แมนยูล้างอาถรรพ์ได้สำเร็จหลังจากที่เอาชนะแมนซิตี้ 2 – 1 ที่โอทราฟอร์ดแบบสุดมันส์ เป็นเกมระดับห้าดาวสมกับเป้นแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ เป็นอีกหนึ่งเกมที่ต้องบอกว่าผู้จัดการทีมคนใหม่ เอริค เทนฮาก ได้โชว์การแก้เกมแล้วนำชัยชนะกลับมาสู้ทีมได้ ตอนนี้เก็บไป 38 แต้มห่างจากจ่าฝูงปืนโตเพียง 6 คะแนน ซึ่งหลังเกมก็มีประเด็นให้ได้พูดถึงกันหลายเรื่องหน่อย ว่าแล้วไปดูกันหน่อยว่าหลังเกมแมนยูดับแมนซิตี้มีอะไรน่าพูดถึงกันบ้าง1. หมดโปรโมชั่นของ “เออร์ลิง ฮาแลนด์” ศูนย์หน้าของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่เปิดตัวได้อย่างฮือฮา พักหลังนี่ก็เริ่มเงียบหายไป โดยเฉพาะกับเกมแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ เพราะตลอดทั้งเกมแทบจะไม่ได้เรียกชื่อเลย ทั้งที่เจ้าตัวเองก็พยายามที่จะลงมาล้วงบอลต่ำ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ จนอดคิดไม่ได้ว่าหรือศูนย์หน้ารายนี้มีดีแค่ยิงประตู ทำประโยชน์อย่างอื่นไม่ได้เลย เมื่อมองย้อนกลับไปก็พอจะทำให้เข้าใจได้ว่าสาเหตุที่ฟอร์มหายในช่วงหลังคืออะไร หากมองในโลกความเป็นจริงของฟุตบอลการที่นักเตะใหม่เริ่มต้นที่ลีกใหม่เป็นอะไรที่ดูจะหวือหวา และผลงานมักจะออกมาดี นั่นก็เพราะว่าเพื่อนร่วมลีกยังไม่เคยได้เล่นด้วยกัน จับทางไม่ถูก ทำให้ผลงานออกมาดี เช่นเดียวกับ เออร์ลิง ฮาแลนด์ ที่ตอมาแรก ๆ คือตัวอันตรายที่ผู้จัดการทีมเองก็ไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไร แต่หลังจากเริ่มเข้าสู่ครึ่งฤดูกาลหลัง ฟอร์มที่เคยกระฉูด ตอนนี้ได้ถูกจับตายเป็นที่เรียบร้อย นั่นเพราะว่าทั้งนักเตะเองและผู้จัดการทีมรู้วิธีรับมือแล้ว2. การเชือดเฉือนของสองผู้จัดการทีม ตลอดเวลาในครั้งแรกทั้งสองทีมต่างระวังและจับจ้องเหมือนนักมวยรอดูเชิงคู่ต่อสู้ หาจังหวะผิดพลาดและลงโทษ ทำให้การเข้าทำถือว่าน้อยมาก ๆ ดูได้จากจังหวะเตะบอลที่ทั้งครึ่งแรกได้เตะกันไปคนละหนึ่งครั้ง เน้นบอลตรงกลาง ไม่ได้ก็ครองบอล ตัดบอลไปให้ไกล นี่คือสิ่งที่ผู้จัดการทีมน่าจะย้ำกับลูกทีม แต่เมื่อเวลาผ่านไปมาครึ่งหลังการเปลี่ยนตัวรุกเพื่อหาจุดเปลี่ยนของเปปกวาดิโอล่า ก็ได้ผล ในเมื่อใช้จังหวะรุกริมเส้นเร็วไม่ได้ ก็หาตัวเลี้ยงกินตัว ครองบอลเหนียวอย่างแจ๊ค กรีริชลงมาเพื่อดึงกองหลังเข้ามา เปิดพื้นที่ตรงกลาง ซึ่งก็ได้ประตูจากการฝ่าตรงของ เดอร์บรอยด์ ลากไปสุดเส้นเปิดมาจุดนัดพบ เช่นเดียวกับทางด้านของ เอริก เทนฮาก ที่เมื่อหาจังหวะสวนกลับที่ถนัดไม่ได้ก็ใช้ความสดของ กานนาโชว ที่มีความเร็วไปวิ่งโฉบบอลจากริมเส้น และการวางบอลจากหลังไปหน้าในจังหวะที่หลังแมนซิตี้ลอยสูง ทำให้ได้ประตูแรก และประตูที่สองตามมา นี่คือการแก้เกมที่ทันกันของสองผู้จัดการทีม ที่ต้องขอบอกว่าเชื่อเฉือนและน่าติดตามอย่างมากหลังจากนี้กับผลงานของผู้จัดการทั้งสองทีม3. คุณภาพเกมรุกที่ใช้โอกาสไม่เปลือง แม้ว่าบอดทั้งเกมจะไม่มีจังหวะให้ได้หวาดเสียวหรือจังหวะง้างยิงมากมายอะไร แต่จากสถิติการยิงเมื่อเทียบกับประตูที่ได้มานั่น นี่คือในไม่กี่ทีม ณ เวลานี้ ที่เปลี่ยนโอกาสจบสกอร์เป็นประตูได้ยอดเยี่ยม จากสถิติตรงนี้โอกาสจบสกอร์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยิง 8 ครั้ง เข้ากรอบ 4 ครั้ง เป็น 2 ประตู ทางฝั่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยิง 5 ครั้ง เข้ากรอบ 1 ครั้ง เป็น 1 ประตู นั่นหมายความว่าเปอร์เซนเปลี่ยนเป็นประตู 100 เปอร์เซนเต็ม สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์และไม่เลือนหายไปอย่างหนึ่งของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั่นก็คือการครอบบอล แต่ละเกมเรือใบสีฟ้ามีเปอร์เซนการครองบอลทีเหนือกว่าคู่แข่งทุกเกมนับตั้งแต่เปิดฤดูกาลเกมนี้ก็เช่นกัน ตลอดทั้ง 90 นาที เปอร์เซนการครองบอลอยู่ที่ 70.3 เปอร์เซน และนอกจากนั้นยังผ่านบอลสำเร็จมากกว่าคู่แข่งเกือบเท่าตัว นี่เป็นสิ่งที่ยังบ่งบอกว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นทีมที่ยอดเยี่ยม4. ช่วงขาขึ้นของปีศาจแดง-เป้าหมายใหญ่ของเรือใบ ปีศาจแดงตอนนี้กำลังยู่ในช่วงที่ผลงานดีต่อเนื่องหากจะพูดกันตามตรงนี่คือช่วงที่ผลงานดีที่สุดรอบสามฤดูกาลหลังมานี้เลยก็ว่าได้ หรือถ้าเป็นไปได้สถิติที่นับตั้งแต่เซอร์ เอล็กเฟอร์กูสัน วางมือไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยังไม่เคยจบฤดูกาลด้วยอันดับเหนือกว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้แม้แต่ฤดูกาลเดียว ซึ่งตอนนี้โอกาสนั้นกำลังจะมีโอกาสเป็นไปด้วยด้วยสกอร์ที่ห่างเพียงแค่คะแนนเดียว นับตั้งแต่ฤดูกาล2008-2009 เป็นต้นมา นั่นคือครั้งสุดท้ายที่มีทีมที่ได้แชมป์ 3 สมัยติดต่อกัน ทีมที่ทำได้ก็คือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฤดูกาล 2006-2007 , 2007-2008 , และ 2008-2009 แม้ว่าเรือใบสีฟ้าจะได้แชมป์สองสมัยติดต่อกันสองครั้งก่อนหน้านี้ แต่พอเข้าฤดูกาลที่สามมักจะมีเหตุเสมอ แต่เป้าหมายใหญ่ของ เปป กวาดิโอล่า กับถิ่นเรือใบไม่ใช่แชมป์พรีเมียร์ลีก แต่เป็นUCL เพราะเจ้าตัวได้พูดก่อนหน้านี้ว่า “หากไม่ได้แชมป์UCL กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั่นคือการทำงานไม่สมบูรณ์” ฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจอะไรหากเรือใบสีฟ้าจะแผ่วปลายกับแชมป์พรีเมียร์ลีกแล้วมุ่งเป้าเดียวคือUCL5.ปีศาจแดงต้องมีแชมป์ ด้วยฟอร์มตอนนี้หากจะบอกว่าอย่างน้อยปีศาจแดงต้องได้แชมป์มาครองให้ได้อย่างน้อยหนึ่งรายการ เพราะตอนนี้สถานการณ์ยังถือว่าอยู่บนเส้นทางของทั้งสี่รายการไม่ว่าจะเป็น พรีเมียร์ลีก ,คารางบาวคัพ ,เอฟเอคัพ และ ยูโรปาลีก แต่หากไม่หวังสูงเกินการได้แชมป์บนถ้วยบนเกาะอังกฤษซักใบการน่าจะเป็นฤกษ์งานยามดีที่จะเห็นแสงแห่งความรุ่งโรจน์กลับมาอีกครั้งก็ แต่สิ่งที่น่าห่วงสำหรับส้นทางการคว้าแชมป์ของปีศาจแดงคือเรื่องอากรบาดเจ็บของนักเตะนี่แหละ เพราะจนถึงตอนนี้ เพิ่งเสริมทัพมาเพียงรายเดียว แล้วที่มีอยู่แม้ว่าจะทำผลงานได้ดี แต่ก็กระดูกยุงหลายรายอยู่เหมือนกัน ฉะนั้นเมื่อเจอโปรแกรมที่ถี่ ๆ การบริหารจัดการหรือช่วงเวลากว่าสองอาทิตย์ก่อนตะลาดจะปิดต้องเสริมทัพเพื่อแชมป์สักหน่อย นับว่าเป็นบิ๊กแมตซ์สมราคาของแท้สำหรับทั้งแมนยูและแมนซิตี้พรุ่งนี้ก็ต้องมาลุ้นกับต่อกับทีมปืนโตว่าจะสุดอีกหรือไม่ แต่ถ้าถึงขั้นแพ้ขึ้นมาละก็การลุ้นแชมป์โค้งสุดท้ายสนุกแน่นอนเพราะนัดต่อ เพราะปีศาจแดงมีคิวออกไปเยือนถิ่นปืนโตวันที่ 22 มกราคม 2566 เวลา 23.30น. นี่เป็นอีกหนึ่งแมตซ์คุณชภาพที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงข่าวที่เกี่ยวข้องส่องผลงาน มาร์คัส ตูราม (Marcus Thuram) ว่าที่กองหน้าคนใหม่ของ แมนยูส่องสถิติ "แอนโทนี่" แข้งใหม่ "แมนยู" พร้อมคู่มือใช้งานจาก เอริค เทนฮากจัดอันดับ 5 นักเตะ แมนยู ฟอร์มแจ่มเกม แดงเดือด นัดแรกในพรีเมียร์ลีก 2022/23วิเคราะห์แผน แมนยู เหตุใดถึงกล้าใช้แผนที่เสี่ยงขนาดนี้? เครดิตภาปก premierleague.com/home :: ภาพที่ 1 , twitter.com/ManUtd :: ภาพที่ 2 , twitter.com/ManCity :: ภาพที่ 3เครดิตภาประกอบ premierleague.com/home :: ภาพที่ 6 , ภาพที่ 9 , twitter.com/ManUtd :: ภาพที่ 3 , ภาพที่ 5 , ภาพที่ 7 , ภาพที่ 8, twitter.com/ManCity :: ภาพที่ 1 , ภาพที่ 2 , ภาพที่ 4 ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !