คุณคิดว่าต้องใช้เวลากี่วัน ที่จะสามารถไปสัมผัสได้ทุกจุดที่สำคัญของ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ถ้าผมจะบอกว่า 1 วันก็เที่ยวจบแล้วภูกระดึง คุณจะเชื่อหรือไม่ มันเป็นไปได้นะแต่คงต้องเหนื่อยหน่อยและอาจจะไม่มีเวลาได้นั่งสุนทรีเสพสมกับธรรมชาติได้นานซักเท่าไหร่นักแต่ก็ถือว่าเป็นความท้าทายที่ควรค่าต่อการได้ทำ "ครั้งหนึ่งในชีวิต ขอพิชิตภูกระดึง" จะกี่ปีที่ผ่านไป ข้อความนี้ก็ยังคงมีมนต์ขลังดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วสารทิศให้อยากขึ้นไปยืนเคึยงข้างและถ่ายรูปกับ ข้อความแห่งความภาคภูมิใจนี้ซักครั้ง แต่สำหรับใครที่เคยได้มีโอกาสขึ้นไปเยี่ยมเยือนและเก็บความทรงจำบน อุทยานแห่งชาติภูกระดึงแห่งนี้แล้วก็อาจจะยังคงติดใจในรสชาติที่แสนจะทรหด และอยากจะกลับไปหาความท้าทายให้กับชึวิตกันอีกสักครั้ง แต่ถ้าจะไปแบบเดิม ๆ ก็คงจะเกิดความน่าเบื่อจำเจ ตัวผู้เขียนเองก็เช่นกันที่ได้เคยขึ้นไปเก็บเกี่ยวความทรงจำบนยอดภูกระดึงแห่งนี้มาแล้วและอยากจะขึ้นไปอีกสักรอบ แต่อยากขึ้นไปด้วยรูปแบบใหม่ ๆ บ้าง ประจวบเหมาะพอดีกับที่ทาง ททท.จังหวัดเลยได้มีการจัดงานวิ่งเทรลภูกระดึงขึ้นมา เอาละโอกาสดีมาถึงแล้วก็จัดการดำเนินการสมัครลงทะเบียนเข้าร่วมการแข่งขันในทันที แล้วพบกัน วิ่งเทรลบนภูกระดึง สำหรับนักวิ่งบางท่านก็จะคุ้นเคยกันดีแล้วกับรูปแบบการวิ่งเทรล แต่นักวิ่งมือใหม่บางท่านก็อาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจว่าการวิ่งเทรลคืออะไร อธิบายคร่าว ๆ นะครับ สำหรับการวิ่งเทรลจะเป็นรูปแบบการวิ่งที่จะพาผู้เข้าแข่งขันไปสัมผัสกับเส้นทางตามธรรมชาติ วิ่งบนภูมิประเทศที่แท้จริง ดิน ทราย หินกรวด ลำธาร น้ำตก โคลน ซึ่งจะทำได้อารมณ์และความรู้สึกของการวิ่งที่อาจจะแตกต่างไปจากเดิม เผื่อว่านักวิ่งท่านใดที่เต็มอิ่มกับทางลาดยางมะตอยแล้วอาจจะลองเปลี่ยนแนวมาเส้นทางธรรมชาติกันบ้าง สำหรับการวิ่งเทรลผู้สมัครอาจจะต้องศึกษาถึงอุปกรณ์ที่ทางผู้จัดได้กำหนดเพิ่มเติมไปจากการวิ่งปกติ เพื่อความปลอดภัยของตัวนักวิ่งเอง อาทิเช่น น้ำดื่ม นกหวีด อุปกรณ์การปฐมพยาบาล ฯลฯ และในบทความนี้เราก็จะมาทำความรู้จักกับ การวิ่งเทรลที่ภูกระดึงกันในการลงแข่งขันรายการนี้ตัวผู้เขียนได้ทำการลงสมัครในระยะ 25 กิโลเมตร เหตุผลที่เลือกลงสมัครในระยะ 25 กิโลเมตรนั้นก็เพราะว่า จะได้วิ่งไปครบทุกจุดสำคัญของ ภูกระดึงภายใน 1 วัน ความท้าทายและแรงบันดาลใจอยู่ตรงนี้นี่เอง ถ้าพร้อมแล้วก็ออกไปลุยกันเลย เรื่องของระยะทางนั้นอาจจะไม่ใช่ประเด็นที่นักวิ่งเทรลส่วนใหญ่กังวลหรอกครับ แต่เป็นเรื่องของระยะความสูงและความชันซะมากกว่า ซึ่งแน่นอนว่าภูกระดึงนั้นก็ค่อนข้างจะขึ้นชื่อในเรื่องของความชันไม่แพ้ ภูไหน ในประเทศไทยถ้าใครเคยมาสัมผัสแล้วคงจะจำความเหนื่อยล้าระดับขาลากได้ดีแน่ ๆ โดยเฉพาะขั้นแรกที่มีชื่อเสียงอันเลื่องลือที่ชื่อว่า ซำแฮก ว่ากันว่าหลาย ๆ คนถึงกับขอถอนตัวเลยที่เดียวแต่ถ้าใครกัดฟันเดินทางมาต่อจนเกือบจะถึงเป้าหมายปลายทางของ ภูกระดึงที่มีชื่อว่า หลังแป ระยะทางช่วงสุดท้ายนี้ก็ถือว่าไม่ธรรมดาเหมือนกัน จากจุดเริ่มต้นจนถึง หลังแป ด้านบนสุดของภูกระดึงเป็นระยะทางทั้งสิ้น 5 กิโลเมตร ไต่ขึ้นไปถึงความสูงจากระดับน้ำทะเลที่ 1200 เมตรเลยทีเดียว เอาละเราศึกษาข้อมูลมาเพียงพอแล้วก็มาออกเดินทางไปพร้อม ๆ กัน กับการวิ่งเทรลขึ้นไปสัมผัสทุกจุดบนภูกระดึงและลงมาถึงภาคพื้นภายใน 1 วัน แต่จะใช้ระยะเวลาเท่าไหร่นั้้นมาติดตามไปด้วยกันเลยครับ เมื่อเดินทางมาถึงภูกระดึงในเช้าของวันจัดงาน จอดรถเข้าที่เข้าทางเรียบร้อยแล้วก็ต้องมาเติมพลังให้กับร่างกายกันซ่ะหน่อยด้วย โจ๊กร้อน ๆ กับกาแฟและปิดท้ายด้วยกล้วยน้ำว้าที่ทางร้านอาหารมีไว้บริการ แนะนำว่าควรบริหารจัดการเรื่องการกินให้ดีนะครับ เพราะถ้าหากมีเวลาพักไม่มากพอหลังจากมื้อเช้าแล้วออกไปวิ่งละก็ไม่ต้องถาม อาการจุกที่ท้องมาหาเราแน่นอน เอาละครับแลดูแล้ว เพื่อน ๆ นักวิ่งเทรลของเราค่อนข้างจะมีความพร้อมและมีความมุ่งมั่นที่จะพิชิตยอดภูกระดึงกันแทบทุกคน นักวิ่งส่วนใหญ่จะมีเป้าหมายอยู่ทีบริเวณลานกางเต๊นท์ของ ภูกระดึงหลังจากวิ่งเข้าเส้นชัยไปแล้วเพื่อจะไปนอนพักผ่อนค้างคืนส้ัมผัสอากาศเย็น ๆ ยามเช้า และแสงตะวันที่สาดส่องมาด้านบนกัน แต่ผุ้เขียนนั้น วิ่งขึ้นไปแล้วลงมาทันทีครับ มาถึงแล้วครับ ซำแฮก ด่านแรกของการพิชิตภูกระดึง บอกได้เลยว่าเหนื่อย ระดับ 4 กันเลยทีเดียวถ้าใครที่จะมาเที่ยว หรือมาลงงานวิ่งที่ภูกระดึงเมื่อมาถึงซำแฮกแล้วอย่าเพิ่งถอดใจกันนะครับ เพราะในขั้นต่อ ๆ ไปนั้นไม่ได้โหดร้ายเหมือนด่านแรกที่เราได้พบเจอ กัดฟันลุยกันขึ้นไปต่อได้เลยเป้าหมายคือ หลังแป อีก 4,430 เมตร แต่เช้านี้ถือว่าค่อนข้างมาได้ถูกจังหวะครับเมื่อขึ้นมาถึงซำแฮกแล้วน้้น เราก็ได้พบกันฟองของทะเลหมอกที่ลอยอัดแน่นกันอยู่เบื้องหน้า ผสมผสานไปกับสายลมเย็นอ่อน ๆ ที่พัดผ่านมาสัมผัสกับร่างกายแล้วเนี่ยะ หายเหนื่อยสดชื่นขึ้นเยอะเลยครับ ไปลุยกันต่อได้เลย รายชื่อซำทั้งหมดที่เราจะต้องผ่านนั้นมีทั้งหมดกี่ด่าน และมีจุดพักให้น้ำห้องน้ำ อาหาร จุดปฐมพยาบาลตรงไหนบ้างลองมาดูกัน ซำแฮก ร้านค้า , ห้องน้ำ , จุดให้น้ำ ซำบอน จุดปฐมพยาบาล ซำกกกอ ร้านค้า , ห้องน้ำ ซำกอซาง พร่านพรานแป จุดปฐมพยาบาล ซำกกหว้า ร้านค้า , ห้องน้ำ ซำกกไผ่ จุดให้น้ำ ซำกกโดน จุดปฐมพยาบาล ซำแคร่ ร้านค้า , ห้องน้ำ หลังแป จุดให้น้ำ แต่ถ้าหากว่าใครไม่อยากพกอาหาร เครื่องดื่มไปในปริมาณที่เยอะเกินไปเพื่อให้การวิ่งของคุณมีความสะดวกและเบาตัวที่สุดก็ไม่ต้องกังวลนะครับ เพราะที่จุดพักตามซำต่าง ๆ นั้น ก็จะมีร้านค้าที่เปิดให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไปให้เราได้ไปใช้บริการซื้อขนม น้ำอัดลม นั่งพักผ่อนกันด้วยเพื่อเติมพลังก่อนจะเดินทางก้ันต่อไป ระหว่างเส้นทางที่ใกล้จะถึงเป้าหมายที่เราคาดหวังนั่นคือ หลังแป เส้นทางช่วงสุดท้ายก่อนจะพบเจอกับทางเรียบด้านบนภูกระดึงนั้นค่อนข้างจะมีความชันอยู่พอสมควร แต่แข็งใจไว้ครับอีกนิดเดียวเราก็จะถึงจุดสูงสุดของภูกระดึงกันแล้ว และเมื่อขึ้นมาถึงบริเวณหลังแป นักวิ่งเทรลส่วนใหญ่น่าจะมีความฮึกเหิมกันขึ้นมาได้บ้างเพราะจากนี้ไปเส้นทางที่เหลือของนักวิ่งก็จะเป็นทางเรียบตลอดแนวจนถึงเส้นชัยแต่ก็ไม่ง่ายนะครับ เพราะสภาพพื้นดินบนภูกระดึงนั้นจะมีลักษณะจะเป็นดินทรายบอกได้เลยว่าออกตัวกันหนืดเลยทีเดียว ความพิเศษของสนามวิ่งเทรลรายการนี้คือ คุณจะได้วิ่งผ่านจุดชมวิวที่สำคัญเกือบทุกจุดบนภูกระดึงกันเลยทีเดียวและเส้นทางแข่งขันก็จะพาคุณไปจนถึง จุดชมวิวที่สำคัญของภูกระดึงนั่นก็คือ ผาหล่มสัก จุดที่ใคร ๆ ก็อยากจะมาเก็บภาพความทรงจำกันทั้งนั้น วันนี้เรามาถึงแล้วจุดหมายปลายทางของภูกระดึง ความสวยงามระหว่างเส้นทางรายการวิ่งเทรลบนภูกระดึงก็ยังมีให้เราได้เห็นกันตลอดเส้นทางวิ่งกันเลยทีเดียว บอกได้เลยว่าใช้เวลาไปกับการถ่ายรูปกันพอสมควรเลยละ เมืื่อวิ่งไปกลับตัวที่ผาหล่มสักและแวะถ่ายรูปมาระหว่างทางแล้วเราก็ได้เข้าเส้นชัยของรายการแข่งขันครั้งนี้จนได้ ความพิเศษของปีนี้คือ นอกจากจะได้รับเหรียญรางวัลแล้ว ยังได้รับแจกผ้าบัฟเพิ่มเติมมาด้วยอีกหนึงผืน พร้อมกับคูปองทานอาหารในจังหวะนี้บอกเลยว่าหิวมาก ๆ ขอกินข้าวก่อนนะแล้วค่อยไปวิ่งลงภูกระดึงกัน หลังจากกินอาหารจนอิ่มและได้นั่งพักเพื่อซึมซับบรรยากาศบนยอดภูกระดึงจนหนำใจแล้วก็ลุกขึ้นเพื่อจะออกเดินทางวิ่งลงกลับไปยังพื้นด้านล่างของภูกระดึง ในใจก็นึกเสียดายเหมือนกันอยากจะมาปักหลักนอนบนภูกระดึงซักคึน แต่ติดที่วันรุ่งขึ้นผู้เขียนมีงานที่ต้องกลับไปรับผิดชอบเลยได้แต่นั่งอาลัยอาวรณ์ แล้วก็ต้องตัดใจจากลา ระหว่างเส้นทางที่ลงมาจากภูกระดึงก็ยังได้วิ่งสวนทางกับบรรดา นักวิ่งที่กำลังค่อย ๆ ก้าวขาขึ้นไปด้านบนอยู่บ้างเป็นระยะ ๆ มีนักวิ่งบางท่านมากันทั้งครอบครัวเห็นแล้วก็แอบปลื่้มใจตามไปด้วยเลยวาดความหวังไว้เล็ก ๆ ในใจว่าคราวต่อไปจะพาเด็ก ๆ ที่บ้านมาวิ่งขึ้นภูกระดึงไปด้วยกันดีกว่า สรุประยะเวลาที่ี่ใช้ไปในการวิ่งเทรลขึ้นและลงภูกระดึงในวันนี้ คือ 5:08:44 นาที ระยะทางทั้งสิ้น 28.8 กิโลเมตร อาจจะมีบางช่วงบนทางขึ้นภูที่สัญญาญ GPS ได้ขาดหายไป ระยะทางจริง ๆ น่าจะอยู่ที่ประมาณ 30 กิโลเมตร ถือว่าเป็นอีกหนึงความท้าทายที่ได้พิสูจน์ตัวเองกับการขึ้นไปเที่ยวและลงมาจากภูกระดึงในเวลา 1 วัน โดยอาศัยแรงบันดาลใจจากการจัดงานวิ่งเทรลบนภูกระดึง ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนสนใจมาร่วมรายการวิ่งที่ภูกระดึงก็สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ web.facebook.com/PhuKradueng.RUN เป็นยังไงบ้างคร้บ กับรีวิว วิ่งเทรล ภูกระดึง หวังว่าจะมีโอกาสได้มาพบเจอกับนักวิ่งเทรลทุก ๆ ท่านที่ด้านบน ภูเขารูปหัวใจแห่งนี้ ที่มีชื่อเรียกว่า ภูกระดีง นะครับ Cr : ภาพหน้าปก ถ่ายโดยผุ้เขียน ภาพประกอบที่ 1 ttps://web.facebook.com/PhuKradueng.RUN ภาพประกอบที่ 2 ttps://web.facebook.com/PhuKradueng.RUN ภาพประกอบที่ 3 ttps://web.facebook.com/PhuKradueng.RUN ภาพประกอบที่ 4-8 ถ่ายโดยผู้เขียน ภาพประกอบที่ 9 ttps://web.facebook.com/PhuKradueng.RUN ภาพประกอบที่ 10-17 ถ่ายโดยผู้เขียน