เข้าสู่ลูปเดิม!! เก็บตก 4 ประเด็นร้อน หลัง แมนยู พ่าย ปืนใหญ่ คารัง 0-1
พลังแฝงของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา หมดลงอีกครั้ง หลังพาทีมพังคารัง (อีกแล้ว) และนี่คือ 4 ประเด็นเด็ด ที่มองเห็นจากเกมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พ่ายให้กับ อาร์เซน่อล 0-1 ในศีกพรีเมียร์ลีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
1. แดนกลาง แมนยู ถูก ปาร์เตย์ จัดการจนเล่นไม่ออก
เกมนี้ แดนกลางของ อาร์เซน่อล ไม่มีนักเตะอย่าง กรานิต ชาคา และ ดานี่ เซบายอส ตัวหลักของทีม แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเลย เมื่อ โธมัส ปาร์เตย์ ที่ได้ลงสนาม ระเบิดฟอร์มการเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม จัดการหยุด และทำลายเกมรุกของบรรดาดาวเตะ "ปีศาจแดง" จนไปไม่เป็น
กองกลางค่าตัว 45 ล้านปอนด์ โชว์ให้เห็นแล้วว่า มิดฟิลด์ที่เล่นได้ทั้งรุกและรับเป็นยังไง เขาสามารถไล่บี้ไล่กดดันจนสามารถ เอาชนะการเสียบสกัด วิ่งเข้าแย่งบอล จน ปอล ป็อกบา รวมไปถึง บรูโน่ แฟร์นันด์ส ไม่สามารถแผลงฤทธิ์ในเกมนี้ได้เลย นอกจากเกมรับแล้ว ปาร์เตย์ ยังเล่นเกมรุกได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถขยับไปเล่นในทุกๆ ตำแหน่งในแดนกลาง จนทำให้บรรดานักเตะ แมนยู จับทางกันไม่ถูกเลยทีเดียว
2. ปอล ป็อกบา โฉ่งฉ่าง และขาดสมาธิ
เกมนี้ โซลชา อัดแผงมิดฟิลด์ลงไปถึง 3 คน ทั้ง เฟร็ด, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และ ป็อกบา โดยให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส เป็นหน้าต่ำ เพื่อหวังว่าทีมจะครอบครองแดนกลางได้ดีกว่า แต่จากที่เห็นการเล่นในเกมนี้ ต้องบอกว่ามันไม่ได้ผลเหมือนนัดที่ผ่านๆ มา กลายเป็นว่า ป็อกบา เหมือนเป็นส่วนเกินในแดนกลาง เพราะดาวเตะฝรั่งเศสไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไหร่ แถมยังจ่ายบอลเสียให้เห็นหลายครั้ง โดนแย่งบอลในแดนกลางในหลายๆ จังหวะ อีกด้วย
ที่สำคัญ พอเข้าสู่ครึ่งหลัง ก็ดันพุ่งเขาไปเตะสกัด เอ็คตอร์ เบเยริน แบบสุดโฉ่งฉ่างทำให้ทีมเสียจุดโทษแบบที่ไม่น่าจะเสีย จนกลายเป็นความพ่ายแพ้ในที่สุด ซึ่งจากการทำเสียจุดโทษครั้งนี้ ทำให้เขากลายเป็นนักเตะในยุค โซลชา คุมทัพ ที่ทำเสียจุดโทษถึง 3 ครั้ง ซึ่งมากกว่าทุกๆ คนในทีมไปแล้ว นั่นเอง
3. โซลชา ยังแก้เกมช้า, เปลี่ยนตัวไม่ตรงจุด เหมือนเดิม
จากเกมดังกล่าว จะเห็นว่าแดนกลางของ แมนยู โดน นักเตะแดนกลาง อาร์เซน่อล จัดการจนอยู่หมด โดยเฉพาะ ป็อกบา ที่ออกบอลพลาด และมากจังหวะโดยใช่เหตุ แถมยังเสียบอลอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เกมตกเป็นรองตลอดครึ่งแรก และยาวมาจนครึ่งหลัง
เมื่อรู้ว่าเกมเป็นรอง โดยเฉพาะแดนกลางที่ไม่เวิร์ค แทนที่ โซลชา จะปรับระบบมาเป็น 4-2-3-1 ตามถนัด โดยถอดมิดฟิลด์ตัวกลางออกไปสักคน ซึ่งน่าจะเป็น ป็อกบา แล้วส่งกองหน้า หรือตัวริมเส้น เพื่อคุมเกมรุกให้ได้มากขึ้น ทว่า กุนซือชาวนอร์เวย์ กลับเลือกส่ง เนมานย่า มาติช กองกลางที่เชื่องช้า ลงมาแทน เฟร็ด ซะอย่างงั้น
เท่านั้นไม่พอ กว่าที่ น้าโอเล่ จะเปลี่ยนตัวรุก อย่าง ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค และ เอดินสัน คาวานี่ ก็ปาเข้าไปตั้งนาทีที่ 75 แล้ว และแทนที่จะถอดพวกบรรดาตัวรับออก ก็ดันไปถอด แนวรุกอย่าง กรีนวู้ด หรือ บรูโน่ ที่น่าจะยังพอมีทีเด็ดอยู่บ้าง ออกไปเสียอีก ขณะที่ ป็อกบา ที่ก็ไม่ได้โชว์ฟอร์มดีอะไรมาก แถมยังเล่นพลิดพลาด ยังได้อยู่ในสนามจนจบเกมอีกต่างหาก ซึ่งก็ต้องถือว่า กุนซือผีแดง ยังทำได้ไม่ดีในเรื่องการแก้เกม เหมือนเดิม
คลิปไฮไลท์ พรีเมียร์ : แมนฯ ยูไนเต็ด - อาร์เซน่อล
4. อาร์เซน่อล บุกมาชนะครั้งแรกในรอบ 14 ปี
ประตูชัยจากลูกจุดโทษของ ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง ทำให้ "ปีศาจแดง" พ่ายแพ้ อาร์เซน่อล คาบ้านในเกมพรีเมียร์ลีก เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2006 กันเลยทีเดียว และถือว่าเป็นการจบสถิติไม่เคยเสียท่าให้กับทัพ "ปืนใหญ่" 13 แมตช์ติดต่อกัน (ชนะ 8, เสมอ 5) ลงเรียบร้อยแล้ว
ส่วน ผู้มาเยือน ก็สามารถบุกมาชนะทีม Big 6 ได้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0 เมื่อเดือนมกราคม ปี 2015 จบสถิติไรัชัย 29 เกมติดต่อกัน (เสมอ 10 แพ้ 19 เกม)
ปิดท้ายด้วยสถิติอันย่ำแย่ ที่ยังไม่สามารถชนะได้เลย กับการเล่น 4 เกมแรกในลีก ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด (แพ้ คริสตัล พาเลซ 1-3 / แพ้ สเปอร์ส 1-6 / เสมอ เชลซี 0-0 / แพ้ อาร์เซน่อล 0-1) ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 1972/1973 กันเลยทีเดียว
-------------------------------------------------
ดูบอลสดพรีเมียร์ลีก ได้ฟรีทางช่อง ไอดี สเตชั่น ง่ายๆเพียงแค่สมัครสมาชิกทรูไอดีและล็อคอิน สมัครสมาชิกทรูไอดีได้ที่นี่ ก็สามารถดูบอลสดได้เลยทันที !!
-------------------------------------------------
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ตัดเกรด!! แข้ง แมนยู / ปืนใหญ่ หลัง ผีแดง ฟอร์มแย่ พ่ายคารัง 0-1
ผลบอล สรุปผล ไฮไลท์ยิงประตู ศึกพรีเมียร์ลีก 2020/21 นัดที่ 7 ทุกคู่ทุกสนาม
-------------------------------------------------