สวัสดีเพื่อน ๆ ชาว in-trend ทุกคนนะครับ เนื่องจากว่าตอนนี้กระแสของฟุตบอลยูโร 2020 กำลังมาแรงเลยทีเดียว และผมได้มีโอกาสดูสดเมื่อคืนวันที่ 2 ก.ค. จึงอยากจะมารีวิวการแข่งของ 2 คู่ที่ได้ทำการแข่งขันไปในยูโร 2020 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ว่าจะดุเดือด มันสะใจขนาดไหน แต่ก่อนอื่นเลยผมต้องบอกก่อนว่าผมไม่ใช่คนที่ดูบอลเป็นประจำอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นในเรื่องของศัพท์ทางฟุตบอล ภาษาฟุตบอล ชื่อของผู้เล่น หรือประวัติของผู้เล่น ผมจึงไม่ค่อยมีความรู้มากนัก และในส่วนของการรีวิวฟุตบอลครั้งนี้ก็ถือเป็นครั้งแรกของผมด้วย ฉะนั้นการรีวิวครั้งนี้ผมจะใช้วิธีการรีวิวที่เหมือนกับการรีวิวหนังหรือซีรีส์ที่ผมเคยทำคอนเทนต์ก่อนหน้านี้ โดยผมจะพูดถึงแต่ในการแข่งขันเพียงแมตช์นี้และอาจพูดถึงแมตช์ก่อนหน้ารอบ 8 ทีมในยูโร 2020 นี้เท่านั้นนะครับ และถ้าหากพร้อมกันแล้ว เราไปดูกันเลย..!!! คู่ที่ 1 สวิตเซอร์แลนด์ vs สเปน เริ่มกันที่คู่แรกอย่างทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ พบกับ ทีมชาติสเปน ต้องบอกก่อนเลยตอนแรกว่าผมไม่คิดว่าสวิตเซอร์แลนด์จะสามารถสู้กับสเปนได้ ก่อนแข่งคิดไว้ว่าน่าจะโดนสเปนเล่นอย่างน้อยนำ 2 ประตู แต่พอมาดูการแข่งจริงแล้ว เฮ้ย..มันไม่ใช่แบบที่คิดเลย สวิตเซอร์แลนด์ทุ่มสุดตัวมากกับการแข่งนี้ ถึงแม้ในตอนแรกจะถูกสเปนทำประตูขึ้นนำไปก่อน 0-1 ในนาทีที่ 8 และยังต้องคอยตั้งรับการบุกของทีมสเปนอยู่ตลอดในช่วง 30 นาทีแรก แต่หลังจากนั้นทีมสวิตเซอร์แลนด์ก็ได้มีโอกาสเริ่มบุกบ้าง ทำเอาผมนี่ลุ้นเหมือนกันว่าสเปนจะเสียประตูมั้ย เพราะสวิตเซอร์แลนด์สามารถตั้งรับและบุกกลับทีมสเปนได้อย่างดี แต่ก็ยังไม่สามารถทำประตูฝั่งสเปนได้เลย จนจบครึ่งแรกไปที่ score 0-1 โดยทีมสเปนนั้นนำอยู่ 1 ประตู พอมาครึ่งหลังเกมเริ่มมาเป็นของทางฝั่งสวิตเซอร์แลนด์มากขึ้น จังหวะการส่งบอลเริ่มดีขึ้น มีเปอร์เซ็นต์การครองบอลมากขึ้น และเล่นเป็นทีมเวิร์คได้ดียิ่งขึ้น ในที่สุดสวิตเซอร์แลนด์ก็สามารถทำประตูตีเสมอได้ในที่สุด ทำเอาผมคิดว่าสวิตเซอร์แลนด์นั้นก็มีโอกาสที่จะพลิกขึ้นนำและชนะสเปนก็ได้นะ การแข่งขันในครึ่งหลังดำเนินไปอย่างดุเดือด ทั้ง 2 ทีมผลัดกันรุกผลัดกันรับอย่างสูสี ไม่มีใครยอมใครเลยจริง ๆ ฝั่งนึงยิงอีกฝั่งนึงก็ป้องกันอย่างสุดกำลัง จนหมดเวลาการแข่งขันครึ่งหลัง จบกันด้วยผลเสมอกัน 1-1 ทำให้ต้องเข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษ แม้จะมีช่วงทดเวลา และช่วงต่อเวลาพิเศษ การแข่งขันของทั้งคู่ก็ยังคงเสมอกันอยู่ที่ 1-1 ดังนั้นจึงตัดสินด้วยการยิงลูกโทษ และผลการแข่งขันจบลงที่สเปนสามารถเอาชนะสวิตเซอร์แลนด์จากการดวลจุดโทษ โดยฝั่งสเปนยิงเข้า 3 ลูก และสวิตเซอร์แลนด์ยิงเข้า 1 ลูก ทำให้สเปนเข้าไปลุ้นผู้ท้าชิงในรอบ 4 ทีมสุดท้ายต่อไป ซึ่งจะเป็นเบลเยี่ยมหรืออิตาลีก็ต้องรอติดตามในคู่ที่ 2 ครับ ต้องบอกเลยว่าเปิดการแข่งขันคู่แรกมาก็ดุเดือด มันสะใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ทั้ง 2 ทีมเล่นได้ดีมาก ทั้งฟอร์มการเล่น สปีริตและทีมเวิร์คดีไม่แพ้กันเลย ที่สำคัญผู้รักษาประตูทั้ง 2 ทีม คือเหนียวจัด เซฟสวยมาก ทำเอาแบบทึ่งเลยทั้งที่คิดว่าจะรับไม่ได้ด้วยซ้ำ สำหรับสเปนผมชื่นชอบในการเล่นของทีมนี้อยู่แล้ว แต่ต้องขอชื่นชมในทีมสวิตเซอร์แลนด์ เพราะทำให้ผมว้าวและทึ่งกับการเล่นของทีมนี้มาก อย่างสเปนแม้ผมจะไม่ใช่สายฟุตบอลแต่ผมก็พอรู้จักชื่อเสียงของทีมชาติสเปนอยู่พอสมควร แต่สวิตเซอร์แลนด์ผมกลับไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่นัก เปรียบได้กับเป็นมวยรอง แต่ทีมนี้ทำให้ผมลุ้นว่าอาจจะเอาชนะสเปนก็เป็นได้นะ เพราะในรอบที่ผ่านมาสวิตเซอร์แลนด์สามารถเล่นได้สูสีกับทีมชาติฝรั่งเศสแชมป์โลกปี 2018 เลย และเอาชนะฝรั่งเศสในการดวลจุดโทษจนผ่านเข้ารอบมาเจอกับสเปนในรอบ 8 ทีม ก็เรียกได้ว่าฝีมือแหละ ไม่ใช่โชคช่วย แต่ถึงอย่างไรก็ตามคู่นี้ถือว่าเป็นคู่ที่มัน เกมดุเดือด สูสีกันเป็นอย่างมาก สมกับเป็นรอบ 8 ทีมสุดท้ายจริง ๆ คู่ที่ 2 เบลเยี่ยม vs. อิตาลี เรียกได้ว่าเป็นอีกคู่ที่น่าติดตามเป็นอย่างมาก สำหรับทีมเบลเยี่ยมที่เอาชนะแชมป์เก่าอย่างโปรตุเกส 1-0 ต้องโคจรมาพบกับทีมชาติอิตาลีที่ชนะออสเตรียมาได้อย่างหวุดหวิด 2-1 ในความคิดผมทั้งทีมเบลเยี่ยมและอิตาลีถือว่ามีเปอร์เซ็นต์ที่จะชนะพอ ๆ กันเลย เบลเยี่ยมนี่ก็ฟอร์มการเล่นดี ส่วนอิตาลีนี่ก็มาแรงเหลือเกินในยูโร 2020 นี้ มีความเป็นไปได้ที่อาจจะเสมอกันแล้วไปตัดสินกันด้วยการดวลจุดโทษ แต่ผลมันไม่ใช่แบบนั้นสิครับ เริ่มต้นการแข่งขันมาด้วยการบุกของทางฝั่งอิตาลีซะส่วนใหญ่ และเป็นอิตาลีที่สามารถทำประตูขึ้นนำได้ก่อน 0-1 แม้จะมีเสียดายบ้างที่ก่อนหน้านี้ตอนยิงฟรีคิกอิตาลีสามารถทำประตูได้แต่กรรมการตัดสินว่าล้ำหน้าจึงไม่ได้ประตู แหม่..ไม่งั้นอิตาลีได้นำ 2 ประตูเลยนะเนี่ย แต่ถึงอย่างไรอิตาลีก็ได้นำ 1 ประตู กดดันฝ่ายเบลเยี่ยมไปก่อน และช่วงก่อนหมดครึ่งแรกอิตาลีก็สามารถทำประตูทิ้งห่างออกไปอีกเป็น 0-2 สร้างความกดดันให้เบลเยี่ยมเพิ่มขึ้นไปอีก แต่มาพลาดตรงอีก 1 นาทีหลังจากนั้นที่อิตาลีทำฟาวล์จนทำให้เบลเยี่ยมได้ยิงจุดโทษ และทีมเบลเยี่ยมก็ทำได้ ทำประตูตีตื้นขึ้นมาเป็น 1-2 และหมดครึ่งแรกไปด้วย score ที่เบลเยี่ยมตามอิตาลีอยู่เพียง 1 ประตูเท่านั้น ในครึ่งหลังผมก็มีแอบลุ้นอยู่บ้างนะว่าเบลเยี่ยมจะตีเสมออิตาลีได้ เพราะเกมมันดุเดือดเป็นอย่างมาก ทั้งผลัดกันรุกผลัดกันรับอย่างสูสี ฝ่ายนึงยังฝ่ายนึงรับได้แล้วบุกกลับ ทั้ง 2 ทีมก็พยายามที่จะทำประตู แต่ก็ไม่มีทีมไหนสามารถทำประตูเพิ่มได้ จนสิ้นเสียงนกหวีดหมดเวลาการแข่งขันในครึ่งหลัง อิตาลีสามารถเอาชนะเบลเยี่ยมไปได้ด้วย score 1-2 และเข้าไปพบกับทีมชาติสเปนในรอบ 4 ทีมสุดท้าย ต้องขอบอกว่านี่เป็นอีกคู่ที่เดือดไม่แพ้กันเลยจริง ๆ ทำเอาลุ้นตัวโก่งกันเลยทีเดียวครับ สำหรับทีมเบลเยี่ยมถือว่าสุดยอดมากครับ ถึงแม้จะไม่ชนะการแข่งแต่ชนะใจแฟน ๆ ไปเลย รวมถึงผมแม้จะไม่ใช่แฟนเบลเยี่ยมแต่ก็รู้สึกชอบในการเล่นของทีมนี้และบอกได้เลยว่าทำให้ผมอยากเปลี่ยนใจไปเชียร์เบลเยี่ยมเลยทีเดียว ส่วนอิตาลีนั้นก็สุดยอดไม่แพ้กัน บอกเลยว่าผู้เล่นอิตาลีชุดนี้ฟอร์มดีจัด ๆ ทั้งบุกทั้งตั้งรับ รวมถึงเล่นเข้าขากันเป็นอย่างดี ทีมเวิร์คนี่ให้เต็ม 10 เลย ก็ต้องมาลุ้นกันแล้วแหละว่าเจอกับสเปนจะโชว์การเล่นแบบไหนให้เราได้เห็นกัน แหม่..2 ทีมโปรดเข้ารอบมาเจอกัน เลือกเชียร์ไม่ถูกเลยทีนี้ เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับรีวิวการแข่งขันของ 2 คู่แรกในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ดุเด็ดเผ็ดมันสมกับที่รอคอยเลยจริง ๆ นะครับ แล้วพบกันในรีวิวการแข่งขันของ 2 คู่หลังในรอบ 8 ทีม ระหว่างคู่ที่ 3 สาธารณรัฐเช็ก พบกับ เดนมาร์ก และ คู่ที่ 4 ยูเครน พบกับ อังกฤษ นะครับ ขอบคุณผู้อ่านทุกคนด้วยครับ อย่าลืมกดแชร์และกดติดตามเพื่อเป็นกำลังใจให้ผมและเพื่อไม่ให้พลาดคอนเทนต์สนุก ๆ จาก D.O.M นะครับ สามารถรับชมคู่อื่น ๆ แบบถ่ายทอดสดทาง True Sports HD และ NBT2 HD ขอขอบคุณรูปภาพสวย ๆ จาก EURO2020 : ภาพปก / ภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่4 / ภาพที่5 / ภาพที่6 / ภาพที่7 / ภาพที่8 / ภาพที่9 ช่อง ID Staion ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ และกีฬาชั้นนำทั่วโลก >> คลิกที่นี่ วิธีการดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีกฟรี ทางช่อง ID Station >> คลิกที่นี่ ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดทุกแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี!