สวัสดีบอลโลก 2018 : "อียิปต์ - มัมมี่ - ซาลาห์" กับการฟื้นคืนชีพอีกครั้งในรอบ 28 ปี ... by "PUP Tuntat"

อียิปต์
(โซนแอฟริกา : อันดับ 45 ของโลก)
(FIFA Ranking Update : 7 June 2018)

PROFILE

ลงเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย : 2 ครั้ง

แชมป์ : 0 สมัย

สิ้นสุดการรอคอยกว่า 28 ปี หรือนับตั้งแต่ อิตาเลีย 90 ที่ทีมชาติอียิปต์ผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายครั้งล่าสุด ต้องขอบคุณ เอคเตอร์ คูเปร์ อดีตกุนซือของ บาเลนเซีย และอินเตอร์ มิลาน ที่เข้ามาทำให้ อียิปต์ ชุดนี้กลับมาเป็นทีมที่แข็งแกร่ง คงความเป็นเต้ยลูกหนังแห่งแดนกาฬทวีปอีกครั้ง

ทัพ “ฟาโรห์” ชุดนี้นำทัพโดยสองสตาร์จากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โมฮาเหม็ด เอล เนนี่ ผนวกกับแข้งจอมเก๋าอย่าง อาเหม็ด ฟาธี, อาเหม็ด เอล โมฮามาดี้ รวมถึงกัปตันทีมวัย 45 ปีอย่าง เอสซัม เอล ฮาดารี่ เชื่อว่านี่คงจะเป็นสูตรที่กุนซือชาวอาร์เจนไตน์วางไว้เพื่อให้ทีมชุดนี้ออกมากลมกล่อมเหมือนดั่งรสชาติของอินทผาลัมในทะเลทรายซาฮาร่า

ทั้งนี้ มีสถิติที่น่าสนใจหนึ่งอย่างของทีมชาติอียิปต์ชุดนี้ก็คือ พวกเขาไม่เคยแพ้เลยแม้แต่นัดเดียวในรอบคัดเลือกหาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สามารถพังประตูได้

…

….

รายชื่อ 23 นักเตะ อียิปต์
ชุดสู้ศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย

ผู้รักษาประตู : เอสซัม เอล ฮาดารี่ (อัล ทาวูน), โมฮาเหม็ด เอล-เชนนาวี (อัล อาห์ลี), เชรีฟ เอครามี่ (อัล อาห์ลี)

กองหลัง : อาห์เมด ฟาธี (อัล อาห์ลี), ซาอัด ซาเมียร์ (อัล อาห์ลี), อายมัน อาชราฟ (อัล อาห์ลี), มาห์มูด ฮัมดี้ (ซามาเล็ก), โมฮาเหม็ด อับเดล-ชาฟี (อัล ฟาเตห์), อาห์เหม็ด เฮกาซี่ (เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน), อาลี กาเบอร์ (ซามาเล็ก), อาห์เมด เอลโมฮามาดี้ (แอสตัน วิลล่า), โอมาร์ กาเบอร์ (ลอสแองเจลิส เอฟซี)

กองกลาง : ทาเรค ฮาเมด (ซามาเล็ก), ชิคาบาล่า (อัล-ราอีด), อับดัลลาห์ ซาอิด (อัล อาห์ลี), แซม มอร์ซี่ (วีแกน แอธเลติก), โมฮาเหม็ด เอล เนนี่ (อาร์เซน่อล), มาห์มูด คาห์ราบา (อัล เอติฮัด), รามาดาน โซบี (สโต๊ค ซิตี้), มาห์มูด ฮัสซัน (คาซิมปาซ่า), อาเมอร์ วาร์ดา (อโตรมิตอส เอเธนส์)

กองหน้า : มาร์วัน โมห์เซน (อัล อาห์ลี), โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล)

…

….

รู้จัดเฮดโค้ช : เอคเตอร์ คูเปร์

อดีตเซนเตอร์ฮาล์ฟยุค 80’s รายนี้ ถือเป็นบุคคลที่ผ่านร้อนผ่านหนาวในเวทีลูกหนังมาอย่างโชกโชน ทั้งการลงฟาดแข้งในระดับสโมสรมากกว่า 560 แมตช์, การขึ้นแท่นติดสังเวียนทีมชาติอาร์เจนติน่า รวมถึงการเริ่มบทบาทเฮดโค้ชในโลกลูกหนังตั้งแต่ปี 1993

แต่ทว่า การคุมทัพตลอด 25 ปี ที่ผ่านมาของ “เอคเตอร์ คูเปอร์” ไม่มีสโมสรใดที่สามารถฝากผีฝากไข้ไว้กับเจ้าตัวได้นานเกิน 3 ปี ได้เลย ยกตัวอย่างเช่น บาเลนเซีย (1999-2001), อินเตอร์ มิลาน (2001-2003), เรอัล เบติส (2007), ปาร์ม่า (2008) แต่มาถึงวันนี้ คูเปอร์ สามารถล้างอาถรรพ์นั้นได้สำเร็จ อาจจะเพราะเคมีที่เข้ากันระหว่างเจ้าตัวกับทัพ “ฟาโรห์” ทำให้เขาสามารถคุมทีม มาได้ถึง 4 ปี และฝากผลงานที่ชาวอียิปต์จะต้องจดจำไปตลอดกาลกับการพาทีม “เดอะ ฟาโรห์” กลับมาบนสังเวียนฟุตบอลโลกครั้งแรกในรอบ 28 ปี

การจารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่น่าจดจำในวงการลูกหนัง อาจจะเกิดจากศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่เขียนเรื่องราวไว้โดยทีมชาติอียิปต์ที่มีโค้ชวัย 62 ปีรายนี้ เป็นผู้สร้างสรรค์ทุกสิ่งจากข้างสนามก็เป็นได้

…

….

สตาร์เด่น : โมฮาเหม็ด ซาลาห์

การย้ายมาสู่เกาะอังกฤษครั้งแรกของ ซาลาห์ อาจจะไม่ใช่ช่วงเวลาที่น่าจดจำของเจ้าตัวกับเชลซีสักเท่าไหร่นัก หลังตลอด 3 ปี กับ “สิงโตน้ำเงินคราม” (2014-2016) “โม ซาลาห์” ลงสนามให้กับต้นสังกัดไปเพียง 13 นัด และถูกย้ายให้ไปเล่นกับทั้ง ฟิออเรนติน่า รวมถึง โรม่า ตลอด 2 ปีหลัง ด้วยสัญญายืมตัว

แต่ด้วยความกระหายในการลงสนาม “เมสซี่แห่งอียิปต์” ได้ขอขึ้นบัญชี และได้ย้ายไปร่วมทีม “หมาป่า” อาแอส โรม่า ตามที่หวังได้สำเร็จ ก่อนระเบิดฟอร์มสุดยอดในฤดูกาล 2016-2017 ด้วยการยิงไป 15 ประตู กับ 11 แอสซิตส์ ด้วยเหตุนี้ฟอร์มสุดพีคของเขาจึงไปเข้าตาแมวมองทัพ “หงส์แดง” ก่อนคว้าตัวไปร่วมทีมด้วยราคาเพียง 34.3 ล้านปอนด์

เพียงฤดูกาลแรกกับลิเวอร์พูล (2017-2018) เจ้าตัวพาทีมจบอันดับ 4 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ พร้อมพาทีมจบด้วยฐานรองแชมป์ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกทั้ง ซาลาห์ ยังคว้ารางวัลส่วนตัวอีกนับไม่ถ้วน อาทิเช่น ดาวซัลโวประจำลีก , รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสมาคมผู้สื่อข่าวอังกฤษ รวมไปถึงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทวีปแอฟริกา

ส่วนผลงานในนามทีมชาติก็ไม่น้อยหน้า เจ้าตัวติดทีมชาติมาตั้งแต่ปี 2011 พร้อมลงสนามรับใช้ชาติไปทั้งหมด 57 นัด ซัดไปได้ถึง 33 ประตู แม้ยังมีอาการบาดเจ็บที่ไหล่รบกวนอยู่ แต่เชื่อเหลือเกินว่าด้วยกำลังใจจากเพื่อนร่วมอาชีพ และแฟนบอลชาวอียิปต์ทั้งประเทศ คงจะเป็นแรงผลักดันให้ดาวเตะวัย 25 ปี รายนี้ ฟื้นคืนบนสนามหญ้าที่ รัสเซีย 2018 ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

ต้องรอลุ้นกันว่า เจ้าของฉายา “เมสซี่แห่งอียิปต์” จะเปิดหัวกับฟุตบอลโลกครั้งแรกในอาชีพการค้าแข้งของเจ้าตัวได้ดีเพียงใด แต่ที่แน่ๆ ทุกคนคงรู้ว่า ซาลาห์ และเพื่อนร่วมทีมทุกคน คงจะทำทุกเกมอย่างเต็มความสามารถ เพื่อประชากรในประเทศอียิปต์ที่มีเกือบ 100 ล้านคน ซึ่งเตรียมรอให้กำลังใจพวกเขาอยู่

…

….

“PUP Tuntat”

โปรแกรมการแข่งขัน พร้อมช่องถ่ายทอดสด ฟุตบอลโลก 2018

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/2HtYS2N
ดูสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/TrueIDSportsLive

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports