กติกาฟุตบอลมีอะไรบ้าง มีผู้เล่นกี่คน กติกาฟุตบอลแบบเข้าใจง่าย
ผู้ที่กำลังจะเริ่มดูฟุตบอล หรืออยากเข้าใจกติกาของกีฬาฟุตบอลนั้นว่าเป็นอย่างไร ประเทศต้นกำเนิดกีฬาฟุตบอลนั้นอยู่ที่ประเทศอะไร TrueID Sport ได้รวบรวมข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับกติกาฟุตบอลมาไว้แล้ว
กติกาฟุตบอลมีอะไรบ้าง มีผู้เล่นกี่คน กติกาฟุตบอลแบบเข้าใจง่าย
ประวัติของกีฬาฟุตบอล
แต่แรกเริ่มเดิมทีตามหลักฐานทางโบราณคดีเมื่อราว 2,000 ปีที่แล้ว ในประเทศจีน กรีก และโรมโบราณ ได้มีกีฬาที่มีความคล้ายคลึงกับการเล่นฟุตบอล โดยลูกบอลนั้นทำจากหนังสัตว์ห่อหุ้มด้วยหินหรือขนสัตว์ จากนั้นกีฬานี้ได้มีการแพร่หลาย และมีการปรับวิธีการเล่นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งในปี 1863 ที่ประเทศอังกฤษ ได้มีการก่อตั้งสมาคมฟุตบอลแห่งแรกเพื่อกำหนดกฎเกณฑ์สร้างมาตรฐานในการเล่นฟุตบอลรวมถึงวางมาตรฐานของลูกฟุตบอล เพื่อให้การเล่นฟุตบอลมีกติกาที่ชัดเจนมากขึ้น
วัตถุประสงค์ในการเล่นฟุตบอล
คือการทำประตูให้มากกว่าทีมตรงข้าม การทำประตูจะเกิดขึ้นเมื่อลูกบอลทั้งลูกข้ามเส้นประตูของฝ่ายตรงข้ามระหว่างเสาประตู
จำนวนผู้เล่นฟุตบอล
ผู้เล่นมีสองทีม ทีมละ 11 คน โดยแต่ละทีมมีผู้เล่นสำรองได้ 5-7 คน ปกติจะอนุญาตให้เปลี่ยนตัวได้ 3 ครั้งในช่วงเวลาปกติของการแข่งขัน และอาจมีการเปลี่ยนตัวเพิ่มเติมในช่วงต่อเวลาพิเศษ
ขนาดลูกฟุตบอล
มาตรฐานของฟุตบอลที่ใช้ในการแข่งขันฟุตบอลอาชีพ มีเส้นรอบวงประมาณ 27-28 นิ้ว (69-71 เซนติเมตร) น้ำหนักอยู่ที่ 400-450 กรัม ความดันอากาศ: 8.5-15.6 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
ขนาดสนามฟุตบอล
ขนาดของสนามฟุตบอลที่กำหนดโดยฟีฟ่า ความกว้าง: อย่างน้อย 45 เมตร (50 หลา) แต่ไม่เกิน 90 เมตร (100 หลา) ความยาว: อย่างน้อย 100 เมตร (110 หลา) แต่ไม่เกิน 110 เมตร (120 หลา)
ขนาดของประตูฟุตบอล
- ความสูง: 2.44 เมตร (8 ฟุต)
- ความกว้าง: 7.32 เมตร (24 ฟุต)
- คานประตู: มีความสูง 2.44 เมตรจากพื้นดิน
- เสาประตู: มีความสูง 2.44 เมตร และอยู่ห่างกัน 7.32 เมตร
ชื่อตำแหน่งผู้เล่นในทีมฟุตบอล
- ผู้รักษาประตู (Goalkeeper)
ผู้รักษาประตู เป็นตำแหน่งที่สำคัญที่สุดตำแหน่งหนึ่งในกีฬาฟุตบอล เพราะเป็นด่านสุดท้ายที่คอยป้องกันไม่ให้ลูกบอลเข้าสู่ประตูของทีมตัวเอง
คุณสมบัติของผู้รักษาประตูเบื้องต้น
ต้องมีปฏิกิริยาที่รวดเร็ว เพื่อตอบสนองต่อลูกยิงที่รวดเร็วและเปลี่ยนทิศทางได้ ต้องมีความแข็งแกร่งทางกายภาพ เพื่อป้องกันการปะทะและการกระโดดซ้ำๆ โดยผู้รักษาประตูส่วนใหญ่จะมีรูปร่างสูงใหญ่ เพื่อช่วยให้สามารถปัดป้องลูกบอลได้ง่ายขึ้น ต้องมีความสามารถในการใช้มือจับบอล ปัดบอล และกระโดดปัดบอลได้อย่างแม่นยำ - กองหลัง (Defender)
หน้าที่หลักคือป้องกันไม่ให้อีกทีมทำประตู แบ่งออกเป็นหลายตำแหน่ง เช่น เซ็นเตอร์แบ็ค (กองหลังตัวกลาง), แบ็คซ้าย, แบ็คขวา มีรายละเอียดดังนี้ - เซ็นเตอร์แบ็ก (Center-back)
เป็นแกนหลักของแนวรับ มีหน้าที่ป้องกันลูกโหม่ง ป้องกันลูกตั้งเตะ มักจะตัวสูง แข็งแกร่ง และมีความสามารถในการอ่านเกมที่ดี - แบ็คซ้าย (Left-back) และ แบ็คขวา (Right-back)
มีหน้าที่ป้องกันริมเส้น ป้องกันการบุกของปีกฝ่ายตรงข้าม และช่วยเกมรุกโดยการเติมเกมขึ้นไปข้างหน้า ต้องมีความเร็ว ความคล่องตัว และทักษะการครอสบอลที่ดี - กองกลาง (Midfielder)
กองกลาง หรือ มิดฟิลด์ เป็นตำแหน่งที่ถือว่าสำคัญที่สุดตำแหน่งหนึ่งในสนามฟุตบอล เพราะเป็นตัวเชื่อมระหว่างแนวรับและแนวรุก มีหน้าที่หลากหลาย ทั้งการป้องกัน การสร้างเกม และการทำประตู ทำให้กองกลางเปรียบเสมือนหัวใจของทีมเลยก็ว่าได้
กองกลางสามารถแบ่งออกได้หลายประเภทตามหน้าที่หลัก โดยแบ่งได้ดังนี้
กองกลางตัวรับ (Defensive Midfielder) : คือผู้เล่นที่คอยปกป้องแนวรับของทีมเสมือนเป็นป้อมปราการด่านแรก หน้าที่หลักของเขาคือการหยุดยั้งการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม
กองกลางตัวกลาง (Central Midfielder): คือผู้เล่นที่ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมเกมระหว่างแนวรับและแนวรุก มีทั้งแบบเน้นเกมรับและเกมรุก คอยควบคุมจังหวะเกม และมีอิทธิพลต่อการเล่นของทั้งทีมอย่างมาก
กองกลางตัวรุก (Attacking Midfielder)
กองกลางตัวรุกเป็นผู้เล่นที่สำคัญมากในการสร้างเกมรุกให้กับทีม และคอยสร้างโอกาสทำประตู พวกเขาสามารถเป็นผู้เปลี่ยนเกมได้ หากทีมมีกองกลางตัวรุกที่ดี ทีมก็จะมีโอกาสคว้าชัยชนะได้มากขึ้น - กองกลางตัว (box-to-box)
กองกลางตัว หรือที่เรียกกันติดปากว่า บ็อกซ์ทูบ็อกซ์ เป็นกองกลางที่สามารถทำได้ทั้งเกมรับและเกมรุก
เป็นคนที่วิ่งไปมาอยู่ระหว่างกรอบเขตโทษทั้งสองฝั่ง พวกเขาสามารถวิ่งไล่บอลตั้งแต่แดนตัวเอง ไปจนถึงขึ้นไปยิงประตูในเขตโทษฝ่ายตรงข้ามได้ - กองกลางตัวริมเส้น (Winger)
กองกลางตัวริมเส้น หรือ วิงเกอร์ (Winger) คือผู้เล่นที่รอยู่บริเวณริมเส้นของสนาม มีความสำคัญในการสร้างความกว้างให้กับเกมรุก ช่วยเปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษให้เพื่อนร่วมทีม อีกทั้งช่วยในเกมรับ - กองหน้า (Forward)
กองหน้า คือผู้เล่นที่อยู่แถวหน้าสุดของทีม มีหน้าที่หลักในการทำประตู และสร้างโอกาสในการทำประตูให้กับทีม เชื่อมโยงการเล่นกับกองกลางและปีกรวมถึงสร้างความกดดันให้กับฝ่ายตรงข้าม
ระยะเวลาในการเล่น
การแข่งขันฟุตบอลมาตรฐานประกอบด้วยสองครึ่ง ครึ่งละ 45 นาที รวมเวลาเล่นปกติทั้งหมด 90 นาที แต่ยังไม่รวมช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ผู้ตัดสินจะเพิ่มเวลาพิเศษเมื่อสิ้นสุดแต่ละครึ่งเพื่อชดเชยเวลาที่เสียไปเนื่องจากอาการบาดเจ็บ การเปลี่ยนตัว หรือความล่าช้าอื่นๆ รวมถึงการต่อเวลาพิเศษถ้าคะแนนเสมอกันเมื่อสิ้นสุดเวลาปกติในการแข่งขันแบบน็อคเอาท์ จะมีการเล่นช่วงต่อเวลาพิเศษ 15 นาที สองช่วงครึ่ง
บทลงโทษในกีฬาฟุตบอล
- การฟาวล์คู่ต่อสู้: การสะดุด การผลัก
- แฮนด์บอล: การจับบอลด้วย มือหรือแขนอย่างจงใจ
- การจับบอลนอกเขตโทษ: ถ้าผู้รักษาประตูจับบอลนอกเขตโทษ อาจมีการลงโทษได้
กติกาการเตะลูกโทษ
การยิงลูกโทษ คือการให้โอกาสทีมที่เสียเปรียบได้ยิงประตูโดยตรงจากระยะใกล้ เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ฟาวล์ร้ายแรงภายในเขตโทษของทีมฝ่ายตรงข้าม
จุดที่ผู้เล่นจะมายืนเตะลูกโทษจะอยู่ห่างจากเส้นประตู 11 เมตร หรือประมาณ 12 หลา มีเพียงผู้รักษาประตูของทีมที่กำลังป้องกันประตูเท่านั้นที่สามารถอยู่ในเขตโทษขณะเตะลูกโทษ ผู้เล่นคนอื่นๆ ทั้งทีมที่ทำผิดและทีมที่ได้ลูกโทษจะต้องอยู่ภายนอกเขตโทษ ผู้รักษาประตูจะต้องยืนอยู่บนเส้นประตู และอยู่ระหว่างเสาประตูทั้งสอง ผู้รักษาประตูจะต้องรอจนกว่าลูกบอลถูกเตะออกไปจากจุดโทษจึงจะสามารถเคลื่อนไหวได้ โดยผู้เล่นที่เตะลูกโทษจะต้องไม่สัมผัสลูกบอลอีกจนกว่าลูกบอลจะถูกผู้เล่นคนอื่นสัมผัส
บทความที่เกี่ยวข้อง