วิธีรักษาสิวฮอร์โมน สำหรับผู้ชาย แบบธรรมชาติ VS แบบใช้ยา
เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น สิวฮอร์โมน ก็กลายเป็นปัญหาหนักใจสำหรับหนุ่มๆ หลายคน นอกจากทำให้ขาดความมั่นใจสุดๆ แล้ว ยังส่งผลกระทบต่อสภาพผิวจนอาจกลายเป็นแผลเป็นในระยะยาวอีกด้วย เรามี วิธีรักษาสิวฮอร์โมน สำหรับผู้ชาย ทั้งแบบธรรมชาติ และ แบบใช้ยา มาฝากกัน ใครที่มีปัญหาสิวฮอร์โมนลองนำไปทำตามกันได้เลย
สิวฮอร์โมนผู้ชายคืออะไร?
สิวฮอร์โมนผู้ชาย เป็นสิวชนิดหนึ่งที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศชาย (แอนโดรเจน) โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่น ฮอร์โมนเพศชายที่เพิ่มสูงขึ้น มักกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมัน (ซีบัม) มากขึ้น ส่งผลให้เกิดสิวอุดตันและสิวอักเสบได้ง่าย
ลูกค้า True ใช้ทรูพอยท์ 0 คะแนน เป็นส่วนลดเมื่อช้อปผ่านเซ็นทรัลแอป
หมดเขต 31 มี.ค. 2567
ลักษณะของสิวฮอร์โมนผู้ชาย
- มักพบในผู้ชายวัยรุ่น อายุประมาณ 14-25 ปี
- มักเป็นสิวอุดตันหัวปิด สิวอักเสบตุ่มแดง สิวหัวหนอง และสิวซีสต์
- อาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น
- รู้สึกผิวมัน
- รูขุมขนกว้าง
- หน้ามันเยิ้ม
สาเหตุของสิวฮอร์โมนผู้ชาย
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศชาย (แอนโดรเจน)
- พันธุกรรม
- ความเครียด
- การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ
- อาหารบางชนิด เช่น อาหารที่มีน้ำตาลสูง อาหารที่มีไขมันสูง
- ยาบางชนิด เช่น ยาต้านเศร้า (Antidepressants) ยาลดความดันโลหิต (Blood pressure medications) ยาสเตียรอยด์ เป็นต้น
5 วิธีรักษาสิวฮอร์โมน ด้วยตัวเอง แบบธรรมชาติ
1. ทำความสะอาดผิวให้เหมาะสม
ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น ด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยน เช่น ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตรอ่อนโยน ปราศจากน้ำหอม สาร SLS และ SLES
รวมถึงมีค่า pH ใกล้เคียงกับผิว (ประมาณ 5.5) และหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิว เพราะจะทำให้เกิดการระคายเคืองได้
สิ่งสำคัญอีกข้อคือ หากคุณเจอมลพิษต่างๆ เช่น ฝุ่น ควัน หรือมีเหงื่อจากการออกกำลังกาย ก็ควรรีบทำความสะอาดผิว ไม่ปล่อยทิ้งไว้นาน เพราะจะเกิดการหมักหมมและอุดตัน ทำให้สิวเห่อยิ่งกว่าเดิมได้
2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ
มือของเราสัมผัสกับสิ่งต่างๆ มากมายตลอดทั้งวัน เต็มไปด้วยเชื้อแบคทีเรีย สิ่งสกปรก และน้ำมัน ดังนั้นเมื่อสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ เชื้อแบคทีเรียเหล่านี้ก่อให้เกิดสิวอุดตันและสิวอักเสบมากขึ้น นอกจากนิ้วมือแล้ว สิ่งที่คุณใช้สัมผัสบ่อยๆ ก็มีผลเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นมือถือ ผ้าขนหนู ปลอกหมอน ฯลฯ จึงควรทำความสะอาดก่อนนำมาสัมผัสใบหน้า หรือหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าให้มากที่สุด
3. เลือกอาหารที่ดีต่อผิว
อาหารนั้นสำคัญทั้งต่อผิวและต่อฮอร์โมนเพศ ลองมาดูกันว่าอาหารแบบไหนที่เหมาะ และแบบไหนที่คุณควรเลี่ยงบ้าง
อาหารที่ดีต่อผิวที่เป็นสิวฮอร์โมน:
- ผักและผลไม้: เพราะอุดมไปด้วยวิตามิน ซี อี สารต้านอนุมูลอิสระ และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ผิวแข็งแรง ตัวอย่างเช่น ผักใบเขียว มะเขือเทศ แครอท ฝรั่ง ส้ม กีวี เป็นต้น
- ธัญพืชไม่ขัดสี: เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ถั่วต่างๆ อุดมไปด้วยใยอาหาร ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดี และป้องกันท้องผูกได้ดี
- อาหารที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งมาก: ควรเลือกอาหารธรรมชาติมากกว่าอาหารที่ผ่านการแปรรูป เพราะมีสารอาหารที่ดีต่อผิวมากกว่า
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง สำหรับเป็นสิวฮอร์โมน:
- อาหารที่มีน้ำตาลสูง: น้ำอัดลม ขนมหวาน
- อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง: อาหารทอด อาหารแปรรูปที่มีไขมันสูง และไขมันทรานส์ต่างๆ
- อาหารที่มีโซเดียมสูง: ในที่นี้ไม่ใช่วัดกันที่รสเค็มเพียงอย่างเดียว เพราะอาหารหวานนำ หรือเปรี้ยวนำ ก็อาจมีโซเดียมในปริมาณสูงเช่นกัน จึงควรดูฉลากสินค้า หรือดูเครื่องปรุงของเมนูนั้นประกอบกันไปด้วย
- ผลิตภัณฑ์จากนม: นมวัว เนย ชีส
- คาเฟอีน: กาแฟ ชา ช็อกโกแลต
4. พักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนมีข้อดีสำหรับการรักษาสิวฮอร์โมนมากมาย เช่น
- ควบคุมฮอร์โมน: การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลให้ฮอร์โมนแอนโดรเจนเพิ่มสูงขึ้น จึงกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น และเจ้าน้ำมันส่วนเกินนี่เองที่ไปอุดตันรูขุมขน ก่อให้เกิดสิวอุดตัน หรือลุกลามกลายเป็นสิวอักเสบตามมาได้
ลดการอักเสบ: การนอนหลับพักผ่อนเพียงพอ ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ทำให้สิวหายเร็วขึ้น
ซ่อมแซมผิว: ในขณะที่เรานอนหลับ ร่างกายจะซ่อมแซมเซลล์ผิว ผิวที่ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอจึงแข็งแรง และช่วยป้องกันสิวเกิดใหม่ได้ดีอีกด้วย
เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน: การนอนหลับพักผ่อนเพียงพอ ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว อีกทั้งยังป้องกันการติดเชื้อได้อีกด้วย
5. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
น้ำช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย รวมถึงฮอร์โมนส่วนเกิน สารพิษ และแบคทีเรีย ที่อาจส่งผลต่อการเกิดสิว นอกจากนี้น้ำยังช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
ยืดหยุ่น ลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน และป้องกันรูขุมขนอุดตันได้อีกด้วย
แต่ทั้งนี้ควรเลือกดื่มน้ำที่ไม่มีน้ำตาล หรือน้ำที่มีน้ำตาลน้อยที่สุด เพราะน้ำตาลมีฤทธิ์กระตุ้นการอักเสบนั่นเอง
วิธีรักษาสิวฮอร์โมน ด้วยยา
2. ยาเฉพาะที่:
- ยาทาสิว เช่น Benzoyl peroxide, Retinoids, Azelaic acid
- ยาต้านการอักเสบ เช่น Benzoyl peroxide, Salicylic acid
3. ยารับประทาน:
- ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมน combined oral contraceptives (COCs)
- ยา spironolactone
- ยา isotretinoin
นอกจากนี้ยังมีวิธีรักษาสิวด้วยแพทย์อีกมากมาย เช่น เลเซอร์รักษาสิว เป็นต้น ซึ่งควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อหาสาเหตุและวิธีรักษาที่เหมาะสม รวมถึงหลีกเลี่ยงการกดสิวด้วยตัวเอง เพราะอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นตามมาได้
บทความที่คุณอาจสนใจ
- ทรงผมผู้ชายหน้ากลม 2023 ตัดทรงอะไรดี ให้ดูเท่แบบมีสไตล์!
- วิธีรักษาสิวที่หลัง สำหรับผู้ชาย ป้องกันสิวที่หลังอย่างไรไม่เป็นซ้ำ!
- เหงื่อออกเยอะแบบไหนผิดปกติ แก้อย่างไร เหงื่อออกเยอะบอกโรคอะไรบ้างในผู้ชาย
- รวมครีมอาบน้ำผู้ชาย ยี่ห้อไหนดี 2023 กลิ่นสดชื่นหอมติดตัว ล้างง่ายตัวไม่ลื่น
- ครีมบํารุงผิวหน้าผู้ชาย 2023 ครีมทาหน้าผู้ชาย ตัวเดียวจบ ราคาไม่แพง มียี่ห้อไหนบ้าง
วิธีการดูบอลพรีเมียร์ลีก 2023/24 ที่ TrueID : แพ็กเกจชมครบทุกคู่!
เคล็ดลับการรับชมพรีเมียร์ลีกให้มันส์จุใจในทุกช่องทาง คลิกเลย!