ถ้าพูดถึงกีฬาลูกหนังอย่างฟุตบอล คนส่วนใหญ่ก็มักจะนึกถึงการแข่งขันที่มีนักฟุตบอลชายวิ่งไล่ลูกบอลกลม ๆ อย่างเอาเป็นเอาตายกันอยู่ในสนามใช่ไหมคะ ซึ่งการที่จะเล่นกีฬาประเภทนี้ได้แน่นอนว่าผู้เล่นจะต้องอาศัยทักษะมากมายไปจนถึงความแข็งแรงและพละกำลังของร่างกายและการฝึกซ้อมอย่างหนัก แล้วพอตัดภาพมาที่ผู้หญิงที่ไม่เคยเล่นฟุตบอลมาก่อนเลยสักครั้งในชีวิตล่ะ อย่าว่าแต่ไม่เคยเล่นเลยค่ะ แม้กระทั่งการแข่งบอลก็แทบไม่เคยดูเลย แล้วจะเกิดอะไรขึ้นเมื่ออยู่ดี ๆ เราจะต้องกลายเป็นนักกีฬาจำเป็นเพื่อลงสนามแข่งฟุตบอลหญิงในการแข่งขันกีฬาของคณะ วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์ให้ได้ฟังกันค่ะ ไม่ได้เตรียมตัว เมื่อรู้ว่าคนที่จะลงแข่งฟุตบอลหญิงรอบเย็นนี้ขาดเนื่องจากคนที่เป็นนักกีฬาของคณะติดไปแข่งกีฬาชนิดอื่นกันหมด เพื่อน ๆ ที่ยืนอยู่หน้าสนามเลยโพสต์ลงเฟสบุ๊คถามหาคนที่พอจะเล่นได้ ซึ่งเราก็เห็นว่าไม่มีใครไปเลยอาสาไปเป็นผู้เล่นจำเป็นให้ ตอนที่ไปคือมีเพื่อน ๆ มาช่วยกันลงแข่งจนครบทีมแล้วและการแข่งก็เริ่มต้นไปได้สักพัก ทีแรกเราก็ไม่คิดว่าตัวเองจะได้ลงสนามจริง จนกระทั่งมีเพื่อนขอเปลี่ยนตัวทำให้ในที่สุดเราก็ได้ลงไปเล่นในสนาม ต้องบอกเลยว่านั่นเป็นครั้งแรกที่เราได้เตะบอลจริง ๆ ในการแข่งขัน และแน่นอนว่ากิจวัตรการออกกำลังกายประจำวันของเราคือการวิ่งเสียส่วนใหญ่ ดังนั้นทักษะใด ๆ ในการครองบอลของเราจึงเทียบเท่ากับศูนย์ ภาพจาก freepik วิ่งไปหาลูกเพื่อเตะ ถึงแม้เราจะไม่รู้กฎกติกาหรือเทคนิคใด ๆ ในการเล่นฟุตบอล แต่สิ่งหนึ่งที่เรารู้ก็คือเราจะต้องเข้าไปแย่งไอ้เจ้าลูกกลม ๆ นั่นมาจากทีมตรงข้ามแล้วส่งให้เพื่อนเพื่อทำประตูให้ได้ แน่นอนว่าเพื่อน ๆ นักกีฬาจำเป็นทั้งหลายในสนามของเราเองก็คิดเช่นนั้น สภาพการแข่งขันฟุตบอลหญิงในวันนั้นจึงเหมือนกับกลุ่มผู้หญิงที่วิ่งไปวิ่งมาตามลูกบอล คือทุกคนในสนามพากันวิ่งตามบอลค่ะ อาจจะใช้คำว่ามะรุมมะตุ้มก็ได้ เหตุการณ์มันก็จะชุลมุนอยู่หน่อย ๆ โชคดีที่ในวันนั้นไม่มีใครถ่ายคลิปวิดีโอเก็บไว้ ไม่อย่างนั้นถ้าได้มาย้อนดูก็คงจะขำตัวเองอยู่เหมือนกัน ภาพจาก freepik เตะเข้าประตูตัวเองก็ได้ หลังจากที่ผ่านไปสักพัก ในที่สุดเราก็มีโอกาสได้เท้าสัมผัสลูกบอลบ้าง และเราก็รู้ตัวดีว่าแรงเตะไม่ค่อยมี จึงใช้วิธีเตะบอลส่งให้เพื่อนโดยการตะโกนบอกเพื่อนก่อนว่าให้รับนะ ขณะฝ่ายเราได้ครองบอลเพื่อน ๆ ก็พากันลุ้นและดีใจกันใหญ่ จนกระทั่งลูกบอลถูกเตะส่งไปให้เพื่อนคนที่อยู่หน้าโกล ปึ้งงง !!! ลูกบอลถูกเตะไปแบบสุดแรงเกิดเป็นแนวเส้นตรงเข้าประตูไปเรียบร้อย หลังจากที่ลูกสัมผัสกับตาข่ายในโกลเสียงที่ตามมาไม่ใช่เสียงโห่ร้องดีใจของคนเชียร์แต่อย่างใดนะคะ กลายเป็นเสียงตะโกนโวยวายและตามมาด้วยเสียงของกรรมการที่บอกว่าทีมเราเสียแต้ม เพื่อนเราเตะเข้าประตูตัวเองไปแล้วจ้า... ในตอนนั้นเราก็งง ๆ เหมือนกันเพราะความชุลมุนวุ่นวาย ส่งบอลกันไปมาอยู่ดี ๆ ไม่รู้ว่าสุดท้ายบอลไปถูกเตะเข้าประตูตัวเองได้ยังไง คิดแล้วก็ประหลาดใจอยู่ไม่น้อย ภาพจาก freepik พลาดท่าแว่นหัก หลังจากอยู่ในสนามได้สักพัก จังหวะหนึ่งที่เราถูกผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามพุ่งชนท่าไหนไม่รู้ อยู่ดี ๆ แว่นที่ใส่อยู่ก็กระเด็นหลุดออกจากหน้าแล้วหายไปในพื้นหญ้าอย่างรวดเร็ว ที่ต้องใช้คำว่าหายไปนั่นเป็นเพราะว่าเราสายตาสั้นมาก ประกอบกับตอนนั้นไฟในสนามมันก็มีน้อยทำให้ค่อนข้างมืด พอแว่นหลุดออกไปเราถึงกับไปไม่เป็น มองไม่เห็นอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันกระเด็นไปไหนจนต้องขอออกจากสนามมาก่อน แต่การแข่งขันมันก็หยุดไม่ได้ ผลสุดท้ายคือพอแข่งจบทีมเราเป็นฝ่ายแพ้ ส่วนแว่นตานั้นในที่สุดเราก็หาเจอแต่ปรากฏว่าแว่นหักเป็นสองท่อน จะว่าเสียใจมันก็เสียใจแต่จะไปโทษใครก็ไม่ได้เพราะคงไม่มีใครอยากให้มันเกิด มันก็เลยทำให้เราจดจามเหตุการณ์การแข่งบอลครั้งแรกได้เป็นอย่างดี และเชื่อไหมคะ หลังจากนั้นเราก็ไม่เคยลงสนามเตะบอลอีกเลย ภาพจาก freepik และนี่ก็เป็นเรื่องราวสั้น ๆ ของการหัดเตะบอลในการแข่งขันเล็ก ๆ แต่เป็นการแข่งขันจริง ๆ ได้ประสบการณ์ความสนุกสนานอย่างมากมาย อีกทั้งยังทำให้รู้ว่าต่อให้ยืนเชียร์อยู่ข้างสนามมันจะมันแค่ไหน ก็ไม่ได้ครึ่งของการมาลงเล่นเอง ส่วนเรื่องแว่นก็เก็บไว้เป็นเครื่องหมายเตือนใจว่า ในการแข่งขันกีฬาทุกชนิดที่ผู้เล่นจะต้องเคลื่อนไหวเยอะ ๆ แบบนี้ไม่ควรจะใส่แว่นตาลงแข่งเด็ดขาด เพราะมีโอกาสที่แว่นจะกระเด็นออกไปได้อย่างที่กล่าวไป สำหรับประสบการณ์การเตะบอลครั้งแรกก็มีเพียงเท่านี้ค่ะ ขอบคุณที่ติดตาม แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้านะคะ บ๊ายบาย ภาพปกบทความดันแปลงภาพจาก freepik