วิเคราะห์ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบ ลิเวอร์พูล พร้อมลิ้งดูบอลสด ศึกบิ๊กแมทช์ ประจำ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024/25 แมทช์เดย์ที่ 26 วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 23.30 น. เกมนี้เป็นการพบกันของ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 4 ของพรีเมียร์ลีก เปิดรังเหย้า เอติฮัด สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 1 จ่าฝูงของตารางพรีเมียร์ลีก ดูบอลสดพรีเมียร์ลีก กดสมัครแพ็กเกจ TrueVisions Now ผ่าน TrueID คลิกเลย! สถานการณ์ในลีกปัจจุบันเจ้าบ้าน เรือใบสีฟ้า แม้ว่าในฟุตบอลถ้วยยุโรปจะตกรอบไปเรียบร้อยเมื่อกลางสัปดาห์ด้วยน้ำมือของ เรอัล มาดริด แต่ผลงานในลีกพวกเขาค่อยๆไต่อันดับขึ้นมาอยู่ในอันดับ 4 ได้แล้ว โยมีแต้มห่างอันดับ 3 อย่าง น็อติงแฮม ฟอเรสต์ เพียง 3 แต้มเท่านั้น หากเก็บชัยนัดนี้ได้ จะแซงขึ้นที่ 3 ทันที ส่วนฝั่งผู้มาเยือน หงส์แดง แม้ว่าเมื่อกลางสัปดาห์จะไปสะดุดเสมอกับแอสตันวิลล่ามาแต่เมื่อคืนนี้ทางฝั่งของ รองจ่าฝูง อาร์เซนอล ก็ดันไปพ่ายให้ เวสต์แฮม ทำให้ระยะห่างของแต้มไม่ได้ลดลง ทำให้ หงส์แดง ลดความกดดันลงไปได้มาก หากนัดนี้ชนะ จะทิ้งห่าง อันดับ 2 ไปถึง 11 แต้ม แม้จะแข่งมากกว่าอยู่ 1 นัด วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 23.30 น. ถ่ายทอดสด : True Premier Football 1 , True Premier Football 2 , True 4K (400) สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม ผู้ตัดสิน: Anthony Taylor ผู้ช่วยผู้ตัดสิน: Gary Beswick, Lee Betts ผู้ตัดสินที่ 4: Andy Madley VAR: Stuart Attwell ผู้ช่วย VAR: Adam Nunn ฟอร์มการเล่น 5 นัดหลังสุดของแต่ละทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แพ้ : เรอัล มาดริด 3 - 1 แมนฯ ซิตี้ (UCL) ชนะ : แมนฯ ซิตี้ 4 - 0 นิวคาสเซิล (พรีเมียร์ลีก) แพ้ : แมนฯ ซิตี้ 2 - 3 เรอัล มาดริด (UCL) ชนะ : เลย์ตัน โอเลียน 1 - 2 แมนฯ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก) แพ้ : อาร์เซนอล 5 - 1 แมนฯ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก) ลิเวอร์พูล เสมอ: แอสตัน วิลล่า 2 - 2 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก) ชนะ: ลิเวอร์พูล 2 - 1 วูล์ฟแฮมตัน (พรีเมียร์ลีก) เสมอ: เอฟเวอร์ตัน 2 - 2 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก) แพ้: พลีมัธ 1 - 0 ลิเวอร์พูล (เอฟเอคัพ) ชนะ: ลิเวอร์พูล 4 - 0 สเปอร์ส (คาราบาว คัพ) การพบกันของ 2 ทีม 2024: ลิเวอร์พูล 2 - 0 แมนฯ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก) 2024: ลิเวอร์พูล 1 - 1 แมนฯ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก) 2023: แมนฯ ซิตี้ 1 - 1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก) 2023: แมนฯ ซิตี้ 4 - 1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก) 2022: แมนฯ ซิตี้ 3 - 2 ลิเวอร์พูล (คาราบาว คัพ) ความพร้อมก่อนเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกมนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะไม่มี โรดรี้, มานูเอล อคานจี, จอห์น สโตนส์, ออสก้า บ็อบบ์, ที่ยังคงบาดเจ็บ ส่วน เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ มีโอกาสกลับมาได้ในเกมนี้ ที่เหลือพร้อมทั้งหมด เกมนี้คาดว่าทีมของ เปป กวาร์ดิโอลา จะมาในระบบ 4 - 1 - 4 - 1 โดย ผู้รักษาประตูเป็น แอเดอร์สัน กองหลังสี่คน ริโก้ ลูอิส, รูเบน ดิอาส, นาธาน อาเก้ และ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล กลางตัวรับเป็น นิโก้ กอนซาเลซ ส่วนแผงเกมรุกสี่คนใช้ ฟิล โฟเด้น, แบร์นาโด้ ซิลวา, โอมาร์ มาร์มูดห์, ซาวินโญ่ และกองหน้าตัวเป้าเป็น เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ นักเตะบาดเจ็บ : โรดรี้, มานูเอล อคานจี, จอห์น สโตนส์, ออสก้า บ็อบบ์, เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ (เช็คฟิต) นักเตะติดโทษแบน : - ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามในระบบ 4 - 1 - 4 - 1 : แอเดอร์สัน – ริโก้ ลูอิส, รูเบน ดิอาส, นาธาน อาเก้, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล – นิโก้ กอนซาเลซ - ฟิล โฟเด้น, แบร์นาโด้ ซิลวา, โอมาร์ มาร์มูดห์, ซาวินโญ่ - เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ ลิเวอร์พูล เกมนี้ ลิเวอร์พูล ของ อาร์เน่ สล็อต ซึ่งยังไม่แน่ว่าตัวเขาและ ซิปเค่อ ฮูลชอฟฟ์ ผู้ช่วยของเค้า จะโดนแบนในนัดนี้เลยหรือไม่ หากโดนแบนในเกมนี้จะเป็น จอห์นนี่ ไฮติงกา ที่คุมข้างสนามแทน ส่วนความพร้อมของทีมจะไม่มี โจ โกเมส อาจจะจบฤดูกาลไปก่อนเพื่อนแล้ว และ คอเนอร์ แบรดลี่ย์ ที่เจ็บเพิ่มไป ส่วน โคดี้ กักโป ต้องเช็คฟิตอีกครั้งลุ้นมีชื่อกลับมาในเกมนี้ โดยคาดว่าจะมาในแผน 4 - 2 - 3 - 1 ผู้รักษาประตูเป็น อลิสซง เบ็คเกอร์ แผงแบ็กโฟร์ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน คู่มิดฟิลด์ใช้ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ กับ ไรอัน กราเฟนแบร์ก แผงเกมรุกสามคน โมฮาเหม็ด ซาลาห์, เคอร์ติส โจนส์ และ หลุยส์ ดิอาส ส่วนกองหน้าตัวเป้าใช้ ดิโอโก้ โจต้า นักเตะบาดเจ็บ : โจ โกเมส, คอเนอร์ แบรดลี่ย์, โคดี้ กักโป (เช็คฟิต) นักเตะติดโทษแบน : - ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามในระบบ 4 - 2 - 3 - 1 : อลิสซง เบ็คเกอร์ – เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, ไรอัน กราเฟนแบร์ก - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, เคอร์ติส โจนส์, หลุยส์ ดิอาส - ดิโอโก้ โจต้า วิเคราะห์ความน่าจะเป็นของเกม ในเกมนี้เป็นการชนกันของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ฟอร์ม 5 นัดหลังของเจ้าบ้าน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ 2 นัด และแพ้ 3 นัด ส่วน ลิเวอร์พูล ชนะ 2 นัด เสมอ 2 นัด และ แพ้ 1 นัด ขณะที่การพบกัน 6 นัดหลังสุดสูสีกันมาก ชนะไปฝั่งละ 2 นัด และเสมอกัน 2 นัด แต่ทว่า ที่สนามแห่งนี้ แมนซิตี้ แพ้ในบ้านให้กับลิเวอร์พูลครั้งเดียวจาก 15 เกมหลังสุดในลีก ซึ่งเกมนั้นเป็นเกมแรกของเยอร์เก้น คล็อปป์ ในการมาเยือนสนามแห่งนี้ในฐานะกุนซือลิเวอร์พูล นอกจากนั้น ตั้งแต่เป๊ปเข้ามาคุมทีม ลิเวอร์พูล ไม่เคยเอาชนะที่ เอติฮัด ได้เลย ในเกมนี้เป็นบิ๊กแมทช์ประจำสัปดาห์ แม้ว่าในตอนนี้แต้มห่างกันเยอะมากแล้ว แต่ยังเป็นก้างขวางคอชิ้นสำคัญอีกชิ้นที่จะขวางการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกของ อาร์เน่ สล็อต เมื่อกลางสัปดาห์ทั้งคู๋ต่างต้องผ่านศึกหนักกันมา และได้ผลที่ไม่น่าพอใจกันทั้งคู่ด้วย พ่วงด้วยความเหนื่อยล้าจากการกรำศึกหนักมาทั้งคู่ อาจทำให้เกมนี้จังหวะความเร็วของเกมอาจจะไม่เร็วสวนไปสวนมาแบบนัดก่อนๆที่พบกัน แต่จะเป็นการชิงจังหวะการเล่นเกมรุกกันมากกว่า เกมนี้ ลิเวอร์พูล งานหนักแน่นอนกับการมาเยือนที่นี่หลังไม่เคยมาเอาชนะที่นี่ได้เลยมา 10 กว่านัดแล้ว แต่ฟอร์มของทีมเรือใบสีฟ้าก็ยังแกว่งๆ โดยเฉพาะเกมรับที่มีปัญหาข้อผิดพลาดแทบทุกนัด เป็นโอกาสที่ดีที่ลิเวอร์พูล จะทุกเอาชนะเป๊ปได้ถึง เอติฮัด สเตเดี้ยม เป็นครั้งแรก และเชื่อว่าพวกเค้าจะทำได้ด้วย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1 - 2 ลิเวอร์พูล #ดูบอลสด #ลิเวอร์พูล #แมนซิตี้ #แมนเชสเตอร์ซิตี้ #พรีเมียร์ลีก #premierleague #วิเคราะห์บอล #สถิติ #ช่องทางรับชม #ลิ้งดูสด #ฟุตบอลวันนี้ #Liverpool #ฺManCity #Manchester #บิ๊กแมทช์ BY SILVER_SHARK ภาพปกที่ 1 : เพจ Manchester City ภาพปกที่ 2 : เพจ Liverpool FC ภาพปกที่ 3 : เพจ Manchester City ภาพปกที่ 4 : เพจ Liverpool FC ภาพปกที่ 5 : เพจ Premier League ภาพประกอบที่ 1 : เพจ TrueVisions ภาพประกอบที่ 2 : เพจ TrueVisions ภาพประกอบที่ 3 : เพจ Manchester City ภาพประกอบที่ 4 : เพจ Liverpool FC ภาพประกอบที่ 5 : เพจ TrueID Sports ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !