จบลงไปแล้วสำหรับคิงส์คัพครั้งที่ 48 ซึ่งจัดที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีชาติที่เข้าร่วมแข่งขันประกอบด้วยทีมชาติไทย ทีมชาติมาเลเซีย ทีมชาติทาจิกิสถาน และตรินิแดดและโตเบโก จัดการแข่งขัน 22 - 25 กันยายน 2565บทสรุป ปรากฏว่าแชมป์คิงส์คัพครั้งที่ 48 เป็นของประเทศทาจิกิสสถาน รองแชมป์เป็นของประเทศมาเลเซีย อันดับ 3 เป็นของประเทศไทย ส่วนอันดับ 4 เป็นของประเทศตรินิแดดและโตเบโก วันนี้ผู้เขียนขอสรุปสิ่งที่เห็นจากคิงส์คัพครั้งที่ 48 รวมไว้ดังนี้1.จัดคิงส์คัพต่างจังหวัดผลตอบรับดีเสมอเป็นเวลานานมากทีเดียวที่จังหวัดเชียงใหม่ไม่ได้จัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลระดับประเทศ จนมาถึงปีนี้ ปี 2565 ทางจังหวัดเชียงใหม่ได้รับเกียรติให้จัดการแข่งขันคิงส์คัพครั้งที่ 48 ทำให้เป็นที่สนใจของประชาชนทั้งประเทศ เนื่องจากจังหวัดเชียงใหม่ขึ้นชื่อว่าเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเทียวมากมาย ดังนั้นนอกจากจะได้ดูบอลระดับชาติแล้ว ก็ถือโอกาสท่องเทียวด้วยเลย ทำให้กระแสการตอบรับเข้าชมการแข่งขันดีอย่างมาก อันจะเห็นได้จากประชาชนและสื่อมวลชนต้องถามหาบัตรเข้าชมการแข่งขันอย่างมากมาย อีกทั้งยังมีการเดินทางเพื่อซื้อบัตรเข้าชมตั้งแต่เช้าตรู่ ต่อแถวกันอย่างยืดยาว จนกระทั่งในนัดที่ทีมชาติไทยพบกับทีมชาติมาเลเซีย มีผู้เข้าชมถึง 16,219 คน ส่วนในนัดชิงที่ 3 มีกระแสไม่ค่อยดีนักว่าจะมีผู้เข้าชมน้อย เนื่องจากฟอร์มของทีมชาติไทยไม่ดีในนัดแรก แต่พอแข่งจริง มีผู้เข้าชมถึง 12,212 คน ถึงแม้ว่าจะน้อยกว่านัดเจอมาเลเซียก็ตาม นั่นแสดงว่าการจัดคิงส์คัพต่างจังหวัดจะมีผลการตอบรับจากแฟนบอลที่ดีเสมอ2.ผลงานทีมชาติไทยคิงส์คัพครั้งที่ 48ทีมชาติไทยออกสตาร์ทได้ไม่ดีนัก โดยการเสมอกับทีมชาติมาเลเซียในเวลา 90 นาที 1ประตูต่อ 1 แบบน่าแพ้มากๆ จึงต้องดวลกันด้วยจุดโทษ เพื่อหาทีมเข้าชิงในรายการนี้ ปรากฏว่า ทีมชาติไทยแพ้จุดโทษให้กับมาเลเซีย อกหักเช้าชิง ทำได้เพียงแค่ชิงที่ 3 ผลงานทีมชาติไทยไม่เป็นไปตามเป้าหมายคือต้องเข้าชิง และเป็นแชมป์ แต่สิ่งที่เกิดขึ้น แฟนบอลผิดหวังอย่างแรง เนื่องจากการเล่นของทีมชาติไทยไม่อยู่ในฟอร์มที่ดีเลย รูปแบบการเล่นขาดๆ เกินๆ ขาดความเข้าใจกันและกัน กองหน้าก็ไม่คมพอ กองกลางต่อบอลกันไม่ได้ ทำให้ภายหลังเกมส์การแข่งขันมีกระแสกดดันทั้งโค้ชและนายกสมาคมฟุตบอลต้องลาออก เพื่อรับผิดชอบผลงานของทีมชาติไทย อย่างไรก็ตามในนัดชิงที่ 3 กับทีมชาติตรินิแดดและโตเบโก ทีมชาติไทยสามารถทำผลงานที่ดีขึ้น รูปแบบการเล่นเป็นที่น่าประทับใจของแฟนบอล โดยสามารถเอาชนะคู่แข่งไปได้ 2 ประตูต่อ 1 ทำให้ได้ตำแหน่งอันดับที่ 3 ไปครอง สรุปโดยภาพรวมแล้ว ทีมชาติไทยสอบตกกับทัวร์นาเม้นต์นี้3.ดาวรุ่งแจ้งเกิดการจัดการแข่งขันฟุตบอลคิงส์คัพครั้งที่ 48 ทีมชาติไทยได้มีการเรียกนักเตะดาวรุ่งฝีเท้าดีหลายคน เพื่อมาทดแทนรุ่นพี่ที่สังขารก็โรยราไปตามอายุที่เพิ่มขึ้น ซึ่งแต่ละคนก็แสดงศักยภาพออกมากเป็นที่น่าพึงพอใจของแฟนบอล เนื่องจากสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะในรายของชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ตำแหน่งกองกลางที่สามารถเล่นร่วมกับรุ่นพี่ในทีมชาติอย่าไม่เคอะเขิน โดยทำประตูได้ในนัดที่เจอกับทีมชาติตรินิแดดและโตเบโก รวมทั้งฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ ตำแหน่งแบ็คซ้ายที่เล่นได้อย่างแข็งแกร่ง ราวกับได้เล่นกับทีมชาติชุดใหญ่มานาน อีกคนที่ดูแล้วสามารถเป็นกำลังหลักของทีมชาติไทยในอนาคต คือ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ตำแหน่งกองหน้า ที่มีความเร็ว และความแข็งแกร่ง แต่ต้องพัฒนาการจบสกอร์ที่คมกว่านี้ สรุปแล้วถึงแม้ผลงานทีมชาติไทยไม่ร้อนแรงตามที่คาด อย่างน้อยก็มีดาวรุ่งแจ้งเกิด เป็นความหวังของทีมชาติไทยในอนาคตได้ 4.แรงกดดันของนักเตะที่ค้าแข้งในญี่ปุ่นคิงส์คัพคราวนี้ทีมชาติไทยได้ทำการเรียกผู้เล่นที่ค้าแข้งในญี่ปุ่น 2 คือ คือชนาธิป สงกระสินธ์ และศุภโชค สาระชาติ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นความหวังของทีมชาติไทยก็เป็นได้ แฟนบอลต่างก็คาดหวังว่าทั้งชนาธิปและศุภโชค จะมายกระดับการเล่นให้กับทีมชาติไทย คาดว่าแรงกดดันเหล่านี้ ส่งไปถึงนักเตะไม่มากก็น้อย ซึ่งในรายของชนาธิป คงตั้งใจเล่นเต็มพี่เพื่อชาติไทย ทุ่มเทสุดกำลัง จนเกิดอาการบาดเจ็บเล่นงาน ลงเล่นได้เพียงแค่สิบกว่านาที ในขณะที่ศุภโชค มีโอกาสได้ลงสนามเต็ม 90 นาที แต่ก็ไม่สามารถโชว์ฟอร์มที่ตัวเองถนัดได้ จนกระทั่งต้องมีการยิงจุดโทษเพื่อหาผู้ชนะ ศุภโชคเป็นคนเดียวที่ยิงจุดโทษพลาด ทำให้แพ้ให้กับมาเลเซียไป เขาเสียใจไม่น้อยถึงขั้นหลั่งน้ำตา ที่ไม่สามารถทำให้แฟนบอลสมหวังได้ดังตั้งใจ5.อนาคตฟุตบอลไทยจากการลงเล่น 2 นัด ของทีมชาติไทย ดูเหมือนจะมีกระแสให้มีการปรับเปลี่ยนโค้ช รวมทั้งให้มีการปรับเปลี่ยนนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เนื่องจากเป้าทีมชาติไทยของรายการนี้คือการเข้าชิงและเป็นแชมป์ แต่ไปพลาดท่าให้กับมาเลเซียในนัดแรก ฟอร์มการเล่นไม่เป็นที่ประทับใจของแฟนบอลเลย บ้างก็ว่าการจัดตัวของโค้ชพลาดบ้าง นักเตะหมดสภาพบ้าง ฟอร์มตกบ้าง นักเตะแต่ละคนก็โดนแฟนบอลบ่นไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามทีมชาติไทยก็มาแก้ตัวโดยการเอาชนะทีมชาติตรินิแดดและโตเบโกในนัดชิงที่ 3 ดาวรุ่งหลายๆคนที่สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างประทับใจ อย่างน้อยอนาคตฟุตบอลทีมชาติไทยต่อจากนี้ยังมีผู้เล่นที่มีศักยภาพ สามารถทดแทนรุ่นพี่ ที่คงต้องออกจากสารบบทีมชาติไทยในวันหนึ่ง ทำให้อนาคตฟุตบอลไทยยังมีความหวัง และสิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือ อนาคตฟุตบอลไทยจะดีหรือแย่ไปกว่านี้ ก็ขึ้นอยู่กับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ของวงการฟุตบอลคิงส์คัพจบลงไปแล้ว โคชทีมชาติไทยได้ลองผู้เล่นทั้งตัวเก่าและตัวใหม่ ก็หวังว่าคงจะได้ผู้เล่นที่เหมาะสมกับแทคติก และแผนการเล่นที่จะใช้สำหรับสู้ศึกใหญ่ในอนาคตอันใกล้นี้ ส่วนแฟนบอลก็มีหน้าที่เชียร์ต่อไป แล้วเจอกันคิงส์คัพครั้งหน้า สวัสดี ขอบคุณภาพประกอบ :ภาพที่ 1 โดย Theerathon Bunmathan/Facebookภาพที่ 2 โดย Theerathon Bunmathan/Facebookภาพที่ 3 โดย Changsuek/Twitterภาพที่ 4 โดย Theerathon Bunmathan/Facebookขอบคุณภาพปก :ภาพที่ 1 โดย Theerathon Bunmathan/Facebookภาพที่ 2 โดย Theerathon Bunmathan/Facebookส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !