ก่อนอื่นใคร่ขอพูดถึง บุคคลสำคัญผู้หนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการแข่งครั้งที่เท่าไร ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก็อยู่ในบุคลิกมาดสุขุม นุ่มลึก ทุกครั้ง อาจจะสวนทางกับ ฉายาที่เขาได้มา เมื่อครั้งที่ยังเป็นนักเตะว่า " เพชรฆาตหน้าเด็ก " แต่เชื่อว่า ในฐานะแม่ทัพของทีม ก็ต้องต่อสู้ บุกป่าฝ่าดง ไปกับเกมการแข่งขันในทุกๆ แมทช์ เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ ตลอดเส้นทาง หรือแม้แต่จะแค่เสมอ ก็ไม่ปรารถนา ผลงานล่าสุด ในเกมยูฟ่ายูโรป้าลีก นัดที่เจอกับ โรมา เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2564 ความเหนือชั้นของศูนย์หน้าฟอร์มเฉียบ อย่าง เอดินสัน คาวานี่ ได้แสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาผู้ชม ด้วยการแอ็สซิสท์ลูกแรก ผ่านไปให้ บรูโน่ เฟอร์นันเดซ ชิปหนีมือผู้รักษาประตู ลูกย้อยเข้าไปเป็นประตูแรก ให้แมนยูขึ้นนำ 1-0 เหมือนเริ่มให้ความมั่นใจกับแฟนบอลได้ว่า รูปการณ์ต่อไปในเกมนี้ ต้องดีแน่นอน และก็เป็นเช่นนั้นจริง เมื่อเกมจบลง เป็นฝ่ายเหล่าทีมปีศาจแดง ที่สามารถเก็บชัยชนะไปได้ เกินความคาดหมาย ด้วยประตูรวม 6-2 เป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้เล่นของแมนยู ที่เคยฟอร์มดร้อปลงในช่วงปีที่แล้ว ได้กลับมาเล่นอย่างทุ่มเท และสภาพร่างกายฟิตจัด อย่าง พอล ป็อกบา ซึ่งถึงแม้จะเป็นผู้ที่ทำให้เสียลูกจุดโทษ แต่ตลอดทั้งเกมก็ตั้งใจเล่นเป็นอย่างมาก จนสามารถเป็นคนหนึ่งที่ทำประตูได้ ในช่วงครึ่งเวลาหลัง นอกจากนี้แล้ว ผู้เล่นอีกคนที่มีส่วนช่วยให้กับทีมไม่น้อย กับการเป็นซุปเปอร์ซับอยู่บ่อยๆ ในฐานะตัวสำรอง พอได้ลงสนาม ก็ยังทำประตูเพิ่มให้กับทีมจนได้ ยังความปลาบปลื้มให้กับ น้าโอเล่ อย่างไม่ต้องสงสัย สิ่งที่ปรากฏให้เห็น ในผลงานของแมนยู ในฤดูกาลนี้ คือ การเรียกฟอร์มเก่งขึ้นมา เพื่อจะทวงความเป็นหนึ่งในยุทธภพก็ว่าได้ แต่กระดูกติดคอชิ้นโตในรอบนี้ ก็ไม่ใช่ใครอื่น เป็นเพื่อนร่วมเมืองแมนเชสเตอร์ ก็คือ แมนซิ นั่นเอง เพราะพวกเขากำลังเข้าใกล้ที่จะหยิบถ้วยแชมป์ อีกครั้ง ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ในเกมที่เหลืออีก 5 นัด ด้วยคะแนนทิ้งห่างจาก แมนยูถึง 10 แต้ม เลยทีเดียว ถึงกระนั้น ทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก็คงอยู่ในระดับที่พอใจตามสถานะ ที่จะครองอันดับ 2 ให้ได้ในตอนท้าย กระเตื้องขึ้นมาพอสมควรเมื่อเทียบจากซีซั่นก่อน มาถึง เกมแดงเดือด ที่จะมีขึ้นหลังจากการเลื่อนในวันที่ 2 พฤษภาคม 2564 ออกไป จะเป็นการพบกันกับคู่แห่งศักดิ์ศรีตลอดกาล หงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่ดูเหมือนจะอยู่ในฟอร์มต่ำกว่ามาตรฐาน เสมือนอาการเดียวกันกับ ปีศาจแดง เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ก็มิปาน รั้งอันดับ 6 ของตารางพรีเมียร์ลีกอังกฤษ อยู่ในขณะนี้ ทว่าหลายฝ่ายยังมองว่า เยอร์เกน คลอปป์ ผู้จัดการทีมหงส์แดง ยังไงก็ไม่ปล่อยให้คะแนนหลุดมือเป็นแน่ ด้วยศักดิ์ศรีและแรงกดดัน บวกกับสไตล์ออกแนวบู๊ ในเวลาบัญชาเกมอยู่ข้างสนาม เพราะต้องการให้ทีมไต่อันดับขึ้นไปอีก เพื่อได้สิทธิ์โควต้าไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก รายการใหญ่ที่สุดของเวทียุโรป สุดท้ายต้องมาลุ้นดูกันว่า ระหว่าง ปีศาจแดง กับ หงส์แดง ผลลงเอยจะเป็นเช่นไร ใครจะหมู่ ใครจะจ่า ใครจะได้เฮอย่างเริงร่าในวันนั้น ถ้าเป็นเจ้าบ้านแมนยู ก็ไม่น่าแปลกใจอะไร ด้วยความได้เปรียบที่ได้เล่นในสนามของตนเอง รวมถึงข่าวดีของ คาวานี่ ที่ตัดสินใจต่อสัญญาอีก 1 ปี จึงสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเพื่อนร่วมทีมอยู่บ้าง หรือจะเป็นทางฝั่งของผู้มาเยือน ที่มีความได้เปรียบตรงที่ ได้มีเวลาพักแข้ง มากกว่า ฉะนั้นเรื่องความสมบูรณ์ของร่างกาย จึงน่าจะโอเคกว่า อีกทั้งด้วยสกิลทักษะของผู้เล่นแต่ละคน ก็ไม่เป็นสองรองใคร อย่างที่แฟนบอลทั่วไปได้รับรู้ ขอขอบคุณ เครดิตรูปภาพหน้าปก และภาพประกอบที่ 1-3 จาก KiTTiSak โดย SportTrueID ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !