ลิเวอร์พูล เตรียมทำศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกนัดที่ 4 กับ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส ในคืนวันพุธนี้ แม้ว่าหลังจากที่พ่ายให้กับปืนใหญ่แบบน่าเสียดายและเต็มไปด้วยความกังขากับลูกเจ้าปัญหาแต่เกมมันก็ได้จบไปแล้ว แต่สิ่งที่กลายเป็นคำถามตัวโตของเหล่าสาวกหงส์แดงในฤดูกาลนี้ก็คือ “ทำไมลิเวอร์พูลถึงฟอร์มตกได้ขนาดนี้” หากมองแค่ผิวเผินส่วนหนึ่งก็มาจาก นักเตะที่ทยอยกันบาดเจ็บตั้งแต่ต้นฤดูกาล แต่หากมองในแง่ของเทคนิคหรือปัจจัยด้านอื่น ๆ ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของตัวนักเตะกับเรื่องระบบ ที่ดูจะเป็นปัญหาใหญ่ของหงส์แดงมาตั้งแต่ต้นฤดูกาล ระบบการเล่น 4 – 3 – 3 ที่ เจอร์เกน คล็อปป์ ใช้มาอย่างยาวนานกับหงส์แดงทำให้เป็นที่โจษจันและหลายทีมก็ได้นำระบบนี้ไปใช้งาน แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่ากับหงส์แดง ที่เน้นให้นักเตะเพรสซิ่งสูงตั้งแต่แดนหน้าแล้วให้แดนกลางคอยดักเก็บ ทำให้เมื่อตัดบอลได้ยังเหลือนักเตะแนวรุกแดนหน้ามากขึ้น ซึ่งในตอนนั้นประกอบไปด้วย ซาดิโอ มาเน่ , โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ และ โมฮาเหม็ด ซาร์ลา อีกทั้งยังมีวิงแบ็คที่คอยเติมเกมรุกสองฝั่ง เพื่อเพิ่มมิติเกมรุกมากขึ้น แม้ว่าหลังจากที่ไม่มี ซาดิโอ มาเน่ แผนการเล่น 4 – 3 – 3 ก็ยังถูกใช้กับศูนย์หน้าคนใหม่ ดาร์วิน นูเญซ แต่สิ่งที่ออกมากลับไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด เพราะดูจากองค์ประกอบเรื่องของทางวิ่ง การหาจังหวะเข้าทำ ศูนย์หน้าค่าตัวแพงรายนี้ดูจะไม่ค่อยเข้ากับแผนนี้ซักเท่าไหร่ จากผลงานหลายเกมที่ออกมาระบบนี้เหมือนจะไม่ใช่คำตอบกับศูนย์หน้าความเร็วจัดรายนี้ แต่ในเกม กลาสโกว์ เรนเจอร์ส ในเกมแรกของUCL สร้าความประหลาดใจกับแฟนบอลที่ ผู้จัดการทีมกล้าที่จะเปลี่ยนเป็น 4 – 2 – 3 – 1 ที่เน้นเรื่องของเกมรุกจริงๆโดยใช้ตัวรุกธรรมชาติ ไม่ต้องพึ่งวิงแบ็คสองข้างเพื่อเติมเกมอีกต่อไป รูปแบบการเล่น 4 – 2 – 3 – 1 จากเกมนั้นสิ่งหนึ่งที่ได้เห็นอย่างชัดเจนคือวิงแบ็คสองข้างไม่จำเป็นที่จะต้องเติมเกมสูง ซึ่งเป็นการอุดช่องโหว่ที่เหล่ากูรูได้เคยวิจารณ์ว่าการใช้วิงแบ็คอย่าง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ คอยเติมเกมรุกทำให้คู่แข่งจับทางได้ในจุดนี้และก็ใช้เป็นจุดที่โจมตีอยู่บ่อยครั้ง เพราะอย่าลืมว่าเมื่อต้องวิ่งขึ้นลงตลอดทั้งเกม พลังงานก็จะหมดตามไปด้วย ฉะนั้นมันเป็นการเป็นจุดอ่อนที่เห็นได้ชัด แต่ในทางกลับกันระบบใหม่ไม่จำเป็นที่จะต้องเติมเกมรุกสูงบ่อยมากนัก ทำให้รักษาเกมรับในตำแหน่งของตัวเองได้ไม่เปิดช่องโหว่ ที่จะเป็นจุดโจมตีของคู่แข่ง แล้วในเกมที่เจอกับอาร์เซน่อลทำไมถึงใช้ไม่ได้ผล? ก็อย่างที่บอกไปว่าระบบนี้ก็เพิ่งจะถูกนำมาใช้ได้เพียงไม่กี่เกม การที่จะให้นักเตะปรับตัวกับแผนการเล่นแบบหักดิบก็ไม่ใช่เรื่องง่าย คงต้องใช้เวลาในเรื่องนี้พอสมควรกว่าที่นักเตะจะปรับตัวกับแผนใหม่ได้ ตลอดทั้งเกมที่เจอกับอาร์เซน่อล บ่อยครั้งที่ตัวของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เหมือนจะพยายามวิ่งขึ้นไปเติมเกมรุกหรือเผลอวิ่งไปพยายามจะดันสูง แต่เหมือนพอนึกขึ้นได้ก็ไม่วิ่งต่อและก็ทำให้เพื่อนในทีมเองจะส่งบอลหรือมองหาตัวข้างหน้าที่เคยมีกลับหายไป ทำให้การต่อบอลริมเส้นนั้นดูไม่ค่อยลื่นไหลอย่างที่ควรจะเป็น ทางออกของหงส์แดงที่จะเรียกฟอร์มเก่งกลับมานั้นตัวของผู้จัดการทีมเอง “ก็ได้ออกมาพูดว่าเหตุผลที่แพ้อาร์เซน่อลไม่ใช่ผิดพลาดที่ระบบ แต่เป็นตัวของนักเตะที่ยังไม่คุ้นเคยกับสิ่งใหม่นี้เท่าไหร่ สิ่งเดียวที่จะทำให้ฟอร์มกลับมาเหมือนเดิมก็คือต้อใช้เวลา” จากบทสัมภาษณ์นี้ มันช่างสอดคล้องกันกับผลงานที่ออกมา โดยเฉพาะกับนักเตะอย่าง โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ ที่กลายเป็นตัวซุปเปอร์ซัพของทีมไปเรียบร้อย ณ เวลานี้ อีกหนึ่งรายที่ระบบการเล่นใหม่นี้น่าจะเอื้อให้กับเจ้าตัวได้พิสูจน์ตัวเองก็คือ ดาร์วิน นูเญซ ที่จะได้มีพื้นที่มากขึ้นในแดนหน้าตำแหน่งหน้าเป้า อีกทั้งยังมีอิสระที่จะสลับสับเปลี่ยนกับ ดิเอโก้ โชวต้า ในการเคลื่อนตัวเข้าด้านใน สิ่งที่ว่ามานี้ก็คงมีเพียงเวลาที่จะเป็นตัวสร้างความเข้าใจในแผนการเล่นใหม่ของลิเวอร์พูล แม้ว่าจะเป็นฤดูกาลที่ยากลำบากสำหรับหงส์แดง แต่ก็ยังเชื่อว่าเวลาจะเป็นตัวพิสูจน์ความแข็งแกร่งของแชมป์ยุโรป 6 สมัยว่ามีดีกว่าที่เห็นแน่นอนข่าวที่เกี่ยวข้องอาร์เซนอล Vs ลิเวอร์พูล รวมประเด็นเด็ดก่อนเกม บทพิสูจน์สองโคตรทีมที่ต่างกันลิเวอร์พูล ปัญหาที่ถาโถม อิ่มตัว ค่าเหนื่อย เจ็บระนาว ความกดดันจัดอันดับ 5 นักเตะ ลิเวอร์พูล ฟอร์มห่วยเกม แดงเดือด นัดแรกในพรีเมียร์ลีก 2022/23วิเคราะห์ปัญหา ลิเวอร์พูล เหตุใดถึงผลงานแย่ พร้อมหนทางแก้ไขกลับคืนสู่ความสำเร็จลิเวอร์พูล ความแข็งแกร่งที่เริ่มจะเลือนหาย การทดแทนที่มิอาจเทียบ?เครดิตภาพปก twitter.com/LFC :: ภาพที่ 1 , facebook.com/TrueIDSports:: ภาพที่ 2เครดิตภาพปก twitter.com/LFC :: ภาพที่ 1 , ภาพที่ 2 , ภาพที่ 3 , ภาพที่ 5 , ภาพที่ 6 , twitter.com/Arsenal :: ภาพที่ 4 อัปเดตข่าวสาร ติดตามผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกแบบไม่พลาดทุกนัดที่ ทรูไอดี คอมมูนิตี้ ห้อง 'ฟุตบอล'