จบลงเป็นที่เรียบร้อยสำหรับศึก UEFA Champions League นัดแรกและเป็นคู่แรก ถือเป็นเกมที่สุดมันเอามากๆยิงรวมกันไปถึง 7 ประตู หลังเกมมีอะไรให้เราได้พูดถึงกันบ้างนั้น เราไปดูกันเลยเริ่มที่ 11 ผู้เล่นตัวจริงกันก่อนเลยฝั่งเจ้านบ้าน แมนซิตี้ นำมาโดย : เอแดร์ซอน; จอห์น สโตนส์ (แฟร์นานดินโญ น.36), รูเบน ดิอาส, อายเมอริค ลาปอร์กต์, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้; เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้ เอร์นานเดซ, แบร์นาร์โด้ ซิลวา; ริยาด มาห์เรซ, กาเบรียล เชซุส (ราฮีม สเตอร์ลิง น.83), ฟิล โฟเด้นส่วนทีมเยือน เรอัลมาดริด ก็นำทัพมาโดย : ธิโบต์ กูร์ตัวส์; ดานี การ์บาฆาล, เอแดร์ มิลิเตา, ดาวิด อลาบา (นาโช เฟร์นานเดซ น.46), แฟร์กล็องด์ เมนดี้; เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้, โทนี โครส, ลูก้า โมดริช (ดานี เซบาญอส น.79); โรดรีโก้ (เอดูอาร์โด้ คามาวินก้า น.70), คาริม เบนเซมา, วินิซิอุส จูเนียร์ (มาร์โก อเซนซิโอ น.88)จังหวะในเกมคร่าวๆ โอกาสแรกเป็นของแมนซิตี้ นาทีที่ 2 แมนซิตี้ขึ้นนำได้ก่อน 1-0 จากจังหวะที่ ริยาด มาห์เรซ ตัดบอลเข้าในจากฝั่งขวาก่อนที่จะเปิดให้กับ เควิน เดอ บรอยน์ พุ่งมาโหม่งที่เสาสองเข้าประตูไปนาทีที่ 11 แมนซิตี้นำห่างเป็น 2-0 จากบอลเปิดของ เควิน เดอ บรอยน์ เปิดเข้าไปข้างในกรอบให้กับ กาเบรียล เชซุส ตอนแรกเหมือนจะจับบอลไม่ดีแล้วแต่เจ้าตัวยังกลับตัวมายิงได้ทันนาทีที่ 26 เป็นจังหวะที่น่าได้เอามากๆของฝั่งแมนซิตี้ ริยาด มาห์เรซ ได้หลุดฝั่งขวาและฝั่งซ้ายก็มีทางด้าน ฟิล โฟเด้น เติมขึ้นมาด้วยแต่เจ้าตัวเลือกที่จะยิงเองแต่บอลก้ไม่เข้ากรอบนาทีที่ 33 เรอัลมาดริดไล่มาเป็น 2-1 จากกองหน้าตั๋วเก๋าอย่าง คาริม เบนเซมา จากบอลเปิดของ แฟร์กล็องด์ เมนดี้ เจ้าตัวยิงกดลงพื้นทำให้บอลกระดอนผ่านเซฟของ เอแดร์ซอน เข้าประตูไปจบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้เปิดบ้านขึ้นนำเรอัล มาดริดอยู่ 2-1เริ่มครึ่งหลังมา นาทีที่ 48 ริยาด มาห์เรซ ได้หลุดอีกครั้งทางฝั่งขวาครั้งนี้เจ้าตัวเอียงแปเน้นๆไปแล้วแต่บอลไปชนเสา กระดอนกลับมาเข้าทาง ฟิล โฟเด้น ได้ซ้ำจ่อๆก็ไปติดบล็อกของทางด้าน ดานี การ์บาฆาลนาทีที่ 52 แมนซิตี้นำห่างอีกครั้งเป็น 3-1 จากจังหวะเปิดบอลจากทางด้านขวาของ แฟร์นานดินโญ เปิดมาให้กับ ฟิล โฟเด้น โหม่งจ่อๆเข้าประตูไปนาทีที่ 54 เรอัลมาดริดไล่มาเป็น 3-2 จากจังหวะโซโล่เข้ามาคนเดียวของทาง วินิซิอุส จูเนียร์ จากทางฝั่งซ้ายก่อนที่เจ้าตัวจะยิงบอลผ่านมือของ เอแดร์ซอน เข้าประตูไปนาทีที่ 74 แมนซิตี้ก็มานำห่างอีกครั้งเป็น 4-2 จากลูกยิงด้วยซ้ายสุดสวยของ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ได้บอลบริเวณหน้ากรอบเขตโทษก่อนที่เจ้าตัวจะกดด้วยซ้ายเข้าเสาแรกไปอย่างสวยงามนาทีที่ 80 เรอัลมาดริดมาได้ลูกจุดโทษจากจังหวะทำแฮนด์บอลของทางด้าน อายเมอริค ลาปอร์กต์ และเป็น คาริม เบนเซมา ที่รับหน้าที่สังหารนิ่มๆเข้าไปมาดริดตามมาเป็น 4-3จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้เปิดบ้านเอาชนะเรอัล มาดริดไปได้ 4-3ความคิดเห็นหลังเกม ถือเป็นเกมที่มันส์แฟนบอลเป็นอย่างมากสู้กันได้สูสีทุกนาทีของการแข่งขันเลยก็ว่าได้ สมกับเป็นบิ๊กแมตช์จริงๆแม้ว่าทางด้านของสถิติแมนซิตี้จะดูเหมือนกว่าฝั่งทีมเยือนอยู่หน่อย แต่รูปเกมมันก็ไม่ได้ดูว่าพวกเขาดูเป็นรองเลยสักนิด สำหรับสิ่งที่ดูน่าจะเป็นสิ่งที่น่าเสียดายเลยสำหรับสองทีมในวันนี้ฝั่งเจ้าบ้านแมนซิตี้ถือว่าใช้โอกาสเปลืองไปหน่อย จากจังหวะทั้งหมดในเกมนี้พวกเขาความยิงได้มากกว่า4ประตูด้วยซ้ำโอกาสทองที่พวกเขาทำหลุดมือไปถือว่าเยอะพอสมควร ส่วนทางฝั่งทีมเยือนต้องบอกว่าเกมรับของพวกเขาวันนี้เละไม่เป็นท่าเลยก็ว่าได้ โดยที่เกมรุกยังถือว่ายิงประตูได้เรื่อยๆแต่เกมรับก็ถือว่าพร้อมจะเสียได้ตลอดเวลาเช่นกัน ก็ต้องไปวัดกันต่อนัดหน้าเลยครับการนำแค่ประตูเดียวไม่สามารถการันตีอะไรได้อยู่แล้วเป็นยังไงกันบ้างสำหรับเกมในคืนนี้ เพื่อนๆได้ดูเต็มเกมกันบ้างรึเปล่าคิดเห็นเช่นไรกันบ้างคอมเม้นมาพูดคุยกันได้ครับ เครดิตรูปภาพภาพปก ภาพโดย : UEFA Champions Leagueภาพที่ 1 ภาพโดย : Manchester Cityภาพที่ 2 ภาพโดย : Real Madrid C.F.ภาพที่ 3 ภาพโดย : UEFA Champions Leagueภาพที่ 4 ภาพโดย : UEFA Champions Leagueภาพที่ 5 ภาพโดย : UEFA Champions Leagueภาพที่ 6 ภาพโดย : UEFA Champions Leagueส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมตช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !