หลังจากพักเบรคเกมทีมชาติไป 1 สัปดาห์ แต่ก็ไม่ได้หยุดยั้งความร้อนแรงของอาร์เซนอลได้เลยแม้แต่นิดเดียว โดยในนัดนี้พวกเขาต้องเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของลีดส์ ยูไนเต็ดที่ก็ต้องการคะแนนเพื่อเพิ่มโอกาสในการเอาตัวรอดจากการสุ่มเสี่ยงหล่นไปที่โซนตกชั้น ซึ่งเริ่มเกมมาก็เป็นการบุกแลกกันไปมาอย่างสนุกสุดมันส์ โดยลีดส์มีโอกาสบุกแบบจังๆมากกว่าอาร์เซนอล ที่แม้จะครองบอลได้เหนือกว่าก็ตาม แต่ก็ยังขาดความเฉียบขาดในจังหวะสุดท้าย จนกระทั่งจุดเปลี่ยนมาถึงช่วงนาทีที่ 35 ที่ลีดส์เสียจุดโทษจากจังหวะที่กาเบรียล เฆซุสโยกหลอกกองหลังลีดส์ แล้วลุค ไอลิ่ง เสียเหลี่ยมแล้วไปแหย่เท้าโดนขาของเฆซุสล้มลงในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่รอช้าเป่าให้จุดโทษกับอาร์เซนอลทันที และเป็นเฆซุสที่รับหน้าที่สังหารจุดโทษลูกนี้ ทำให้จบเกมครึ่งแรกอาร์เซนอลนำลีดส์ 1-0เริ่มมาในครึ่งหลังได้ไม่กี่นาที อาร์เซนอลก็ขยับสกอร์หนีไปเป็น 2-0 จากจังหวะการบุกขึ้นริมเส้น โดยโอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้จ่ายบอลต่อให้กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ได้จี้เข้ากดดันลุค ไอลิ่ง แล้วกระดกบอลหนี ต่อด้วยเปิดบอลผ่านกองหลังลีดส์ทะลุไปถึง เบน ไวท์ได้วิ่งเข้ามาชาร์จจ่อๆหน้าปากประตูเข้าไปอย่างง่ายดาย และเป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในฤดูกาลนี้ และประตูที่สามก็เกิดขึ้นในอีกไม่ถึง 10 นาที จากจังหวะต่อบอลกันของเฆซุสและเลอันโดร ทรอสซาร์ โดยเฆซุสแทงบอลให้ทรอสซาร์ได้พลิกหนีกองหลังลีดส์ แล้วส่งบอลต่อมาให้เฆซุสที่วิ่งเข้ามาในกรอบเขตโทษได้ชาร์จเต็มข้อเข้าประตูไปอย่างสวยงาม และเป็นประตูที่สองของเฆซุสในเกมนี้ แล้วลีดส์ก็ได้ประตูตีไข่แตกจากจังหวะเคลียร์บอลไม่ขาดของผู้เล่นอาร์เซนอล แล้วบอลมาถึงราสมุส คริสเตนเซ่นยิงแล้วบอลแฉลบซินเชนโก้เข้าประตูไป ทำให้อาร์เซนอลอดเก็บคลีนชีตในนัดนี้ไปแบบน่าเสียดาย แล้วในท้ายเกมก็มาทำประตูเพิ่มได้อีกจากจังหวะที่มาร์ติน โอเดการ์ดเปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ แล้วเป็นกรานิต ชาก้าได้กระโดดโหม่งสบายๆเข้าประตูไปเรียบร้อย จบเกม อาร์เซนอลซัดจัดเต็มใส่ลีดส์ไปแบบสนุกสุดมันส์ 4-1 เก็บสามแต้มไปได้อย่างสวยงามและครองจ่าฝูงต่อเนื่องไปอีก 1 สัปดาห์ทำให้สถานการณ์ตอนนี้อาร์เซนอลแม้จะแข่งมากกว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1 นัดก็ตาม แต่ก็สามารถสร้างช่องว่างระหว่างคะแนนให้ห่างอยู่ที่ 8 คะแนนตามเดิม โดยเก็บเพิ่มได้เป็น 72 คะแนน ส่วนลีดส์ยังคงต้องลุ้นรอดโซนตกชั้นต่อไปหลังจากที่ตอนนี้คะแนนของพวกเขามีเพียง 26 คะแนน ห่างจากโซนตกชั้นอยู่เพียงแค่ 1 คะแนนเท่านั้น เมื่อมองดูเกมนี้แบบไม่อวย ถือว่า "บอลห่างชั้น" อย่างเห็นได้ชัด เพราะแม้ลีดส์จะมีจังหวะเกมบุกที่ดูฉาบฉวยและดุดันอย่างมากในครึ่งแรกที่เกือบทำอาร์เซนอลซวยตั้งแต่ครึ่งแรก แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถทำอะไรได้ แล้วยังมาเสียจากจังหวะเสียเหลี่ยมของไอลิ่ง ทำให้โมเมนตัมเกมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง กลายเป็นว่าอาร์เซนอลตั้งตัวได้แล้วบุกถล่มใส่เกมรับลีดส์แบบต่อเนื่องจนน่วมไปพอสมควร แม้ลีดส์จะเอาคืนได้ 1 ลูกก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถสร้างโมเมนตัมต่อไปได้ และเป็นที่มาของการเสียประตูที่ 4 แบบน่าเขกกะโหลกนักเตะลีดส์ อีกทั้งอาร์เซนอลได้แสดงความเป็นผู้ชนะชัดเจนตั้งแต่ในช่วงครึ่งหลังเป็นต้นไปว่า พวกเขาพยายามจัดการทุกเกมทุกนัดให้เบ็ดเสร็จเพื่อการันตี 3 คะแนนหลังจบเกมอย่างแน่นอน สังเกตได้จากการมีส่วนร่วมในเกมรุกของนักเตะแทบจะทุกตำแหน่ง ขนาดเบน ไวท์ที่เป็นแบ็คขวายังขึ้นมายิงประตูได้ กาเบรียล มากัลเญสขึ้นสูงจนส่งบอลอันตรายๆได้หลายครั้ง ร็อบ โฮลดิ้งที่มีสมาธิกับเกม และแทบจะไม่มีข้อผิดพลาดจากเขาเลย หากไม่นับลูกที่ลีดส์ตีไข่แตกได้ ก็แทบจะหาคำติกับแนวหลังของทีมไม่ได้เลย ต้องบอกเลยว่าเกมนี้เป็นเกมที่แสดงออกให้เห็นถึงความสามัคคีทั้งในเกมรุกและเกมรับ ที่ทุกคนมีส่วนร่วมในหลายๆจังหวะ หากเสียบอลหรือพลาด คนที่พลาดจะพยายามแก้ไขในจังหวะนั้นให้ได้ ขนาดกาเบรียล เฆซุสยังลงมาช่วยเกมรับแบบนี้ ก็ไม่แปลกใจที่ในทีมจะดูมีความน้ำหนึ่งใจเดียวกันจนถึงนัดล่าสุดนี้ แถมยากที่จะผิดพลาดด้วยตอนนี้ปัญหาของอาร์เซนอลคือ เมื่อขาดบูกาโย่ ซาก้าเมื่อไหร่ เกมบุกทางฝั่งขวาที่เป็นเครื่องหมายการค้าของเบน ไวท์ และซาก้า ก็กลายเป็นว่าการใช้เลอันโดร ทรอสซาร์แทนนั้นก็ยังทดแทนซาก้าได้ไม่เต็มร้อย แต่ถามว่าสาหัสมั้ยในเกมนี้ ไม่สาหัสเท่าไหร่ เพราะฝั่งซ้ายกาเบรียล มาร์ติเนลลี่ก็ยังสามารถสร้างความกดดันและทำลายเกมรับของฝั่งซ้ายลีดส์ได้ แต่ถ้าหากในเกมใหญ่ๆที่กองหลังมีระเบียบวินัยมากกว่านี้นั้น ก็มีความเสี่ยงพอสมควรที่จะทำให้เกมรุกของอาร์เซนอลโดนปิดตายทั้งสองฝั่งแบบที่เคยโดนก่อนหน้านี้ เกมนี้กาเบรียล เฆซุสยิงได้ 2 ประตูหลังจากที่เขาหายเจ็บกลับมา ซึ่งก็ต้องบอกตามตรงว่า เกมนี้ทำให้เรายังเห็นความสำคัญของเฆซุสที่สร้างความแตกต่างจากเอ็ดดี้ เอ็นเคเทียร์ได้อย่างชัดเจน ในเรื่องของทักษะ ความเร็ว การตัดสินใจจังหวะสุดท้าย และการมีส่วนร่วมในการเล่นทั้งเกมรับและเกมรุกดูดีกว่าเอ็นเคเทียร์พอสมควร แต่ก็ใช่ว่าเอ็นเคเทียร์แย่นะ เพราะตอนที่เฆซุสเจ็บ เอ็นเคเทียร์ก็ทดแทนได้ แต่อยู่ดีๆก็ฟอร์มหลุดซะเอง อันนี้ต้องยอมรับว่าเอ็นเคเทียร์ยังคงต้องพัฒนาฝีเท้าและทัศนคติตัวเองต่อไป ถ้ายังอยากจะเป็นตัวจริงของทีม ตัวเองต้องสู้กับเฆซุสให้ได้ก่อน ส่วนนักเตะคนอื่นๆทั้งมาร์ติเนลลี่ โอเดการ์ดและทรอสซาร์ แม้จะทำประตูไม่ได้แต่ก็ทำแอสซิสต์ได้ ก็ต้องชื่นชมเช่นกันว่า พวกเขายังคงเป็นคนสำคัญของทีมในทุกๆนัดเสมอมาโดยเกมนัดถัดไปของอาร์เซนอลจะต้องออกไปเยือนลิเวอร์พูลที่กำลังต้องการเกมเปลี่ยนชีวิตของทีม หลังจากที่ลิเวอร์พูลพ่ายแพ้แมนเชสเตอร์ ซิตี้มาส่วนลีดส์ ยูไนเต็ด จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ซึ่งทั้งสองทีมก็สถานการณ์ไม่ต่างกัน ต่างก็ต้องการแต้มเพื่อการันตีรอดโซนตกชั้นขอขอบคุณภาพประกอบบทความภาพที่ 1 จาก Twitter Arsenal ภาพที่ 2 จาก Facebook Arsenalภาพที่ 3 จาก Facebook Arsenalภาพที่ 4 จาก Twitter Gabirel Jesusภาพปกประกอบบทความ จาก Twitter Arsenal ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !