ถึงแม้ในพรีเมียร์ลีกเกมล่าสุดต้องบุกไปปราชัยต่อ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล 3-1 แต่ต้องยอมรับว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูลนั้นทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งบอลลีกและบอลถ้วย แถมตลอดเดือนมกราคมที่เพิ่งผ่านพ้นไปนี้ ลงเล่น 6 เกมในทุกรายการ ชนะ 5 เสมอ 1 ไร้พ่ายครับ ทั้งๆ ที่ขาดตัวผู้เล่นหลักอย่างวาตารุ เอ็นโดะและโมฮาเหม็ด ซาลาห์ที่ไปรับใช้ทีมชาติ ซึ่งถึงแม้ว่าจะขาดโมไปแนวรุกของหงส์แดงก็ยังสามารถยิงประตูได้ถึง 18 ประตู เฉลี่ยแล้วยิงเกือบ 4 ประตูทุกเกม โดยเฉพาะ "ดิโอโก โชตา" ที่ยิงช่วยให้ทีมเก็บชัยชนะได้ในยามที่ไม่มีซาลาห์ แถมเกมแรกที่เขากลับมาหลังมีอาการบาดเจ็บรบกวนในเกมที่พบกับเบิร์นลีย์เมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคม 2023 ก็สามารถยิงประตูได้เลยจนทาง Opta Analyst ได้รวบรวมข้อมูลสถิติและคำนวณออกมาว่ากองหน้าของลิเวอร์พูลคนใดที่มี "ความคม" ที่สุดในทีม โดยจะวัดเพียงประตูที่ยิงได้ในเกมพรีเมียร์ลีกเท่านั้นและนับเฉพาะคนที่ยิงได้เกิน 20 ประตูขึ้นไปด้วยครับ ซึ่งสำหรับบทความนี้ผมก็จะพาไปดูครับว่า 10 อันดับกองหน้าของลิเวอร์พูลที่มีความคมมากที่สุดเป็นใครกันบ้าง ผมบอกเลยว่ามี "เซอร์ไพรส์" และ "โคตรพีค"แต่ก่อนจะไปดูว่ามีใครบ้าง ต้องบอกก่อนว่าข้อมูลที่ทาง Opta Analyst นำมาคำนวณมีอะไรบ้าง โดยจะประกอบไปด้วย จำนวนที่ลงเล่น (เฉพาะพรีเมียร์ลีก), จำนวนประตู, ค่าเฉลี่ยนาที/ประตู (ใช้เวลาเท่าไหร่ถึงจะยิงได้ 1 ประตู), จำนวนโอกาสในการยิง และ Shot Conversion หรือเปอร์เซนต์ในการเปลี่ยนการยิงให้เป็นประตูนั่นเองครับ เกริ่นมายาวมากแล้ว ไปดูเลยครับว่าใครคือกองหน้าที่คมที่สุดของลิเวอร์พูล10. เดิร์ก เคาท์ (51 ประตู)จำนวนเกม: 208 เกมจำนวนประตู: 51 ประตูนาที/ประตู: 309 นาที/ประตูโอกาสยิง: 459 ครั้งการเปลี่ยนเป็นประตู (%): 11.1%9. ปีเตอร์ เคราช์ (22 ประตู)จำนวนเกม: 85 เกมจำนวนประตู: 22 ประตูนาที/ประตู: 208 นาที/ประตูโอกาสยิง: 192 ครั้งการเปลี่ยนเป็นประตู (%): 11.5%8. หลุยส์ ซัวเรซ (69 ประตู)จำนวนเกม: 110 เกมจำนวนประตู: 69 ประตูประตู/นาที: 139 นาที/ประตูโอกาสยิง: 551 ครั้งการเปลี่ยนเป็นประตู (%): 12.5%7. โรแบร์โต เฟอร์มิโน (82 ประตู)จำนวนเกม: 256 เกมจำนวนประตู: 82 ประตูนาที/ประตู: 225 นาที/ประตูโอกาสยิง: 573 ครั้งการเปลี่ยนเป็นประตู (%): 14.3%6. ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ (50 ประตู)จำนวนเกม: 116 เกมจำนวนประตู: 50 ประตูนาที/ประตู: 136 นาที/ประตูโอกาสยิง: 326 ครั้งการเปลี่ยนเป็นประตู (%): 15.3%5. โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (151 ประตู)จำนวนเกม: 238 เกมจำนวนประตู: 151 ประตูนาที/ประตู: 132 นาที/ประตูโอกาสยิง: 868 ครั้งการเปลี่ยนเป็นประตู (%): 17.4%4. เฟอร์นันโด ตอร์เรส (65 ประตู)จำนวนเกม: 102 เกมจำนวนประตู: 65 ประตูนาที/ประตู: 121 นาที/ประตูโอกาสยิง: 364 ครั้งการเปลี่ยนเป็นประตู (%): 17.9%3. ซาดิโอ มาเน (90 ประตู)จำนวนเกม: 196 เกมจำนวนประตู: 90 ประตูนาที/ประตู: 177 นาที/ประตูโอกาสยิง: 483 ครั้งโอกาสการเปลี่ยนเป็นประตู (%): 18.6%2. ดิโอโก โชตา (38 ประตู)จำนวนเกม: 91 เกมจำนวนประตู: 38 ประตูนาที/ประตู: 141 นาที/ประตูโอกาสยิง: 197 ครั้งโอกาสการเปลี่ยนเป็นประตู (%): 19.3%1. ดิว็อค โอริกิ (22 ประตู)จำนวนเกม: 107 เกมจำนวนประตู: 22 ประตูนาที/ประตู: 160 นาที/ประตูโอกาสยิง: 106 ครั้งโอกาสการเปลี่ยนเป็นประตู (%): 20.8%หมายเหตุ: ข้อมูล ณ วันที่ 24 มกราคม 2024เป็นอย่างไรล่ะครับ พีคไหมล่ะครับสำหรับกองหน้าที่ "คม" ที่สุดของลิเวอร์พูล แต่อย่างว่าแหละครับ "เทพ" ยังไงก็คือเทพอยู่วันยันค่ำ เพราะ "Football without Origi is nothing" ไงล่ะครับ แต่เอาจริงๆ ส่วนตัวผมมองว่าโอริกิเป็นกองหน้าที่คมคนนึงเลยนะถ้าตัดเรื่องคอนเทนต์ต่างๆ ออกไป ภาพความคมของโอริกิที่ผมจำได้แม่นเลยคือเกมที่พบกับเซาแธมป์ตัน ไม่แน่ใจว่าเป็นเกมเอฟเอ คัพหรือลีก คัพ เขาลงมายิงประตูได้แล้วมันเป็นลูกที่เสียบเสาเสียบคาน การวางเท้ายิงของโอริกินั้นยอดเยี่ยมมากๆ แถมการหาพื้นที่ในการทำประตูของโอริกินั้นก็ค่อนข้างดีเลย เพราะเขามักจะพาตัวเองเข้าไปอยู่ในจุดที่สามารถทำประตูได้ตลอด ตัวอย่างเช่น เกมเมอร์ซีไซด์ ดาร์บีที่เขาเข้าไปเก็บตกจากความผิดพลาดของจอร์แดน พิคฟอร์ดในนาทีสุดท้ายของการแข่งขัน หรืออย่างในเกมที่พลิกนรกกลับมาเอาชนะบาร์เซโลนาได้ 4-0 เขาพาตัวเองไปอยู่ในจุดที่สามารถซ้ำลูกยิงของจอร์แดน เฮนเดอร์สันได้โอเคแหละว่าหลายๆ ครั้งเขาอาจจะไม่ได้สร้างประโยชน์ให้กับทีมหรือไม่ได้สร้างอันตรายให้คู่แข่ง แต่ผมมองว่าในช่วงนั้นเขาไม่ได้เล่นในตำแหน่งที่ตัวเองถนัด เพราะส่วนใหญ่เขาได้เล่นบริเวณริมเส้น จนมาในฤดูกาลสุดท้ายที่เขาอยู่กับทีม เยอร์เกน คล็อปป์ได้จับเขาไปเล่นในตำแหน่งหน้าเป้ามากขึ้นและผลงานก็ออกมาตามที่เห็นครับ เขากับทาคุมิ มินามิโนะมีช่วยให้ทีมคว้าดับเบิลแชมป์บอลถ้วยในประเทศได้สำเร็จนอกจากนี้พอผมอ่านบทความนี้แล้วก็ชวนให้คิดถึงวันวานของกองหน้าคนอื่นๆ อีกเหมือนกัน ทั้งเดิร์ก เคาท์ กองหน้าสู่ปีกพลังดูราเซลล์ที่วิ่งไม่มีหมด วิ่งเกินร้อยทุกเกม หรือหลุยส์ ซัวเรส กองหน้าที่ครั้งนึงเคยแบกทีมและเกือบพาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ในฤดูกาล 2013/2014 หรือกองหน้าที่โคตรสง่างามอย่างเฟอร์นันโด ตอร์เรส กองหน้าแก้มแดงจากสเปนที่ในช่วงที่เขาอยู่กับลิเวอร์พูลตกแฟนๆ ให้มาเชียร์ลิเวอร์พูลได้เยอะมากๆ และต้องยอมรับว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดในอาชีพของตอร์เรสก็คือการเล่นให้กับลิเวอร์พูลนี่แหละครับบทความที่เกี่ยวข้องวิเคราะห์ 4 เหตุผล เยอร์เกน คล็อปป์อำลาลิเวอร์พูลเหตุใดวาตารุ เอนโดถึงสำคัญกับลิเวอร์พูล จากกัปตันทีมชาติญี่ปุ่นสู่ตัวหลักหงส์แดงตัดเกรด 20 นักเตะลิเวอร์พูลหลังผ่านไปครึ่งซีซั่นสุดหล่อคนนี้เป็นของคุณนะ!!! 10 นักเตะ "สุดหล่อ" ของลิเวอร์พูล11 อันดับลูกยิงพรีเมียร์ลีกสุดสวยของโม ซาลาห์กับลิเวอร์พูลเจาะสถิติ "200 ประตู" ของ "คิงโม" โมฮาเหม็ด ซาลาห์กับลิเวอร์พูลขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจากOpta AnalystOfficial Facebook และ X ของลิเวอร์พูล (@LFC)Official Instagram ของซาดิโอ มาเน (@sadiomaneofficiel) และดิโอโก โชตา (@diogoj_18)ภาพปก 1, ภาพปก 2, ภาพปก 3, ภาพประกอบ 1, ภาพประกอบ 2, ภาพประกอบ 3, ภาพประกอบ 4, ภาพประกอบ 5, ภาพประกอบ 6, ภาพประกอบ 7, ภาพประกอบ 8, ภาพประกอบ 9 และภาพประกอบ 10ห้องพูดคุยฟุตบอล วิเคราะห์นักเตะ