ราชันชุดขาวเรอัล มาดริดเดินทางมาสู่รอบชิงชนะเลิศUCL อีกครั้ง จนถึงตอนนี้ราชันชุดขาวลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกไปแล้วถึง 17 ครั้ง ซึ่งร่วมถึงชื่อเดิมคือของรายการนี้ และนี่คือรายละเอียดของรอบชิงชนะเลิศและจำนวนยักษ์ใหญ่ของสเปนที่พลาดชูถ้วยแชมป์กับรายการยิ่งใหญ่ของยุโรปเรอัล มาดริดเป็นทีมที่มีผลงานโดดเด่นที่สุดในโลกและในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ไม่มีสโมสรใดคว้าแชมป์ได้มากไปกว่านี้ซึ่งราชันชุดขาว คว้าแชมป์ไป 14 ครั้ง โดยมาถึงรอบชิงชนะเลิศของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกรวมทั้งหมด 17 ครั้งในประวัติศาสตร์รายการนี้ ใน 3 ทีมที่ทำให้เรอัล มาดริดแพ้ในรอบชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกก็คือเบนฟิก้า, อินเตอร์ มิลาน และลิเวอร์พูลรอบชิงชนะเลิศปี 1961-62: เรอัล มาดริด พบ เบนฟิก้า (3-5)สองประตูที่ห่างกันไม่กี่นาทีของยูเซบิโอ: สองประตูของยูเซบิโอภายในห้านาทีในครึ่งหลัง (นาทีที่ 64 และ 68) มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเปลี่ยนโมเมนตัมทั้งหมดนั่นส่งผลอย่างยิ่งที่ทำให้เบนฟิกาตว้าแชมป์ไปในที่สุดรอบชิงชนะเลิศปี 1963-64: เรอัล มาดริด พบ อินเตอร์ มิลาน (1-3)ผลงานอันยอดเยี่ยมของซานโดร มาซโซลา: ซานโดร มาซโซลาทำประตูได้ 2 ประตู (นาทีที่ 10 และ 75) ให้อินเตอร์ แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในการโจมตี รวมถึงเกมรับที่ป้องกันเกมรุกที่ยื้อจนจบครึ่งแรก ทำให้ราชันชุดขาวไม่มีทางเลือกต้องเปลี่ยนเล่นเกมรุกเต็มสูบ จนทำให้นำมาซึ่งการเสียประตูที่สองรอบชิงชนะเลิศปี 1980-81: เรอัล มาดริด พบ ลิเวอร์พูล (0-1)ประตูของอลัน เคนเนดี้ ที่เปลี่ยนทุกสิ่ง : อลัน เคนเนดียิงประตูเดียวของนัดในนาทีที่ 82 โดยใช้ประโยชน์จากจังหวะการป้องกันของเรอัล มาดริดที่ผิดพลาด และก็ลงโทษได้สำร็จบทเรียนและผลกระทบกับสามนัดที่พลาดท่าในรอบชิงชนะเลิศแต่ละนัด ช่วงเวลาสำคัญ เช่น ขึ้นนำตั้งแต่เนิ่นๆ ข้อผิดพลาดในการป้องกัน และประตูสำคัญของคู่ต่อสู้เป็นตัวกำหนดผลลัพธ์ เรอัล มาดริดต้องเผชิญกับทีมที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่น และถึงแม้จะพยายามแล้ว ก็ไม่สามารถคว้าชัยชนะในการเผชิญหน้าเหล่านี้ได้ ประสบการณ์ของเรอัล มาดริดในการแพ้รอบชิงชนะเลิศแชมเปียนส์ลีก ถือเป็นส่วนสำคัญในการกำหนดแนวทางสู่การแข่งขันระดับยุโรปบทเรียนที่ได้เรียนรู้จากความพ่ายแพ้เหล่านี้มีบทบาทสำคัญในความสำเร็จในที่สุด รวมถึงการคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก 14 สมัยในปี 2023 สิ่งทำให้แตกต่างไปจาก สามเกม นั่นก็คือ ด้วยการจัดการกับจุดอ่อน การลงทุนในความสามารถของนักเตะ และการสร้างทีมที่มีความยืดหยุ่นและปรับตัวได้เรอัล มาดริด นั่นจึงตอกย้ำว่าทำไมจึงทำให้ประสบความสำเร็จมากที่สุดกลายเป็นสโมสรในประวัติศาสตร์ฟุตบอลยุโรปมากที่สุดจนถึงตอนนี้ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าก็จะได้ทราบกันแล้วว่าราชันชุดขาวเรอัลมาดริดจะคว้าแชมป์สมัยที่ 15 หรือจะกลายเป็นความพ่ายแพ้ในรอบชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกครั้งที่ ในรอบกว่าสี่ทศวรรษกันแน่ เป็นหนึ่งในนัดชิงชนะเลิศUCLที่เหล่าแฟนลูกหนังไม่ควยพลาดอย่างยิ่งยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศเรอัลมาดริด พบ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์สนาม: สนามกีฬาเวมบลีย์วันที่: 2 มิถุนายน 2024เวลา: 02:00 น.ลิงค์ดูบอล :beIN SPORTS 3ข่าวที่เกี่ยวข้อง5 เหตุผลที่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จะคว้าแชมป์ UCL รอบชิงชนะเลิศ!บาเยิร์น มิวนิค vs แมนซิตี้ ศึกแชมป์ชนแชมป์ สองโคตรทีมบาร์เยิน Vs แมนซิตี้ วิเคราะห์บอล เสื้อใต้เปิดหน้าสู้-เรือใบเน้นสวนกลับ ศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกเครดิตภาพปก uefa.com :: ภาพที่ 2เครดิตภาพปก /ChampionsLeague :: ภาพที่ 1 , ภาพที่ 4 , ภาพที่ 5 , uefa.com :: ภาพที่ 2, ภาพที่ 3 , ภาพที่ 6ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !