เวิลด์คัพ? ชุดใหญ่? ลีกต่างแดน? ส่องประสบการณ์แข้ง "เวียดนาม" มีดีแค่ไหน ก่อนคว้ารองแชมป์เอเชีย ... by "จอน"
ฮือฮา! บิ๊กเซอร์ไพรส์! ยิ่งใหญ่! เสียดายแทน! สุดยอด! ฯลฯ
…ไม่รู้จะสรรหาคำไหนดีมาทดแทนการสร้างประวัติศาสตร์ของทีมชาติเวียดนาม รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่เพิ่งคว้ารองแชมป์ศึก ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2018 มาได้เมื่อช่วงวันเสาร์ที่ผ่านมา
แม้ผิดหวังจากการพ่าย อุซเบกิสถาน ยู-23 แบบหวุดหวิดจากประตูชัย 1-2 ในนาทีที่ 120 หลังเสมอในเวลา 90 นาที ที่สกอร์ 1-1 แต่แฟนบอลทั่วเอเชีย ต่างก็พร้อมใจกันซูฮก เวียดนาม ชุดนี้ว่าไม่ได้ฟลุ๊คนะ เก่งจริง และมีอนาคตแน่นอน
จบทัวร์นาเมนต์ Spotlight ความสำเร็จหนีไม่พ้นที่จะสาดส่องไปหา พาร์ค ฮัง ซอ กุนซือชาวเกาหลีใต้ วัย 58 ปี ที่เข้ามาคุมทีมชาติเวียดนามได้ไม่นาน และมอบความสำเร็จได้ทันทีในรายการระดับเมเจอร์ของทวีป รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ซึ่งเขาถูกยกย่องมากที่ใส่แทคติก และวิธีการเล่นอันเหมาะสมกับศักยภาพที่นักเตะเวียดนามมี จนทำให้เกิดผลลัพท์อย่างที่หวังได้
ปัจจัยหลักสร้างความสำเร็จครั้งนี้ของทัพ “ดาวทอง” เกิดจากระบบการเล่นที่เหมาะสม ประกอบกับแทคติกที่ยอดเยี่ยมของเฮดโค้ช ที่นำมามอบให้กับเหล่านักเตะที่ “น้ำไม่เต็มแก้ว” มีความแข็งแกร่ง อดทน ขยันพร้อมจะเพรสซิ่งทุกทีม
แต่ผมยังเชื่อว่า มีปัจจัยรองอื่นๆ ที่แฝงอยู่ในโปรไฟล์ของนักเตะ ซึ่งถูกกลั่นกรองมายาวนานหลายปี จนข้นคลั่ก และเรียกใช้งานมันได้ทันที นั่นคือ “ประสบการณ์”
FT: Vietnam ?? 1 – 2 Uzbekistan ??
Massive win! Congratulations Uzbekistan for being crowned the #AFCU23 champions! #VIEvUZB pic.twitter.com/6oOxfVwHv7
— #AFCU23 (@theafcdotcom) January 27, 2018
นักเตะเวียดนามชุดนี้ หลายคนผ่านความผิดหวัง ผ่านประสบการณ์ร้ายๆ ผ่านการดูถูกดูแคลน ผ่านความล้มเหลว คลุกดินหินฝุ่นมามากมาย ก้อนประสบการณ์เหล่านั้นได้สั่งสอนให้พวกเขาเรียนรู้จะสู้อย่างมีระบบกับภาวะความกดดันในเกมแบบทัวร์นาเมนต์
พวกเขา ไม่วอกแวก… แม้จะเริ่มต้นด้วยการพ่ายแพ้เกมแรก
พวกเขา ละเอียดทุกนาที… แม้ต้องอยู่ในกลุ่มที่โหดและเขี้ยว
พวกเขา ไล่ตีเสมอทีมชั้นนำของทวีปถึง 3 นัดติดต่อกัน… แม้สุดท้ายจะได้แค่รองแชมป์ แต่นั่นก็เพียงพอต่อการยกย่อง
พวกเขา กดดัน และเป็นรองทุกนัด… แต่ก็เอาตัวรอดได้ดีเยี่ยมเหลือเกิน
แล้วอะไรบ้างหล่ะที่สั่งสมให้พวกเขามี “ประสบการณ์” จนสร้างผลงานได้ขนาดนี้
ลองอ่านกันดูนะครับ…
ฟุตบอล ยู-20 ชิงแชมป์โลก 2017
แม้อายุเฉลี่ยของทีมชุดนี้จะมีเพียงแค่ 20.7 ปี เท่านั้น แต่นักเตะเวียดนามชุดนี้ เคยผ่านการลงเล่นฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ของรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี มาแล้วถึง 7 คน จากทั้งทีม 23 คน และมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วเองด้วย ฉะนั้น แน่นอนว่านักเตะหลายคนมีประสบการณ์การเล่นทัวร์นาเม้นต์ระดับโลกมา แถมยังเก็บได้ 1 แต้มประวัติศาสตร์จากการเสมอ นิวซีแลนด์ 0-0 อีกด้วย
ส่วน เหงียน ควาง ไฮ มิดฟิลด์วัย 20 ปี ที่ผ่านเกมระดับเวิลด์คัพ มาแล้ว ซึ่งกดไป 5 ประตูในทัวร์นาเมนต์นี้ ก็ได้แสดงให้เห็นว่า “อายุไม่มีผล หากคุณเก่ง และมีประสบการณ์มากพอ”
ติดทีมชาติเวียดนามชุดใหญ่
ตัวเลข 8 คนที่ติดทีมชาติชุดใหญ่ของเวียดนาม ไปแล้ว และอีก 3 คนที่เคยถูกเรียกมาฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่ ทั้งที่มีอายุเฉลี่ยแค่ 20 ปีเศษๆ น่าจะเพียงพอที่จะบอกว่า พวกเขา คือ กลุ่มนักเตะอายุน้อยที่มีประสบการณ์เยอะ
เหงียน คอง เฟือง, เหงียน ควาง ไฮ, เลือง ซวง ตรวง, เหงียน วัน ตวน, ดวน วัน ฮัว ฯลฯ นักเตะตัวหลักของทีมชุดนี้ ต่างก็ผ่านการลงเล่นชุดใหญ่มาแล้วทั้งนั้น
“พวกเขาผ่านความผิดหวังมาแล้ว
แต่ความผิดหวังจากฟุตบอลรุ่นใหญ่ ส่งผลให้พวกเขาแข็งแกร่งในรุ่นเล็ก”
หันมามองทีมชาติไทย ชุด ยู-23 ครั้งนี้ แม้นักเตะเกือบทั้งหมดจะเคยผ่านการเป็นแชมป์ ซีเกมส์ มาแล้ว ทว่าหากนับในเรื่องทีมชาติชุดใหญ่นั้น ถือว่า ยังด้อยกว่า เวียดนามอย่างมาก โดยทีมชาติไทย ยู-23 เคยมีคนติดชุดใหญ่แล้วแค่ 3 คนเท่านั้น นั่นคือ เจนรบ สำเภาดี, สุภโชค สารชาติ และ ชัยวัฒน์ บุราณ ซึ่งทั้งหมด เคยลงสนามให้ชุดใหญ่ไปแค่คนละ 1 เกมเท่านั้น
ผ่านการลงเล่นฟุตบอลอาชีพที่ต่างประเทศ
แม้ทีมชาติไทย จะมีนักเตะที่เคยลงเล่นในลีกต่างประเทศ 2 คน แต่นั่นก็เป็นนักเตะในตำแหน่งแนวรับทั้ง นนท์ ม่วงงาม กับ จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ (แบ็คขวา) โดยมีอีกหลายคนเคยถูกไปฝึกที่ต่างประเทศ ทั้งกับ แอต.มาดริด หรือ ลีกญี่ปุ่น เช่น ชัยวัฒน์ บุราณ, วรชิต กนิษศรีบำเพ็ญ, พิชา อุทรา
แต่หากเทียบกับนักเตะเวียดนามแล้ว ก็ยังมองว่า “ทัพดาวทอง” ยังมีภาษีดีกว่า เพราะพวกเขามีดาวเตะถึง 2 คน ซึ่งเป็นตัวหลักในทีมชุดนี้ และเล่นในตำแหน่งหัวใจของเกมอย่างกองกลาง ซึ่งเคยผ่านการเล่นในลีกญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้มาแล้ว
คนแรกนั่นคือ เลือง ซวง ตรวง ที่เคยผ่านประสบการณ์การยืมตัวสู่ อินชอน ยูไนเต็ด กับ กังวอน เอฟซี ในลีกเกาหลีใต้ ส่วนอีกรายก็คือ เหงียน กง เฝิง (คอง เฟือง) ที่เคยผ่านการลงสนามให้กับ มิโตะ ฮอลลี่ฮ็อค ทีมระดับ เจ ทู ของญี่ปุ่น โดยทั้งคู่ เป็นสุดยอดตัวหลักของทีมชุดนี้ และแน่นอน พวกเขาทั้งสองคืออนาคตที่ดีงามของทีมชาติเวียดนามอย่างแท้จริง
ประสบการณ์เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ
มันส่งผลโดยตรงต่อสภาพจิตใจของนักกีฬา ที่จะสามารถคอนโทรลสถานการณ์ต่างๆ ของเกมได้ดีขึ้น
และนี่ คือ สิ่งที่เวียดนามชุดนี้ มีเหนือกว่าทีมชาติไทย และเหนือกว่าอีกหลายทีม
จนสามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่แฝงไว้ด้วยความเสียดายแบบนี้ได้
“จอน”
ดูบอลสดออนไลน์ผ่านเว็บที่นี่ และติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports