รีเซต
TRUE OPINIONS : In Memory : David Astori (1987-2018) "อาลัยรัก อัสตอรี่"... by "เต้ BlackPearl"

TRUE OPINIONS : In Memory : David Astori (1987-2018) "อาลัยรัก อัสตอรี่"... by "เต้ BlackPearl"

TRUE OPINIONS : In Memory : David Astori (1987-2018) "อาลัยรัก อัสตอรี่"... by "เต้ BlackPearl"
kentnitipong
9 มีนาคม 2561 ( 19:19 )
1.5K

เต้ BlackPearl : 3 มีนาคม 2018 มันเหมือนจะเป็นวันที่เหมือนกับทุกๆ วันทั่วไป สโมสรฟุตบอลฟิออเรนติน่า ออกเดินทางไปที่อูดิเน่ เพื่อเตรียมลงแข่งขันในศึกกัลโช่  เซเรีย อา อิตาลี กับ อูดิเนเซ่ ในวันรุ่งขึ้น

 

 

เวลา 11:30 น. ของคืนนั้น ดาวิเด้ อัสตอรี่ ขอลา มาร์โก้ มาสปอติเอลโล่ กลับไปที่ห้องไปพักผ่อนหลังจากมานั่งเล่นเกมเพลย์สเตชั่น ที่ห้องของนายทวารม่วงมหากาฬ ก่อนที่สปอติเอลโล่จะเหลือบไปเห็นรองเท้าซ้อมของอัสตอรี่ที่ลืมวางไว้ในห้อง นายทวารชาวอิตาเลียนจึงส่ง WhatsApp ไปหาด้วยข้อความว่า “แกลืมรองเท้าซ้อมไว้เนี่ย จะให้เอาไปคืนเลยไหม” ก่อนที่ อัสตอรี่ จะตอบกลับมาว่า “ไม่เป็นไรเดี๋ยวข้าเข้าไปเอาตอนเช้า”

เช้าวันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม เวลา 09:30 น. นักเตะฟิออเรนติน่าทุกคน ลงมาด้านล่างของที่พักเพื่อร่วมรับประทานอาหารเช้า ปกติแล้ว ดาวิเด้ อัสตอรี่ จะลงมาเป็นคนแรกเสมอเมื่อคราวที่ต้องออกไปเล่นเป็นทีมเยือน แต่เช้าวันนั้นกัปตันทีม “ม่วงมหากาฬ” กลับไม่ได้ลงมารับประทานอาหารเช้า นั่นเป็นสัญญาณว่าต้องมีอะไรบางอย่างที่ผิดปกติเกิดขึ้น เพื่อนร่วมทีม และสต๊าฟโค้ชตัดสินใจเดินทางขึ้นไปชั้นบน และเคาะประตูห้องของ อัสตอรี่ ก่อนที่จะพบร่างของ อัสตอรี่ นอนไร้ลมหายใจไปแล้ว

ดาวเตะวัย 31 ปีถูกพบเป็นศพอยู่ภายในโรงแรมที่ ฟิออเรนติน่า พักเพื่อเตรียมที่จะทำศึกในเกมดวล อูดิเนเซ่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา โดยสาเหตุเกิดจากอาการหัวใจวายเฉียบพลันซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติมากกับนักกีฬาอาชีพ  และไม่ได้แสดงสัญญาณเตือนออกมาเลยก่อนหน้านี้ กลายเป็นข่าวช็อกของวงการฟุตบอลอิตาลีในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ตามรายงานจากสื่อแดนมะกะโรนีระบุว่า ผลการชันสูตรพลิกศพนั้น ไม่มีการตรวจพบแรงจูงใจใดๆ ที่อยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตแบบไม่ทันตั้งตัวของ อัสตอรี่ ซึ่งผลออกมาว่าการเต้นของหัวใจของ อัสตอรี่ ค่อยๆ ช้าลงจนกระทั่งหยุดเต้นไปเอง

 

 

เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา และกัลโช่ เซเรีย บี ในสัปดาห์ที่ผ่านมาทั้ง 7 คู่ ต้องทำการยกเลิกการแข่งขันทั้งหมด ส่วนสโมสรฟิออเรนติน่า และกายารี่ ก็ออกมาประกาศยกเลิกใช้เสื้อแข่งหมายเลข 13 เพื่อเป็นเกียรติแก่ ดาวิเด้ อัสตอรี่

ที่น่าเสียดายคือก่อนหน้านี้ อันเดรีย เดลลา วัลเล่ ประธานสโมสรเพิ่งออกมาประกาศว่า อัสตอรี่ กำลังจะเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับทีมซึ่งตามกำหนดนั้นจะลงนามในวันจันทร์ที่ 5 มีนาคม หรือวันเดียวถัดจากที่ อัสตอรี่ เสียชีวิต อย่างไรก็ตามเป็นที่ยืนยันแล้วว่า สโมสรจะยังคงยึดถือสัญญาและมอบเงินค่าเหนื่อยให้กับครอบครัวของ อัสตอรี่ ซึ่งประกอบไปด้วย ฟรานเชสก้า ภรรยาสาว และ วิตโตเรีย ลูกสาววัย 2 ขวบ สำหรับค่าแรงของนักเตะอยู่ที่ 1.3 ล้านยูโรต่อปีด้วยกัน ซึ่งอัสติรี่มีสัญญาถึงปี 2019

 

 

มาดูประวัติการค้าแข้งของกองหลังรายนี้กันหน่อย ดาวิเด้ อัสตอรี่ เกิดวันที่ 7 มกราคม 1987 ที่ซาน โจวานนี่ เบียงโค่ ในเมืองแบร์กาโม่ เริ่มเล่นในระดับเยาวชนกับ ปอนติโซล่า ทีมท้องถิ่น ก่อนจะได้เข้ามาอยู่กับ เอซี มิลาน ในปี 2001 แต่ไม่เคยได้รับโอกาสลงสนาม โดยถูกปล่อยให้ ปิซซิเกตโตเน่ และเครโมเนเซ่ ยืมตัวไปร่วมทีม จากนั้นย้ายมาอยู่กับ กายารี่ โดยถือสัญญาร่วมกับ มิลาน ด้วยค่าตัว 1 ล้านยูโรในปี 2008

ที่นี่ อัสตอรี่ เริ่มสร้างชื่ออย่างเต็มตัว ลงเล่นเป็นปราการหลังให้กับทีมได้อย่างแข็งแกร่ง และเริ่มมีชื่อติดทีมชาติอิตาลีเป็นครั้งแรกในปี 2011 ลงสนามทุกรายการให้ทีมชาวเกาะรวมทั้งสิ้น 178 นัด ทำ 4 ประตู หลังจากรับใช้ทีมมา 6 ปี และเริ่มเป็นที่ต้องการตัวของทีมใหญ่ๆ ในอิตาลี

ปี2014 อัสตอรี่ได้ย้ายมาเล่นกับ โรม่า ด้วยสัญญายืมตัว ก่อนที่ปีถัดมาจะถูก ฟิออเรนติน่า ยืมตัวมาเล่นบ้าง และถูกซื้อขาดมาเล่นยังฟลอเรนซ์ในปี 2016 จนก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันทีมในซีซั่นนี้ (2017-18)

ส่วนในระดับทีมชาติ อัสตอรี่ ติดทีมชาติทั้งหมด 14 นัด ทำได้ 1 ประตู ในศึกฟีฟ่า คอนเฟเดเรชั่น คัพเกมชิงที่ 3 กับ อุรุกวัย ก่อนที่จะ อิตาลี จะเอาชนะจุดโทษ 3-2 พาทีมคว้าเหรียญทองแดงอันเป็นรางวัลมาสเตอร์พีซชิ้นแรก และชิ้นเดียวในชีวิตค้าแข้งของ อัสตอรี่

ช่วงเช้าวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา ได้มีการจัดพิธีศพของ อัสตอรี่ ขึ้น ณ โบสถ์ ซานตา โครเซ่ ในเมืองฟลอเรนซ์ โดยมีบรรดาแฟนบอลกว่า 8 พันชีวิตเดินทางมาส่งดวงวิญญาณของ อัสตอรี่ รวมถึงบรรดาแข้งดังอย่างบรรดาแข้งนักเตะฟิออเรนติน่าที่ยังคงมีอาการเศร้าโศกอยู่

ขุนพลนักเตะยูเวนตุสนำโดย จิอันลุยจิ บุฟฟ่อน ผู้รักษาประตูจอมเก๋า, มัสซิโม่ อัลเลกรี กุนซือทีมม้าลาย และเฟอร์นานโด แบร์นาเดสคี่ อดีตแข้งม่วงมหากาฬ ที่บินด่วนมาจากอังกฤษ หลังพึ่งเสร็จศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ สเปอร์ส, “เจ้าชายหมาป่า” ฟรานเชสโก้ ต็อตติ , อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่, ฟิลิปโป้ อินซากี้, มาริโอ บาโลเตลลี่ รวมถึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ อดีตเพื่อนร่วมทีมที่บินตรงจากอังกฤษมาร่วมงาน แม้ ลิเวอร์พูล จะมีเกมแดงเดือดกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รออยู่

โดยเส้นทางเคลื่อนโลงศพของกัปตันทีมวิโอล่า เริ่มจากสนาม อาร์เตมิโอ ฟรังคี่ ผ่านกลางเมืองซึ่งตลอดสองข้างทางมีแฟนบอลมารอตั้งแถวปรบมือเป็นเกียรติแก่ อัสตอรี่ เป็นครั้งสุดท้าย พร้อมตะโกนด้วยคำว่า “ยอดกัปตัน” หรือ “กัปตันของเราตลอดไป”

 

 

ถือเป็นปีที่มือหม่นของวงการฟุตบอลอิตาลีอย่างแท้จริง นอกจากทีม “อัซซูรี่” จะไม่ได้ไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปี พวกเค้ายังต้องมาเสียยอดกองหลังอย่าง ดาวิเด้ อัสตอรี่ ไปแบบไม่มีวันกลับ ที่น่าเป็นห่วงคือทีมฟิออเรนติน่า ที่เรื่องของสภาพจิตใจน่าจะกำลังเศร้าสร้อยกันอยู่ น่าจะส่งผลต่อเกมการแข่งขันไม่มากก็น้อย รวมถึงตำแหน่งปราการหลังที่ไม่มี อัสตอรี่ อีกต่อไป ทำให้เกมรับของม่วงมหากาฬต้องอ่อนยวบลงไปอีกแน่ เป็นการบ้านของ สเตฟาโน่ ปิโอลี่ กุนซือของทีมที่ต้องพาทีมเดินหน้าต่อไป

ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจ และเอาใจช่วยขุนพลม่วงมหากาฬ รวมถึงครอบครัวของ อัสตอรี่ ให้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ และสู้ต่อไปให้ได้ครับ

 

“เต้ BlackPearl”

 

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/2HtYS2N
ดูสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/TrueIDSportsLive

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports

ยอดนิยมในตอนนี้