กีฬาพื้นบ้านเอกลักษณ์หนึ่งของไทยที่ไม่ควรหายไป ปฎิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันนั้นยุคสมัยได้เปลี่ยนแปลงไปมาก ทั้งเทคโนโลยี อุตสาหกรรม สิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มนุษย์มีชีวิตที่เร่งรีบ เด็กรุ่นใหม่อยู่ในยุคของโซเชียลเน็ตเวิร์ค อาจส่งผลให้เราหลงลืมวัฒนธรรม กีฬา การละเล่น ที่เราหรือเด็กรุ่นก่อนนั้น ได้เคยเล่นกันอย่างสนุกสนานในวัยเด็ก ที่ได้รวมกลุ่มเพื่อนพี่น้องนัดกันหลังเลิกเรียนมายังลานในหมู่บ้านประชุมกันว่าจะเล่นอะไรกันดี เพราะแต่ก่อนนั่นโทรศัพท์หรือโซเชียลไม่ได้ล้ำสมัยเหมือนในปัจจุบัน วันนี้ดาวอยากจะมายกตัวอย่างกีฬาพื้นบ้านที่ในปัจจุบันนั้นไม่ค่อยได้เห็นกันซักเท่าไหร่ อาจมีบางโอกาส เช่น กีฬาสีโรงเรียน งานที่เทศบาลหรือชุมชนจัดขึ้น งานที่จัดขึ้นเพื่อผู้สูงอายุ เพื่อเป็นนันทนาการเพิ่มสีสันในงานเป็นบางโอกาสเท่านั้น กีฬาพื้นบ้าน พบว่ามีมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยจนถึงปัจจุบัน เป็นกีฬาที่ไม่ได้ใช้อุปกรณ์อะไรมาก เป็นการแข่งขันที่สร้างความสามัคคี เน้นความสนุกสนานมากกว่าแพ้ชนะ นิยมเล่นในช่วงเทศกาลต่าง ๆ เวลาว่างจากงาน ว่างจากการทำไร่ ทำนา เพื่อเป็นการออกกำลังกายและได้พักผ่อนไปด้วย 1.กีฬาก๊อบแก๊บหรือเดินกะลา 👉ในสมัยเด็กคือชอบมาก เวลายายจะทำอหารที่ต้องใช้มะพร้าว คือต้องจองกะลาสวยๆไว้ก่อนเลย😁 พอโตมาก็ได้รู้ว่ามันช่วยนวดฝ่าเท้าช่วยให้ผ่อนคลายได้ด้วย แต่ละพื้นที่ก็เรียกแตกต่างกันไป เช่น กาสิก อีโก๊ะ อีกับ ม้ากะลา เป็นต้น อยากบอกว่าถ้าได้เล่นจะติดใจ เล่นแรกๆอาจเจ็บฝ่าเท้า แต่สนุก ต้องอาศัยการทรงตัวมาก ใครถึงเส้นชัยก่อนโดยไม่ล้มคือชนะ😁 เดินกะลา เป็นการทรงตัวให้อยู่ในสภาวะที่สมดุล และเป็นการฝึกกล้ามเนื้อมือและเท้า ประสาทสัมผัส จังหวะความสัมพันธ์ระหว่างมือและเท้าขณะเคลื่อนไหวให้พร้อมกัน 2.เดินขาโถกเถก 👉กีฬาชนิดนี้ในแต่ละพื้นที่นั้นจะเรียกไม่เหมือนกันค่ะ บางที่เรียก "โกกเกก" บางที่เรียก"ขาโถเก้า" ซึ่งสันนิษฐานว่าในสมัยก่อนใช้เดินข้ามน้ำเดินข้ามพงหญ้าเพื่อกันหนามตำเพราะไม่ได้สวมใส่รองเท้า ต่อมาจึงนำมาเล่นกันเพื่อความสนุกสนาน การละเล่นนี้จะทำให้ผู้เล่นรู้จักระมัดระวังตัว ไม่ประมาท ได้ฝึกการทรงตัวอีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นที่นิยมในต่างประเทศด้วยนะคะ 3.ชักคะเย่อ 👉จะเรียก "ชักเย่อ" "ชักกะเย่อ" หรือ"ชักคะเย่อ" ยังเป็นที่ถกเถียง แต่สามารถเรียกได้ตามแต่ละพื้นที่ เป็นกีฬาที่ต้องใช้แรงกันสักหน่อย ต้องอาศัยความสามัคคีและความพร้อมเพรียงของผู้เล่น เป็นกีฬาที่เรียกเหงื่อได้ดีเลย เป็นการเล่นที่แบ่งผู้เล่นเป็นสองฝ่ายเท่าๆกัน ดึงเชือกที่ผูกผ้าไว้ตรงกลางเชือก แล้วขีดเส้นแบ่งฝ่ายที่พื้น ฝ่ายไหนดึงฝ่ายตรงข้ามมาฝั่งตัวเองได้ก่อนก็ชนะไปจ้า 4.วิ่งกระสอบ 👉เป็นกีฬาที่นิยมเล่นกันอย่างแพร่หลาย ได้ฝึกการทรงตัว การก้าวเท้าเป็นระยะ เป็นกีฬาที่ล้มลุกคลุกคลานกันน่าดู โดยให้ผู้เล่นสวมกระสอบ และวิ่งให้ถึงเส้นชัย หากล้มก็สามารถลุกขึ้นมาวิ่งต่อได้ เป็นการฝึกความอดทน เป็นกีฬาที่เรียกเสียงหัวเราะเฮฮากับคนดูได้ดีเลย จะเห็นได้ว่ากีฬาพื้นบ้าน จะเน้นความสนุก ความสามัคคี สร้างสีสันในทุกโอกาส เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ เอาล่ะค่ะ มาชวนพี่น้องลูกหลานมาเล่นกัน เพื่อเป็นการสืบสานวัฒนธรรมของเราด้วย.. นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นยังมีกีฬาพื้นบ้าน การละเล่นพื้นบ้านที่น่าสนใจอีกมาก ลองหาเล่นกันดูค่ะ.. อย่าให้มันหายไปจากสังคมไทยเลยนะคะ Cr.ภาพโดย Dawny.JM