การแข่งขันระหว่างฝรั่งเศสกับเบลเยียมจบลงด้วยชัยชนะของฝรั่งเศสจากการทำเขาประตูตัวเองของแยน แฟร์ตองเก้น ส่งให้ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ชนะไป 1-0 ผ่านเข้ารอบต่อไปในยูโร 2024 เขาไปพบกับทีมชาติโปรตุเกสในรอบ 8 ทีมสุดท้าย แม้ว่าผลงานจะยังไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ แต่ฝรั่งเศสก็ยังผ่านเข้ารอบต่อไปได้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติของทีมที่จะเป็นแชมป์ ลูกทีมของดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ยังคงอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ ยูโร 2024 หลังจากที่ เฉือนเอาชนะเบลเยียม ไปได้ 1-0 ซึ่งผลงานในรอบแบ่งกลุ่มฝรั่งเศสเองก็ไม่ค่อยดีนักแต่ก็ยังผ่านเขารอบในฐานะแชมป์กลุ่มมาเจอกับ เบลเยียม ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ถึงแม้ภาพรวมเบลเยี่ยมอาจจะไม่ได้เล่นดีไปกว่าฝรั่งเศสเท่าไร แต่ก็ทำให้ฝรั่งเศสต้องแอบเหนื่อยอยู่เหมือนกันกว่าจะชนะได้ฝรั่งเศสเฉือนหืดจับเข้ารอบต่อไปแต่ฟอร์มยังน่าเป็นห่วงเกมนี้เป็นเกมที่ค่อนข้างจะติด ๆ ขัด ๆ กันทั้ง 2 ทีมเล่นกันไม่ค่อยดีนัก และมีการปะทะกันค่อนข้างรุนแรงอยู่หลายครั้ง การผ่านเขารอบต่อไปของฝรั่งเศสยังถือว่าฟอร์มน่าเป็นห่วงในแง่ของเกมรุกการจบสกอร์ที่พวกเขาไม่สามารถทำได้ถึงแม้ มาร์คัส ตูราม และ อองตวน กรีซมันน์ จะกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง แต่ฝรั่งเศสก็ยังคงประสบปัญหาในการสร้างโอกาสทำประตู พวกเขาครองบอลเหนือกว่าก็จริง แต่ขาดความคมในการจบสกอร์ ฝรั่งเศสยังมีจำนวนการเข้าสู่พื้นที่สุดท้ายถึง 44 ครั้ง ซึ่งมากกว่าเบลเยียมถึงสองเท่า (เบลเยียม 19 ครั้ง) และยังมีจำนวนการยิงมากกว่าที่ 9-1 แต่ทว่าพวกเขายิงตรงกรอบแค่ครั้งเดียวเท่านั้น จากจังหวะยิงไกลนอกกรอบของ กรีซมันน์ปัญหาการสร้างโอกาสและการจบสกอร์ของฝรั่งเศสในยูโร 2024ผลงานแมตช์นี้สะท้อนฟอร์มการเล่นตลอดทัวร์นาเมนต์ของทั้งฝรั่งเศสและเบลเยียมเลยก็ว่าได้ เพราะมีเพียงแค่เซอร์เบียเท่านั้นที่มีอัตราการยิงเข้ากรอบที่แย่กว่า (3.8%) ในรอบแบ่งกลุ่ม โดยฝรั่งเศสและเบลเยียมอยู่ที่ 4.2% เท่ากันฝั่งเบลเยียมพอใจแท็คติกของพวกเขาที่ไม่เน้นการทำเกมรุกมากนักเล่นเน้นรับรอจังหวะสวนกลับ เห็นได้จากการที่มีเพียงแค่ 1 ครั้งเท่านั้นที่เป็นการยิงในครึ่งแรกของเกมนี้ ซึ่งถือเป็นสถิติร่วมกับทีมอื่นๆ ที่มีจำนวนการยิงน้อยที่สุดในครึ่งแรกตั้งแต่ปี 1980 ด้วยวิธีการเล่นของเบลเยียม คีเลียน เอ็มบัปเป้ แสดงความมุ่งมั่นเป็นช่วง ๆ เขาพยายามเลี้ยงกินตัวผู้เล่นฝั่งเบลเยียมอยู่หลายครั้ง แต่ทว่าตลอดครึ่งแรก เขาสามารถเข้าไปในกรอบเขตโทษได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น โอกาสทองอีกครั้งของฝรั่งเศสตกเป็นของ มาร์คัส ตูราม โหม่งบอลที่มาจากการครอสอันยอดเยี่ยมทางด้านขวาของ จู๊ด กุนเด้ พลาดไปอย่างน่าเสียดายดู EURO 2024 ฟรีที่ทรูไอดี และเชียร์สนุกกว่า เมื่อดูผ่าน TVS Now package รับทรูพอยท์ และพบกับนักพากย์ชั้นนำระดับประเทศ ที่ชาวบอลคุ้นเคย trueid://channel.trueid.net/a0pqla6xoeR4ทางฝั่งของเบลเยียมเองการสร้างสรรคเกมนี้ดูดอร์ปลงเนื่องจาก เคฟิน เดอ บรอยน์ ถูกวางให้เล่นในตำแหน่งที่ต่ำกว่าปกติ ทำให้การสร้างสรรเกมแอบน้อยไปหน่อย แถมมีจังหวะที่เสียบอลง่ายๆ อยู่ 2-3 ครั้ง ซึ่งดูเหมือนจะไม่ค่อยเข้ากับแท็คติกของทีมในวันนี้แต่ก็มีจังหวะการขึ้นเกมที่ในช่วงครึ่งหลัง โดเมนิโก เทเดสโก ผู้จัดการทีมเบลเยียม ตัดสินใจแก้เกมปรับให้ เดย์ บรอยน์ ยืนสูงขึ้นและแผงฤทธิ์ จ่ายบอลอย่างแม่นยำให้ ยูนิต คาร์ราสโก้ หลุดแนวรับ แต่โดน เทโอ แอร์กน็องเดซ ก็เข้ามาสกัดบอลได้ในจังหวะสุดท้าย หลังจากนั้นเบลเยี่ยมมีโอกาสจากจังหวะที่ โรเมลู ลูกากู ยิงไปติดเซฟ ไมค์ เมญอง สุดท้ายฝรั่งเศสมาได้ประตูและเป็นประตูชัยในนาทีที่ 85 จากจังหวะที่โคโล มูอานี ยิงไปแฉลบตัวของกองหลังเบลเยียมอย่างแยน แฟร์ตองเก้น เปลี่ยนทางเขาประตูไปนี่เป็นอีก 1 ประตูที่ทีมชาติฝรั่งเศสได้จากการทำเขาประตูตัวเองของทีมคู่แข่งอีกครั้งจากที่ในรอบแรก เคยได้ประตูลักษณะนี้จากในเกมพบออสเตรีย จนมีสถิติออกมาว่าทีมชาติฝรั่งเศสยังทำประตูจากจังหวะโอเพ่นเพลย์ไม่ได้เลยตลอดทั่วนาเม้นต์นี้สถิติที่น่าสนใจหลังเกมฝรั่งเศส vs เบลเยียม- ฝรั่งเศส เอาชนะเบลเยียมได้ทั้ง 5 ครั้งที่พบกันในทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์ ถือเป็นสถิติร่วมกับ อิตาลี ที่เคยเอาชนะ ออสเตรีย ได้ทั้ง 5 ครั้งเช่นกัน โดยเป็นสถิติการชนะ 100% ของทีมชาติยุโรปต่ออีกทีมชาติหนึ่งที่ดีที่สุดในรายการเมเจอร์- ฝรั่งเศส ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายของศึกยูโรเป็นครั้งที่ 6 ซึ่งไม่มีชาติใดเคยเข้ารอบ 8 ทีมได้มากกว่าพวกเขา (เท่ากับ สเปน และ โปรตุเกส)- เบลเยียม ไม่สามารถทำประตูได้ใน 5 จาก 6 เกมหลังสุดในทัวร์นาเมนต์เมเจอร์ ทั้งๆ ที่พวกเขามีโอกาสยิงประตูรวมกันถึง 59 ครั้ง และมีค่า (xG) อยู่ที่ 6.85 ตลอดทั้ง 5 เกมที่ยิงประตูไม่ได้ * ฝรั่งเศส ยิงได้ 3 ประตูในยูโร 2024 โดย 2 ประตูมาจากการทำเข้าประตูตัวเอง และอีก 1 ประตูมาจากจุดโทษ - ประตูชัยชนะจากการทำเข้าประตูตัวเอง ตลอดประวัติศาสตร์ของยูโร มี 5 ครั้งที่ทีมต่างๆ เอาชนะการแข่งขันด้วยสกอร์ 1-0 จากการทำเข้าประตูตัวเองของฝ่ายตรงข้าม โดยฝรั่งเศสทำได้ถึง 3 ครั้ง (ชนะเยอรมันในปี 2020 และชนะออสเตรีย/เบลเยียมในปี 2024)- แยน แฟร์ตองเก้น ทีมเบลเยียม ทำลายสถิติ กลายเป็นนักเตะที่อายุมากที่สุด (37 ปี 68 วัน) ที่ทำเข้าประตูตัวเองในศึกยูโร * กองกลางไร้พ่าย เอ็นโกโล กองเต้ กองกลางตัวรับของฝรั่งเศส สร้างสถิติลงเล่นในยูโรมากที่สุด โดยไม่เคยแพ้เลยตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ (ลงสนาม 12 นัด ชนะ 7 เสมอ 5)- ออเรเลียน ชูอาร์เมนี่ ทำสถิติจ่ายทะลุแนวรับฝ่ายตรงข้ามได้ถึง 21 ครั้งในเกมนี้ โดย 15 ครั้ง เกิดขึ้นในพื้นที่สุดท้าย ถือเป็นสถิติสูงสุดที่นักเตะฝรั่งเศสทำได้ในยูโร 2024 - โดเมนิโก เทเดสโก ผู้จัดการทีมเบลเยียม กลายเป็นชาวอิตาลีคนที่ 11 ที่ได้คุมทีมลงเล่นในรอบน็อคเอาท์ของศึกยูโร ถือเป็นชาติที่มีผู้จัดการทีมมากที่สุดที่เคยคุมทีมในรอบนี้ แซงหน้าสถิติของเยอรมัน (10 คน) สุดท้ายนี้ต้องรอดูกันว่าทีมชาติฝรั่งเศสชุดนี้จะไปได้ไกลแค่ไหนกับฟอร์มที่เป็นอยู่ในตอนนี้จะสานฝันคว้าแชมป์เมเจอร์สุดท้ายของเดชองก์ ที่ยังขาดอยู่ได้หรือไม่ ต้องมารอดูกันครับบทความแนะนำhttps://sport.trueid.net/detail/zQAglm7Od9p6https://sport.trueid.net/detail/o1XB78MbOkb5https://sport.trueid.net/detail/ylOJx5z0xWroขอบคุณภาพประกอบจาก : UEFA EURO 2024ภาพปก 1 / ภาพปก 2 / ภาพประกอบ 1 / ภาพประกอบ 2 / ภาพประกอบ 3 / ภาพประกอบ 4 / ภาพประกอบ 5 / ภาพประกอบ 6 / ภาพประกอบ 7 / ภาพประกอบ 8 / ภาพประกอบ 9 Community ฟุตบอล ถกประเด็นร้อนฟุตบอลทุกลีก ใครตัวเต็ง ใครฟอร์มตก ต้องเคลียร์