 3 ของทัวร์นาเมนต์ พร้อมกับครองตำแหน่งดาวซัลโว ด้วยผลงานกดไปถึง 7 ประตู ทำให้เขาตกเป็นเป้าหมายที่หลายสโมสรดังในยุโรปจ้องกระชากตัวไปร่วมทีม

สุดท้ายเป็น ปาแลร์โม่ ทีมดังในศึกกัลโช เซเรียอา ที่ได้ลายเซ็นคาวานี่ไปครอง ด้วยค่าตัวราว 4.5 ล้านยูโน เมือเดือนม.ค. 2007 ซึ่งในช่วงแรก เจ้าหนูคาวานี่ ในวัยเพิ่ง 20 ปี ต้องอาศัยเวลาปรับตัวสักระยะ และยังไม่ได้ระเบิดฟอร์มเปรี้ยงปร้างเท่าใดนัก

กระทั่งฤดูกาล 2008-2009 คาวานี่เริ่มฉายแววยอดศูนย์หน้า ก่อนจะประสานงานร่วมกับ ฟาบริซิโอ มิคโคลี่ และยิงไปถึง 14 ประตูในซีซั่นดังกล่าว พร้อมกับได้รับฉายาว่า “เอล มาทาดอร์” จากสไตล์การจบสกอร์ที่เฉียบขาด และสัญชาตญาตในการพังประตูที่ยอดเยี่ยม โดย คาวานี่ เผยว่าเขามี กาเบรียล บาติสตูต้า ตำนานหัวหอกทีมชาติอาร์เจนตินา เป็นไอดอลในการไล่ล่าตาข่าย

“บาติสตูต้าไม่เหมือนกองหน้าทั่วๆไป เขาเป็นนักฟุตบอลที่ทรงพลัง และมีประสิทธิภาพในหน้ากรอบประตูที่เหลือเชื่อ ซึ่งผมพยายามที่จะเลียนแบบเขาอยู่เสมอ” 

ฤดูกาลต่อมา คาวานี่ ยังรักษามาตรฐานฝีเท้าเอาไว้ได้เช่นเดิม หลังจากซัดไป 13 ประตู ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดา เมื่อเทียบกับการอยู่ในสโมสรอย่างปาแลร์โม ก่อนที่ นาโปลี จะจัดการยืมตัว คาวานี่ ไปร่วมทีม ด้วยค่ายืม 5 ล้านยูโร พร้อมกับมีออปชั่นซื้อขาด 12 ล้านยูโร

และเมื่อได้ย้ายมาอยู่กับทีมที่มีศักยภาพสูงขึ้น คาวานี่ก็ระเบิดฟอร์มสุดโหดด้วยการซัดไปถึง 26 ประตูในศึกเซเรียอา 2010-2011 ทำให้ นาโปลี ใช้ออปชั่นซื้อ คาวานี่ เข้าส่ทีมแบบถาวรทันที จากนั้นปีต่อมา คาวานี่ กดไปอีก 23 ลูก จนมาพีกสุดในซีซั่น 2012-2013 ซึ่งดาวยิงทีมชาติอุรุกวัย ตะบันไปทั้งสิ้น 29 ประตู ครองตำแหน่งดาวซัลโวเซเรียอาได้อย่างสุดยอด

จากนั้นปีต่อมา คาวานี่ได้เปลี่ยนสีเสื้ออีกครั้ง โดยย้ายไปล่าตาข่ายให้กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในฤดูกาล 2013-2014 ด้วยค่าตัวสูงถึง 64 ล้านยูโร ซึ่งเป็นสถิตินักเตะค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ลีกเมืองน้ำหอมในขณะนั้น

ภายใต้ยูนิฟอร์มเปแอสเช คาวานี่ยังคงผลิตสกอร์ได้เป็นกอบเป็นกำ และประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยคว้าแชมป์ลีกเอิงได้ถึง 6 สมัย พร้อมกับครองดาวซัลโว 2 ปีซ้อน หลังจากกดไป 35 ลูกในฤดูกาล 2016-2017 และยิงอีก 28 ประตู ในฤดูกาล 2017-2018

คาวานี่ค้าแข้งกับเปแอสเชเป็นเวลาทั้งสิ้น 7 ฤดูกาล พร้อมกับทำผลงานยิงไป 200 ประตูจากการลงสนาม 301 นัดในทุกรายการ ก่อนที่เจ้าตัวจะหมดสัญญากับยักษ์ใหญ่แห่งลีกเอิง และย้ายมาร่วมทัพ “ปีศาจแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2020-2021 แต่ คาวานี่ ในวัย 33 ปี ก็ถูกตั้งคำถามว่าจะเอาตัวรอดได้ดีแค่ไหนในสังเวียนแข้งอันหฤโหดอย่างพรีเมียร์ลีก

แต่ “เอล มาทาดอร์” ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขายังคงมีพิษสงเช่นเดิม หลังจากเบิกสกอร์แรกในพรีเมียร์ลีกได้ในเกมที่บุกไปชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-1 เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ก่อนจะมาสวมบทซูเปอร์ซับด้วยการลงมายิง 2 จ่าย 1 ช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งตกเป็นรอง เซาธ์แฮมป์ตัน 0-2 ในครึ่งแรก พลิกกลับมาคว้าชัยได้อย่างระทึกใจ 3-2 เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่สนามเซนต์ แมรี่ส์

หลังจากนั้น คาวานี่ อาศัยความเก๋าและประสบการณ์ช่วยแมนฯ ยูไนเต็ดได้เป็นอย่างมาก โดยมีสถิติการยิงประตูเป็นรองเพียงแค่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส และ มาร์คัส แรชฟอร์ด เท่านั้น แต่ในขณะเดียวกัน แฟนผีแดงก็ต้องลุ้นหนักกับอนาคตของคาวานี่ เนื่องจากเจ้าตัวเซ็นสัญญากับทีมปีศาจแดงแค่ปีเดียว และมีข่าวลือหนาหูว่าเขาอยากย้ายไปล่าตาข่ายช่วงปลายอาชีพค้าแข้งให้กับ โบคา จูเนียร์ส ซึ่งเป็นสโมสรโปรดของเขาตั้งแต่วัยเด็ก

อย่างไรก็ตาม แฟนผีแดงได้เฮสนั่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด และ คาวานี่ บรรลุข้อตกลงต่อสัญญาอยู่ค้าแข้งกับทีมต่อไปอีก 1 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ผลงานในทีมชาติ 

คาวานี่ลงสนามให้กับทีมชาติอุรุกวัยชุดใหญ่นัดแรก ในปี 2008 ด้วยวัย 21 ปี และหลังจากนั้นก็เป็นกำลังสำคัญของทีม “จอมโหด” มาตลอดในทุกๆทัวร์นาเมนต์สำคัญ

คาวานี่ผ่านเกมฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายกับทีมชาติอุรุกวัยมาแล้วถึง 3 สมัย เริ่มตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2010 ซึ่ง อุรุกวัย จบอันดับ 4 จากนั้นฟุตบอลโลก 2014 เข้าถึงรอบ 16 ทีม และฟุตบอลโลก 2018 เข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย

ขณะเดียวกัน คาวานี่ ยังเป็น 1 ใน 3 แข้งโควต้าอายุเกินร่วมกับ หลุยส์ ซัวเรซ และ เอกิดิโอ ริออส ลุยศึกฟุตบอลโอลิมปิก “ลอนดอน เกมส์ 2012” อีกด้วย แต่ อุรุกวัย จอดป้ายที่รอบแบ่งกลุ่มเท่านั้น 

ส่วนอีกหนึ่งรายการสำคัญอย่าง ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอเมริกาใต้ “โคปา อเมริกา” คาวานี่เคยได้สัมผัสแชมป์มาแล้วหนึ่งสมัย ในปี 2011 ซึ่งอุรุกวัยชุดนั้นเต็มไปด้วยแข้งดาวดัง โดยนอกจากคาวานี่แล้ว ยังมีทั้ง เฟอร์นานโด มุสเลร่า, มาร์ติน กาเซเรส, ดิเอโก้ โกดิน, หลุยส์ ซัวเรซ และดิเอโก้ ฟอร์ลัน 

เกียรติประวัติ

นาโปลี : 

แชมป์โคปปา อิตาเลีย ฤดูกาล 2011-12

ดาวซัลโวเซเรียอา 29 ประตู ฤดูกาล 2012-13

หนึ่งในผู้เล่นทีมยอดเยี่ยมเซเรียอา ฤดูกาล 2010-11, 2011-12,  2012-13

เปแอสเช :

แชมป์ลีกเอิง 6 สมัย, แชมป์เฟร้นช์คัพ 4 สมัย, แชมป์เฟร้นช์ ลีกคัพ 5 สมัย

ดาวซัลโวลีกเอิง 35 ประตู ฤดูกาล 2016-17

ดาวซัลโวลีกเอิง 28 ประตู ฤดูกาล 2017-18

ผู้เล่นยอดเยี่ยมลีกเอิง ฤดูกาล 2016-17

ผู้เล่นต่างชาติยอดเยี่ยมลีกเอิง 2017

หนึ่งในผู้เล่นทีมยอดเยี่ยมลีกเอิง ฤดูกาล 2013-14, 2016-17, 2017-18 

ทีมชาติอุรุกวัย :

แชมป์โคปา อเมริกา 2011

"111"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

>> Sports Profile : ประวัติ บรูโน่ เฟอร์นันเดส ชายผู้เป็นความหวังใหม่ของ แมนยู

>> Sports Profile : ประวัติ แกเร็ธ เบล ดาวเตะระดับปรากฏการณ์ของเวลส์

----------------------------------

ดูสดฟรี!! ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ทุกสัปดาห์ พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม ต้อง App TrueID เท่านั้น

รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ >> คลิกที่นี่

อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! bit.ly/2PsYXMG หรือ กด *301*32# โทรออก

ยอดนิยมในตอนนี้